ในโลกของการทำงานมักเต็มไปด้วยอุปสรรคนานัปประการเสมอ โดยเฉพาะในการงานที่ใหม่ต่อเรา - เราต่างก็ย่อมวิตกกังวลต่อวันนี้และวันข้างหน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องธรรมดาสามัญที่เกิดขึ้นได้และเกิดขึ้นเสมอกับห้วงชีวิตของคนเรา
สำคัญคือ... เราต้องไม่ยอมจำนนต่ออุปสรรคนั้น ๆ ... จำนน หรือจำยอมโดยที่ไม่คิดแม้แต่จะ "เริ่มต้น"
....
มิ่งมิตร
การที่เธอยอมก้มหัวให้อุปสรรค
โดยไม่ยอมเริ่มต้นแก้ปัญหาด้วยการ "คิด"
ราวกับไม่เชื่อมั่นในศักยภาพของมันสมองอันละเอียดอ่อนแห่งเธอแล้ว
เธอย่อมไม่ต่างอะไรจากแม่ทัพผู้ขี้ขลาด -
หวาดกลัวแม้กระทั่งยังไม่ย่างกรายลงสู่สมรภูมิสงครามเลยแม้แต่ก้าวเดียว
ที่สุดแล้ว
ก็ตัดสินใจใช้ดาบในมือปลิดชีพตนเอง
เพียงเพื่อปรารถนาหลีกหลบจากสงครามที่กำลังย่างกรายมาเยือน
มิ่งมิตร
เธอเองก็เช่นกัน
เมื่อเธอไม่ยอมที่จะเริ่มต้นแก้ปัญญาด้วยการ "คิด"
เธอก็ไม่แตกต่างอะไรจากแม่ทัพผู้ขี้ขลาดเลยแม้แต่น้อย
นั่นย่อมสื่อแสดงให้เห็นชัดแล้วว่า
มิ่งมิตรของฉัน
เธอได้ตัดสินใจยอมจำนนต่อการ "ฆ่าตัวตาย"
อ่านแล้วก็สะท้อนครับ...
ก่อนการเริ่มต้นย่อมมีความกลัวอยู่บ้าง แต่คงต้องเอาชนะความกลัวด้วยใจที่เข้มแข็งของเราครับ...
ขอบคุณครับ...
สวัสดีค่ะคุณแผ่นดิน..ผู้เสพวรรณกรรมแทนอาหารว่าง..
แวะเข้ามาบอกว่าชอบจังค่ะ.. ^ ^
เราต้องไม่ยอมจำนนต่ออุปสรรคนั้น ๆ ... จำนน หรือจำยอมโดยที่ไม่คิดแม้แต่จะ "เริ่มต้น"
...แต่หลายท่านเกิดหมดแรง หมดใจเสียก่อนนี่สิครับ
เมื่อเธอไม่ยอมที่จะเริ่มต้นแก้ปัญญาด้วยการ "คิด"
ถ้าคิดแล้ว มันคิดไม่ออกจริงๆ เปรียบถึงขั้น ฆ่าตัวตาย (ทางความคิด) เลยหรือครับ ว้า...
ไม่ว่าจะเป็นการจำนน หรือจำยอม แต่หากรู้จักวิธีการของความหมายของสองคำนี้อย่างมีเหตุผล นั่นอาจเป็นหยุดคิด เพื่อให้สามารถต่อสู้กับอุปสรรคนั้นได้ เพราะบางครั้งการต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ควรต่อสู้
เรายอมจำนน หรือจำยอม ย่อมไม่ดีกว่าหรือ!!!!!!!!!!
