BM.chaiwut
พระมหาชัยวุธ โภชนุกูล ฉายา ฐานุตฺตโม

สมบัติบ้าในวัด :ปิ่นโต


สมบัติบ้าในวัด

ปิ่นโต หรือปักษ์ใต้บ้านเราเรียกกันว่า ชั้น เป็นสิ่งที่มีอยู่คู่วัดและบ้านมานาน... สมัยก่อนก็มีแต่ ปิ่นโตสังกะสีเคลือบเหมือนๆ กับ จาน ถ้วย และช้อนสังกะสีเคลือบ... ปัจจุบันแม้ว่าจะมีปิ่นโตสแตเลส และปิ่นโตพลาสติกซึ่งพวกเราเรียกกันว่า ทัพเพอร์แวร์ ... แต่ปิ่นโตสังกะสีเคลือบก็ยังนิยมใช้อยู่ไม่ได้ล้าสมัย (ไม่เหมือนกับ จานถ้วยและช้อนสังกะสีซึ่งตกยุคไปแล้ว)... ส่วนที่ปิ่นโตกลายมาเป็นสมบัติบ้าในวัดก็เพราะหลายๆ อย่างเปลี่ยนไป...

ผู้เขียนจำความได้ก็รู้จัก ชั้นหรือปิ่นโต แล้ว นั่นคือ เราจะเห็นลูกโยมพระหิ้วตามหลังพระมาบิณฑบาตหน้าบ้านตอนเช้าๆ... เมื่อโตพอที่จะไปหาข้าวกินในวัดได้แล้ว ก็มีความรู้เพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อยว่า ปิ่นโตของวัดแต่ละเถาหรือสายจะผสมพันธ์กัน นั่นคือ จากหลายๆ เถาที่มีขนาดเท่ากันก็จะมารวมลงเถาเดียวกัน ซึ่งบางครั้งปิ่นโตแต่ละอันในเถาเดียวกันก็อาจมีสีแตกต่างกันบ้าง ...นั่นมิใช่ของแปลกสำหรับของวัด...

ตามบ้านทั่วๆ ไปก็มักจะมีปิ่นโตประจำไว้อย่างน้อยบ้านละ ๑ เถา เพื่อใช้ใส่สำรับไปทำบุญตามโอกาสบ้าง หรือใช้คดห่อไปนาไปสวนหรือไปทะเลบ้างตามโอกาส... บางครอบครัวที่มีสมาชิกเยอะก็อาจมีหลายขนาด เช่น ชนิดเล็กสุดก็อาจพอกินได้เพียงคนเดียว ชนิดโตสุดสำหรับห้าคนก็กินพอ ประมาณนั้น...

เมื่อสังคมเริ่มเปลี่ยนแปลง พระ-เณรที่บวชอยู่นานๆ ก็น้อยลง ลูกโยมที่อยู่วัดก็เริ่มน้อยลงไปด้วย ถุงพลาสติกก็เริ่มเข้ามา... พระ-เณรบางรูปก็เริ่มไม่มีลูกโยมหิ้วปิ่นโตตามหลัง นั่นคือ กับข้าวหรือขนมบางอย่างก็ใส่ถุงพลาสติกลงในบาตร หรือถ้าของเยอะ พระ-เณรก็อาจมีย่ามอีกใบเพื่อไว้ใส่ของต่างหาก ส่วนในบาตรก็รับเฉพาะข้าวสวย ประมาณนี้...

สมัยก่อน หลังจากพระ-เณรฉันข้าวเสร็จ ปิ่นโตที่มิใช่ของวัด ลูกโยมก็ต้องจัดการล้างให้เรียบร้อย แล้วก็จัดเก็บไว้ให้เจ้าของมาเอา หรือบางครั้งก็เอาไปให้ที่บ้านเจ้าของ...

ปัญหาเรื่องปิ่นโตหาย หรือสลับเจ้าของนี้ ถือว่าเป็นเรื่องค่อนข้างใหญ่สำหรับลูกโยม เพราะถือว่าไม่รับผิดชอบ โดยบางครั้งจะโดนพ่อท่านดุและทำโทษ หรือเจ้าของบางคนก็ค่อนข้างจะมีเสียงดัง โดยอ้างว่า เอามาให้ฉันให้กินแล้ว แค่นี้ก็รักษาไม่ได้ ทำนองนี้....

เวลามีงานบางครั้งบางโอกาส เช่น งานแต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่... ทางเจ้าภาพบอกว่า ให้เอาปิ่นโตไปด้วย เพื่อจะได้ให้พระ-เณรนำมาฉันที่วัดได้ตามสะดวก (เจ้าภาพจะได้ไม่ต้องคอยจัดที่พระ-เณรเป็นการเฉพาะ หรือบางทีพิธีกรรมเสร็จก่อนกำหนด พระ-เณรไม่จำเป็นจะต้องรอฉันอยู่ เป็นต้น)... ต่อมา บางเจ้าภาพมีจิตศัทธายิ่งขึ้น บอกว่าพระ-เณรไม่จำเป็นต้องพาปิ่นโตไปด้วย เจ้าภาพจะถวายพร้อมทั้งปิ่นโตเลย ....

