ที่ผ่านมามีคนชอบถามว่าทำไมเราต้องจัดการความรู้ ไม่ทำแล้วจะมีปัญหาอะไร
จากคำถามก็รู้ได้ทันทีว่าคนที่ถามไม่ทราบว่าการจัดการความรู้เป็นธรรมชาติ ที่ทุกคนทำอยู่แล้ว และ การจัดการความรู้ หรือ KM นั้นก็อยู่กับทุกชีวิต ไม่ว่าจะเป็นพืช สัตว์ หรือ แม้กระทั่งจิตวิญญาณ
แต่ถ้าเราไม่มองอย่างพยายามจะเข้าใจ ก็จะมองข้ามไปว่า เป็น “ปรากฏการณ์” ตามธรรมชาติ หรือ ในกรณีของสัตว์ ก็มองข้ามอย่างไม่สนใจว่า เป็น “สัญชาตญาณ” และไม่พยายามจะเข้าใจว่าเรื่องนี้มีที่ไปที่มาอย่างไร ทั้งๆที่เป็นการพัฒนาการ “จัดการความรู้” ในระดับโมเลกุล ลองผิดลองถูกมาหลาบชั่วชีวิต จนเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดในสภาพแวดล้อมนั้น และเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ในหลักการของการจัดการความรู้แบบธรรมชาติ
แต่ในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนั้น การพัฒนาโดยธรรมชาติอาจจะไม่ทันและอาจจะสูญพันธุ์ไป แต่ก็จะมีสิ่งที่ปรับตัวได้ดีกว่าก็จะพัฒนาเข้ามาแทนที่อย่างเป็นธรรมชาติ แบบ KMธรรมชาติ
เช่นเดียวกันกับความจำเป็นของการจัดการความรู้ในสมัยใหม่กับกระแสการพัฒนา ที่อาจเคยพัฒนามาอย่างช้าๆ และการจัดการความรู้แบบธรรมชาติเกิดได้ทันเวลากับความจำเป็นกับการใช้ความรู้
แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กระบวนการจัดการความรู้ธรรมชาติอาจจะพัฒนาได้ไม่ทัน และเกิดการขาดตอนของระบบการพัฒนาความรู้ และในหลายกรณีทั้งระบบของความรู้และการจัดการความรู้ก็เปราะบางไม่สามารถใช้งานกับสถานการณ์ใหม่ หรือที่เปลี่ยนแปลงไปได้
นี่คือที่มาของความจำเป็นที่จะต้องมาเน้นการจัดการความรู้ เพื่อสามารถนำความรู้มาจากที่ต่างๆมาพัฒนาเป็นความรู้เพื่อการแก้ปัญหาได้ทันเวลา และถูกต้องสถานการณ์
ลองคิดดูนะครับว่าพอจะเข้าเค้าหรือเปล่าครับขออนุญาตคะ
อยากเรียนปรึกษาว่า
จะจัดระบบความคิดของเราในหัวสมอง อย่างไรคะ
ผมกลับมองว่า การพัฒนาของมนุษย์เราดูเหมือนการปรับตัวครับ แต่ไม่เหมือน
มองดูใหม่เหมือนพยายามให้โลกปรับตามมากกว่า????
การปรับตัวก็คือการจัดการความรู้นั่นเอง
เพราะเราจะปรับไปทางไหนเราก็ต้องหาข้อมูลทางเลือกต่างๆอยู่แล้ว
การทำเช่นนั้นอยู่ในระบบคิดอยู่แล้วครับ
ขอบคุณคะอาจารย์แสวง
ขออนุญาตอีกนิดคะ
นุชมักจะโดนเตือนเสมอว่า ให้ไปจัดระบบคิดของตัวเองก่อน
คือ ในสมองมีเรื่องมากมาย แบบว่าสับสนมาก ไม่รู้ว่าคิดมากไปหรือเปล่า
นุชพยายามปรับแต่ก็ เกิดสับสนตลอดเวลา (เศร้ามากๆเลยคะตอนนี้)
เรียนอ.แสวง
ถ้าคนเรารู้จักวางระบบความคิด วางระบบการทำงานจะก็จะเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับคนรุ่นต่อไป หรือให้ทันกับยุคสมัย
สุดท้ายนี้ขอให้อาจารย์มีสุขภาพให้แข็งแรงนะค่ะ จะได้เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับราณี และชาว g 2 k ต่อไปค่ะ
ความสับสนมักเริ่มที่ความคิดไม่เป็นระบบ
หรือขาดกรอบคิด
มีทางเลือกอย่างน้อย ๒ ทาง
แต่ผมเข้าใจว่าน่าจะมาจากกรอบความคิดไม่ชัดครับ
ผมพัฒนาระบบคิดส่วนใหญ่มาจากทางโลก แต่ก็มีทางธรรมบ้างครับ ก็พยายามผมสาน และมองโลกแห่งความเป็นจริง อยู่กับความจริง และมรณานุสติเป็นแกนนำครับ ทำให้ไม่ฟุ้งซ่านครับ
ดีครับคุณอาลัย
พยายามไปเรื่อยๆ เด๊ยวก็คล่องเอง