สวัสดีครับ
...บันทึกนี้เน้นเรื่องความกล้าที่จะเริ่มแก้ปัญหา..ส่วนเหนื่อยล้าก็พักก่อน แล้วค่อยเริ่มใหม่ก็ได้ครับ
ขอบคุณมากนะครับ ที่แวะมาร่วมแลกเปลี่ยนอยู่อย่างสม่ำเสมอ
ขอบพระคุณท่าน อ. JJ เป็นอย่างสูงครับ
...ใช่แล้วครับ ชีวิตท้อได้แต่อย่าถอย และเดินไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ ก็ยังดีกว่าการเดินถอยหลัง
...ขอบคุณนะครับ การเติมเต็มบันทึกนี้ ซึ่งดูเหมือนบันทึกผมจะเน้น หรือพุ่งเป้าไปแนวทางเดียวอย่างสุขโต่ง (จนเกินไป) เพราะต้องการย้ำว่าคนเราต้องกล้าหาญที่จะเริ่มต้นและเริ่มทำในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ผมชอบเรื่องกาคิดนอกกรอบมาก...จนทุกวันนี้ ใครต่อใครก็แซวผมเสมอว่า "นอกกรอบ" แต่ที่จริง, ผมก็เป็นคนเคารพระบบมากครับ
ผมเชื่อว่าคุณเบิร์ดเป็นคนกล้าที่จะลงมือทำสิ่งใดด้วยปัญญาอยู่แล้ว
....
เป็นกำลังใจให้คนทำงานอย่างคุณเบิร์ดนะครับ !
เป็นยังไงบ้างครับช่วงนี้ ดูยุ่ง ๆ หรือเหนื่อยล้ากับสิ่งใดบ้างเหรอครับ...
ผมว่าชีวิตคนเราเหนื่อยนักก็พัก.. คือ สิ่งที่ถูกต้องแล้ว แต่ก็คงไม่ปล่อยให้ตนเองได้พักยาวจนเฉื่อยและชา
และส่วนหนึ่งที่เป็นห่วงชีวิตก็คือ ความไม่กล้าที่จะคิดและกล้าที่จะลงมือทำในสิ่งใหม่ ๆ อย่างน้อยต้องกล้าไว้ก่อน จึงจะรู้ว่าสิ่งใดทำได้และทำไม่ได้..และต้องไม่ลืมเติมกำลังใจให้ชีวิตตนเองด้วยเช่นกัน
....
บันทึกนี้ ผมเน้นความกล้าที่จะคิด กล้าที่จะแก้ปัญหา มิใช่หนีปัญหาโดยไม่ลงมือคิด หรือลงมือทำ
...
เป็นกำลังใจให้เสมอนะครับ
ถูกต้องครับ....จังหวะ คือ สิ่งที่ต้อคำนึงถึง...แต่ยังไงผมก็เพียงแต่เสนอมุมมองของความกล้าหาญที่จะเผชิญปัญหาและแก้ปัญหาเท่าน้นเอง
ขอบคุณครับ....
...ขอบคุณครับที่แวะมาให้แนวคิดและกำลังใจ
ตราบยังมีลมหายใจที่ไม่ท้อ...ณ ฝั่งฝัน ก็ไม่ไกลเกินใจจักโบยบิน
ดีใจที่มีคนเห็นเจตนาที่ผมฝากไว้ในข้อความ
เพราะเน้นเรื่องความกล้าที่จะคิด กล้าที่จะทำ เป็นที่ตั้ง รวมถึงการกล้าหาญที่จะลองทำในสิ่งแปลกใหม่ ไม่กลัวต่อสิ่งที่เดินทางมายังไม่ถึง
...
ขอบคุณมากครับ
คนรอบข้างก็มีส่วนสำคัญในการให้กำลัง ไม่ซ้ำเติม เพราะเรื่องเล็ก อาจกลายเป็นเรื่องบานปลายได้ครับ (เรื่องไม่เป็นเรื่อง)
สวัสดีครับ. น้องแจ็ค
ขออภัยที่ตอบบันทึกช้ามาก..วันนี้พี่ไปราชการกลับมาก็ค่ำแล้วครับ...(พรุ่งนี้ไปต่อ....)
คนรอบข้างเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในโลกของชีวิตและการงานเสมอ..
ขอบคุณครับ