นั่นคือ สาเหตุที่ทำให้ปิ่นโตกลายเป็น สมบัติบ้าในวัด อีกชนิดหนึ่ง....

วัดปัจจุบันใช้ปิ่นโตน้อย เนื่องจากลูกโยมที่หิ้วปิ่นโตเดิมตามหลังพระ-เณรอย่างแต่ก่อนมีน้อยมาก (แต่ยังมีอยู่ ไม่ถึงกับสูญพันธ์) ถุงพลาสติกเข้ามาแทนที่ และปิ่นโตมีราคาถูกลง ญาติโยมจึงนิยมถวายทั้งเถาในปัจจุบัน...

ยุคสมัยนี้ ปิ่นโตในวัด มีค่อนข้างเยอะ ไม่เหมือนยุคก่อนที่มีไม่ค่อยพอใช้ บางทีได้มาใหม่ๆ สวยๆ พระ-เณรบางรูปจึงให้แก่ญาติโยมไปใช้ ยกเว้นรุ่นเก่าๆ ที่มีไม่ครบชุด ก็กลายเป็นสมบัติบ้าในวัด เมื่อเพิ่มขึ้นจนดูเกะกะ ไม่มีที่เก็บ พระ-เณรก็ถือโอกาสฝังทำนองเดียวกับจานช้อนสังกะสี ส่วนที่ยังมีครบชุดก็ไว้ใช้ภายในวัด หรือให้ญาติโยมไปใช้บ้างตามโอกาส....

ผู้เขียนเคยบอกญาติโยมที่คุ้นเคยกันเป็นบางครั้งว่า มีงานมาเอาปิ่นโตวัดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อถวายทั้งเถา เพราะจะกลายเป็น สมบัติบ้าในวัด.....

จาก ถ้วย จาน ช้อน และมาถึงปิ่นโตแล้ว ... ตอนต่อไปจะเล่าเรื่องบาตร ซึ่งมีพัฒนาการแตกต่างไปจากพวกข้างต้น...    

คำสำคัญ (Tags): #สมบัติบ้าในวัด
หมายเลขบันทึก: 83800เขียนเมื่อ 13 มีนาคม 2007 20:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 มิถุนายน 2012 21:28 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

คิดแล้วคิดถึงสมัย
ผมตื่นขึ้นมาตักบาตรพระในตอนเช้า จะมีเด็กวัดเดินถืนปิ่นโตตามหลังพระ

แต่ปัจจุบัน จากปิ่นโตเปลี่ยนเป็นถึงใหญ่ๆหนาๆ 

P

ท่านอาจารย์พุทธทาส ชอบพูดเสมอว่า

ตถตา เช่นนั้นเอง

เจริญพร

นมัสการพระคุณเจ้า

ดิฉันได้อ่านประวัติแล้วทราบว่าท่านอยู่แถวๆ สงขลา เมื่อไม่นานมานี้ได้มีโอกาสสร้างเวปไซต์ให้วัดหนึ่งอยู่ที่อำเภอกระแสสินธุ์  ชื่อ วัดหลวงพ่อเดิม  ไม่ทราบว่าพระคุณเจ้าหรือรู้จักหรือไม่คะ

P

วัดหลวงพ่อเดิม ไม่เคยไปเยือน แต่รู้จักชื่อมาตั้งแต่เด็กๆ .... (อาจจะเคยผ่าน ไม่แน่ใจ ?)

บันทึกที่บอกเล่าถึงการเขียนเวปก็เคยเข้าไปอ่านครับ...ก็พลอยร่วมอนุโมทนาไปด้วยใจแล้วครับ

หลายปีก่อน เคยอ่านบทความพวกฝรั่งเรื่อง วัดเสมือน อะไรทำนองนี้แหละ นั่นคือ มีเวปของวัด(ฝรั่ง) มีบาทหลวงมาเทศน์ ผู้เข้าไปก็ร่วมฟัง ร่วมสวดมนต์ อะไรทำนองนี้....

อาตมาก็คิดถึงวัดเมืองไทย ซึ่งก็อาจทำได้แบบเกมส์ออนไลน์ยุคปัจจุบัน แต่ก็คงลงทุนสูงอยู่...

 จินตนาการไปอีก ๒๐ ปีข้างหน้า เมื่อคนรุ่นอนาคตสามารถเขียนเวปได้เป็นเรื่องธรรมดา บางคนมีศรัทธาก็อาจบวชอยู่ภายในวัด ก็อาจทำเรื่องทำนองนี้ได้เป็นธรรมดา....

จินตนาการไปไกลครับ วันก่อนก็คิดจะเสนอความเห็นไว้ที่บันทึกของคุณโยมแล้ว แต่เกรงว่าโม้มากจะเฟ้อเจ้อ จึงไม่ได้เสนอความเห็นไว้...

คืนนี้ มีโอกาสดี คุณโยมมาเยือน จึงเล่าย้อนหลังเล่นๆ ครับ

เจริญพร

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท