ฉากที่ปิดลงอย่าง....ไม่สวยงาม


ผมจะต้องสร้างความเข้าใจให้ผู้ปกครองของเด็กกลุ่มนี้เห็นความสำคัญของการอ่านออกเขียนได้เสียก่อน ก่อนที่จะเริ่มดำเนินการอีกครั้ง

          สืบเนื่องจากบันทึกเรื่อง  เด็กเกเร...กับข้อค้นพบที่กำลังเปิดฉาก ที่ผมได้บันทึกเกี่ยวกับความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะช่วยแก้ไขปัญหานักเรียนที่อ่านหนังสือ เขียนหนังสือ ไม่คล่อง ผมและเพื่อนครูอีก 2-3 คน ได้ช่วยกันสำรวจนักเรียนพบว่า นักเรียนชั้น ป.4- ม.3 มีนักเรียนในกลุ่มดังกล่าวจำนวน 45 คน น่าตกใจครับเมื่อได้เห็นจำนวนนักเรียนมากขนาดนั้น  แต่ในครั้งแรกนำมาทดสอบการอ่านและเขียนคำศัพท์ง่ายๆ ปรากฏว่าโล่งใจไปนิด เพราะเด็กหลายคนอ่านได้เขียนได้ แต่ที่ไม่ได้คือคำศัพท์ที่ยากเช่น  ตัวสะกดไม่ตรงมาตรา   คำควบกล้ำ และคำศัพท์ยากๆ แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่น่าเป็นห่วงมาก

        หลังจากได้เขียนโครงการเสนอต่อผู้บริหาร และผ่านเป็นที่เรียบร้อย  การดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้เริ่มขึ้น โดยใช้วิธีการสอนอ่านโดยการเทียบเสียงไตรยางค์ หรือ อักษรสามหมู่ ไปพร้อมๆ กับการฝึกเขียน อ้อ...ลืมบอกไปว่า ฟรีทุกรายการ นะครับ  ผ่านไปได้ระยะหนึ่ง  ไม่ถึง 4 สัปดาห์ ตามที่ตั้งใจไว้ "เด็กเกเร...กับข้อค้นพบที่ได้เปิดฉากไปนั้น  ได้ถูกปิดฉากลงอย่าง...ไม่สวยงาม"

        ทำไม? ฉากจึงถูกปิดลงอย่างไม่สวยงาม  ผมจะอรรถาธิบายเป็นข้อๆ ดังนี้ครับ

          1. ผู้ปกครองส่วนหนึ่งไม่ให้ความสำคัญต่อกิจกรรมนี้  สามารถแยกเป็นประเด็นย่อยๆ ตามที่ผู้ปกครองกล่าวอ้าง และไม่ยินยอมให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรม ดังนี้

                1.1 นักเรียนต้องกลับไปทำงานบ้าน

                1.2 นักเรียนต้องรีบไปเรียนศาสนา (ตอนเย็นจะมีการสอนศาสนาอิสลามที่โรงเรียนอิสลามศึกษา เนื่องจากเป็นชุมชนอิสลาม)

                1.3 นักเรียนเลิกเย็นไป  เดินทางกลับลำบาก

          2. นักเรียนกลุ่มดังกล่าวขาดความกระตือรือร้นในการเข้าร่วมกิจกรรม  บ้างก็รีบกลับไปดูทีวี  บ้างก็ห่วงเล่นกับเพื่อนๆ  บ้างก็ไม่เต็มใจเหมือนถูกบังคับ  บางวันมาเรียน บางวันก็ไม่เข้าเรียนแล้วแต่อารมณ์ ทำให้ฝึกฝนไม่ต่อเนื่อง

          3. ครูมีภาระงานมาก  ทำให้บางครั้งไม่ได้สอนตามที่กำหนดวันไว้ เช่นมีการประชุม   เข้าร่วมการอบรม  เป็นต้น  ทำให้ไม่ได้เต็มที่กับการสอนอย่างต่อเนื่องเท่าที่ควร

          จากปัญหาดังกล่าวทีมงานของเราได้นำปัญหาเข้าปรึกษากับผู้บริหาร  ซึ่งท่านก็เข้าใจ และให้กำลังใจและให้เห็นใจเด็กส่วนหนึ่งที่ตั้งใจจริงอยากอ่านออกเขียนได้  ท่านให้ระงับไว้ และให้เริ่มในภาคเรียนต่อไป ซึ่งผมเองก็เห็นด้วยครับ และจะไม่ยอมเลิกรากับกิจกรรมนี้อย่างแน่นอน และที่สำคัญ ผมจะต้องสร้างความเข้าใจให้ผู้ปกครองของเด็กกลุ่มนี้เห็นความสำคัญของการอ่านออกเขียนได้เสียก่อน  ก่อนที่จะเริ่มดำเนินการอีกครั้ง

เป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะครับ................................

 

หมายเหตุเพิ่มเติม : สนใจอ่านบันทึกอื่นๆ ติดตามได้ใน www.learners.in.th/blog/niramit1

 

หมายเลขบันทึก: 84323เขียนเมื่อ 16 มีนาคม 2007 00:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:48 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
อย่าท้อถอยนะคะ เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ การให้ความรู้คือการให้ที่ยั่งยืนที่สุดค่ะ สักวันพวกเขาจะรู้ว่า การอ่านได้คือสิ่งที่มีค่าที่สุด

ขอบคุณสำหรับกำลังใจ จากคุณ โอ๋-อโณ และเห็นด้วยอย่างยิ่งว่า "สักวันพวกเขาจะรู้ว่า การอ่านได้คือสิ่งที่มีค่าที่สุด"

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท