จากการให้บริการปรึกษา พบว่าผู้ที่มาใช้บริการ มีปัญหาชีวิต การเรียน ความรัก ครอบครัว การเงิน และบุคลิกภาพขัดแย้ง มีปัญหาการปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อม จะเห็นได้ว่า คนๆหนึ่งจะมีปัญหามากกว่าหนึ่งเสมอ อาทิ : ปัญหาความรัก สิ่งที่ช่อนเร้น แฝงมากับความรักของคนๆนั้นจะเป็นเรื่องอารมณ์ ความรู้สึก
อารมณ์ในทางบวก รู้สึกสดชื่น มีความสุข ความสมหวัง ดีใจ ตื่นเต้น
อารมณ์ในทางลบ รู้สึกเหงา เศร้าเดียวดาย ว้าเหว่ หงุดหงิด ความคิดไปกันไม่ได้ กลัวถูกทิ้ง ขาดความรัก ขัดแย้ง รักไม่สมหวัง รักต้องแค้น ปัญหาเหล่านี้ผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้ให้คำปรึกษา คงจะต้องให้ความตระหนัก ระแวดระไว กับอารมณ์ความรู้สึกที่ส่งมา ในกระบวนการให้คำปรึกษาและช่วยเหลือ เพราะผู้ที่มารับคำปรึกษา เขาต้องการความช่วยเหลือจริงๆ และร่วมกันหาแนวทางออกของปัญหาในทางที่เหมาะสมและการแสดงออกต่อปัญหาตรงกับคำสอนดัง นี้
การแสดงออกของมนุษย์ต่อปัญหา
1.ไม่รู้ + ไม่ชี้ : ไม่คิด /ยอมรับว่ามีปัญหา ไม่รู้ตัว ไม่รับรู้ ไม่สนใจ มองข้าม ปล่อยให้ผ่านไปเฉยๆ
2. ไม่รู้ : แต่พยายามชี้ : มีปัญหาส่วนตัว ไม่รับรู้ ละเลย ชอบใส่ใจเรื่องคนอื่น= มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ
3. รู้อยู่ แต่ไม่ยอมชี้ : รู้ว่ามีปัญหา ขี้ขลาด ไม่กล้าเสี่ยง ไม่ใส่ใจ
= ธุระไม่ใช่ ไม่แสดงออก ใครจะเป็นอย่างไรก็ช่าง
4. รู้ด้วย + ชี้ด้วย : รับรู้ปัญหา สนใจ แจกแจง พยายามแก้ไข ปรับปรุง
ที่มาจาก:พระราชธรรมนิเทศ (ระแบบ ฐิตญาโณ) วัดบวรนิเวศวิหาร
ผมเสนอให้มีการทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องจิตวิทยาอย่างเป็นรูปธรรมสักเรื่องดีไหมครับ และนำผลการวิจัยนั้นไปขยายผลต่อยอด...
และเมื่อจะทำ ก็ยินดีเป็นกำลังใจให้นะครับ...