หลังจาก พิธีมอบ ประกาศนียบัตรรับรอง HA HPH แล้ว มีเรื่องที่น่าสนใจ มาก เรื่อง
" พลังแห่งการงาน เกียรติยศ และความภูมิใจของคนทำ "
คนน้อยลงมากเลยครับ จากเป็น พันคน เหลือเพียงร้อยกว่าคน จนอาจารย์หมอ โกมาตร์ บอกว่าเหลือแต่พวก แฟนพันธ์แท้ มีกี่คนก็จะพูด
ผู้เข้าร่วมเสวนา คือ
คุณหมอสมยศ ศรีจารนัย |
รพ.เขาวง กาฬสินธุ์ |
คุณซิวสูเฟิน หรือ คุณเมตตา |
จากมูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวัน แห่งประเทศไทย |
คุณลุงโสภณ พัฒนะอิ่ม |
จากเชียงใหม่ |
และคุณหมอ โกมาตร จึงเสถึยรทรัพย์ |
เป็นผู้ดำเนินการเสวนา |
คุณหมอสมยศ : เล่าว่า ตอนเราพัฒนา บันไดขั้นแรก เราต้องการแก้ ความเสียหาย เมื่อเกิดความเสียหายเราก็หาวิธีป้องกัน เรากำลัง วิ่งไล่ตามเรื่องราว เชิงลบ จนเหนื่อย
เราน่าจะเริ่ม มีการบริหารความสุข มีสิ่งดี ๆ พบสิ่งดี ๆ มาเล่าให้กันฟัง พูดเรื่องความดี เล่าเรื่องความดีของคนอื่นได้ ทำอะไรพลาดก็มาเล่าให้กันฟังได้ ค้นหาความสุข ทำจนเป็นวัฒนธรรมที่กลมกลืน
มีการ ชี้วัดเรื่องการทำดี " คุณค่าของงาน เรื่องเล่าดี ๆ เป็นยาแก้ท้อ ของคนทำดี "
คุณหมอบอกอีกว่า
" ความสำเร็จ ไม่ได้อยู่ที่จุดสิ้นสุด แต่สามารถเก็บเกี่ยวได้ระหว่างการเดินทาง " => " Success not destination ,but journey . "
คุณเมตตา : เอา dvd การ์ตูน ล้อชีวิต ตั้งแต่เกิดจน ตาย เราวิ่งมาตลอด แม้จะเหนื่อย แสนสาหัส คนเราก็ยังวิ่งไปเรื่อย ๆ ด้วยพลังขับ ของ กิเลส ( ตอนเลิกงานผม ขอ file dvd จากคุณเมตตามาด้วย ครับ โชคดีและเป็นรางวัลของคนที่อยู่จนจบ ) ชีวิตคุณเมตตาก็วิ่งมาตลอด ใช้ชีวิตด้วย ความรัก โลภ โกรธ หลง วัตถุนิยม เสียใจ ดีใจ
คุณเมตตาเป็นอาสาสมัคร ฉือจี้ บอกว่า ที่ฉือจี้
"เห็นคนทุกยาก เหมือนเจอเพชร พลอย "
" ทำความดีด้วยความสมัครใจ และรับด้วยความปิติยินดี "
" อภัยต่อคนอื่น คือดีต่อตนเอง "
" ที่ ฉือจี้ ไม่มีสถานสงเคราะห์คนชรา เพราะฉือจี้ถือว่า ความกตัญญู เป็นหน้าที่ของลูก "
ผมว่า ถูกต้องทีเดียว ชอบเป็นพิเศษ เพราะ1. ลูกควรจะได้บูญที่ยิ่งใหญ่ อันนี้ มากกว่าคนอื่น2. มี 2 วิธี ที่จะทำให้คนสูงอายุได้รับการดูแล คือ การสร้างบ้านพักคนชรา กับ การสร้างจิตสำนึก ของลูกในการดูแลบุพการี ฉือจี้ น่าจะเลือกวิธีที่ 2 อย่างจริงจัง เพราะเป็นการ empower ในเรื่องความกตัญญู ถ้าแรงของ ความศรัทธา มีมากพอ เราจะไม่พบผู้สูงอายุถูกทอดทิ้งอีกเลย |
ที่ฉือจี้ บอกว่า ต้องทำความดีถึง 500 ปี ถึงจะได้เป็นคุณหมอ คุณเมตตาอิจฉาพวกเรามาก เขาศรัทธาในการทำความดี ครับ
บุคคลากรของเรา มีบุญมากครับ คนทุกข์ มาหาทุกวัน วันละหลายคน เราเจอเพชร พลอย ทุกวัน แต่พวกเขาต้อง ออกไปหา เพชรหาพลอย หาคนที่จะช่วยเหลือ ( " ทำให้ ผมนึกถึง คำพังเพยเรื่อง " ไก่ได้พลอย " ขึ้นมาทันที )
ตั้ง 500 ปี ถึงจะได้มีโอกาสเป็นหมอ เป็นพยาบาล เลยทีเดียว ครับ
*** คุณหมอ สกล สิงหะ บอกว่า แพทย์เป็นบุคคลที่มีอภิสิทธิ์ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเลยทีเดียว ที่สามารถได้รับรู้เรื่องราว ความสุข ความทุกข์ แม้กระทั่งความลับ ของชิวิต คน |
คุณลุงโสภณ : เป็นข้าราชการ ชลประทานเก่าครับ เกษียณ อายุมาแล้ว มีจิตอาสา ( Volunteer spirit ) ที่จะช่วยงานสังคม เพราะรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าเพียงพอ เป็นแกนนำ ช่วยเหลือผู้ป่วยจิตเวช ที่ไม่สามารถอยู่ในสังคมได้ ให้สามารถกลับมาอยู่ในสังคมได้อีก ครับ คุณลุงคลุกคลี เยี่ยมบ้าน เข้าไป ค้นหาปัญหาในชุมชน ด้วยใจที่อยากช่วยเหลือ จริง ๆ
ผม อยากให้พวกเรา ได้ศึกษา ว่าคุณลุงและแกนนำ มีจิตอาสาได้อย่างไร ไม่ใช่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ไม่มีความรู้อะไรมาก ไม่จำเป็นต้องมาข้องเกี่ยวด้วยซ้ำ แต่ เกิดจากใจ ที่บริสุทธิ เมื่อได้เห็น ความทุกข์ยาก ของผู้ป่วย จิตเวชหลวงพ่อวัด หนองตอง : ความรู้เป็นเพียงพื้นฐาน แต่หัวใจที่มีเมตตาธรรมล้นทรวงต่างหาก ที่ทำให้ การทำงานสำเร็จ |
ตอนเลิกงาน ผมขอ DVD การ์ตูน และเรื่องราวของ โรงพยาบาล ฉือจี้ไต้หวัน กับคุณ คุณซิวสูเฟิน
โรงพยาบาล ฉือจี้ เขาถือว่า ที่ทำงาน คือ สถานที่ปฏิบัติธรรม ครับ
ไปกินข้าวต่อกับทีม โรงพยาบาล ที่นิตยาไก่ย่าง แค่วันแรกก็คุ้มค่าแล้วละครับ ที่ตัดสินใจมา
ไม่มีความเห็น