ครูครับ...ผมไม่อยากเรียนหนังสือ


"ครูครับ ผมไม่เรียน ครับ"

"แล้วเธอจะทำอะไร"


"ผมอยากสร้างห้องเรียนให้รุ่นน้องครับ....."

     เป็นบทสนทนาระหว่างครูและนักเรียน โรงเรียนแสงทรัพย์ประชาวิทยาคาร  ต.ตาอ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์ โรงเรียนระดับมัธยมอันดับสุดท้ายของประเทศ  ที่มีนักเรียนกว่า ๑๖๐ คน กับครูเพียงสิบสอง ที่สอนทุกวิชาตั้งแต่ ม.๑-๖

     จะมีใครเชื่อว่าในพื้นที่ราบระนาบเดียวกับเรานี้ ยังมีโรงเรียนที่อยู่ในชนบทห่างไกลและขาดโอกาสทางการศึกษาอีกมาก  โรงเรียนแสงทรัพย์ฯ เป็นอีกโรงเรียนหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ที่ไม่มีอาคารเรียนถาวร สำหรับนักเรียน ม. ๕-๖ จะมีก็แต่เพียงอาคารชั้นเดียว สำหรับ ๔ ชั้นเรียน ส่วนที่เหลือต้องเรียนในศาลาโล่งสี่ด้าน ที่กลุ่มคนอาสาเคยมาสร้างไว้  ท่ามกลางบรรยากาศที่ร้อนระอุ ล้อมรอบด้วยที่ดินอันแห้งแล้งและฝูงวัว ควาย กับโรงอาหารได้รับบริจาคกระเบื้องเก่ามามุงหลังคา 

     ในขณะที่นักเรียนบางกลุ่ม กำลังเริงร่ากับการเล่นเกมส์ เที่ยวเล่น ช็อปปิ้ง ใช้เงินอย่างเริงร่า  แต่กลับมีนักเรียนอีกกลุ่ม ที่ตั้งหน้าตั้งตาสร้างห้องเรียนให้รุ่นน้อง แทนการหาเงินช่วงปิดเทอม ที่ต้องไปรับจ้างก่อสร้างด้วยค่าแรงวันละ ๑๕๐ บาทในกรุงทุกปี 

     เด็กตัวเล็กตัวน้อย ต่างช่วยกันขนดินจากพื้นที่ในโรงเรียน ที่ได้รับบริจาคจากผู้ใจบุญ ไปร่อนเอารากหญ้าและใบไม้ออกก่อนนำไปผสมกับปูนซีเมนต์ เพื่อประหยัดค่าปูน จนกระทั่งก่อเป็นอิฐก้อนด้วยเครื่องอัดที่ยืมจากครูจืด - เข็มทอง โมราษฎร์ จากบ้านเด็กรักป่า ที่ให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง 

     สองอาทิตย์สำหรับกระบวนการผลิตอิฐให้สมบูรณ์  ทุกวันน้องๆ ต้องสละเวลาจากการเรียนมาช่วยกันทำอิฐที่ได้เพียงวันละ ๑๕๐-๒๐๐ ก้อน เพื่อให้ได้อิฐหกพันก้อน สำหรับสร้างอาคารเรียนหนึ่งหลัง ไม่ใช่งานเล็กๆ เลยทีเดียว กว่าจะก่ออิฐและสร้างอาคารหนึ่งหลังขึ้นมา ด้วยมือน้อยๆ เพียงสิบกว่าชีวิต

     วันที่ ๑๐-๑๑ มีนาคม ที่ผ่านมา ดิฉันมีโอกาสได้ไปช่วยกลุ่มน้องๆ ก่ออิฐสร้างอาคารกับกลุ่มปันรักให้น้อง ที่เกิดจากการรวมตัวกันทางอินเตอร์เน็ตของกลุ่มนักท่องเที่ยวธรรมชาติและมีจิตอาสา จากการสัมผัสและเห็นด้วยตา ถึงความมุ่งมั่น สามัคคี ของเยาวชนที่ขาดโอกาสในทุกด้าน  ความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงของเด็กในเมืองกับชนบท ทำให้ดิฉันทุ่มเททั้งกำลังกายและใจในการทำงานครั้งนี้  ทั้งขนอิฐ ผสมปูน ก่ออิฐ ใช้แรงงานเช่นกรรมกรคนหนึ่ง แต่ยังไม่เทียบเท่าเด็กตัวเล็กๆ ที่ใจใหญ่กว่าเราหลายเท่านัก ขั้นตอนกว่าจะได้อิฐแต่ละก้อนนั้น หนักหนาสากรรจ์ทีเดียวสำหรับผู้ใหญ่อย่างเรา

     มาย้อนมองดูว่า คนเราส่วนใหญ่มักจะไขว่คว้าความก้าวหน้า ความร่ำรวย มีหน้ามีตาในสังคม ได้รับการยอมรับในช่วงเวลาสั้นๆ แต่น้อยคนนักที่จะนึกถึงสิ่งที่เหลือไว้ให้คนข้างหลัง ภาพที่มีคนนอกครอบครัวระลึกถึงด้วยความเสียใจ เสียดาย และจดจำความดีที่ได้เคยทำไว้ 

     ดิฉันเห็นตัวอย่างสิ่งเหล่านี้จากคุณพ่อ ในยามที่ท่านจากไปอย่างกะทันหัน สิ่งที่ท่านเหลือให้พวกเราคือความภูมิใจ ความรักในศักดิ์ศรีและความดีงาม ท่านเป็นตำรวจตัวอย่าง ที่ทำคุณงามความดีอย่างมากมาย เลือกที่จะอยู่ในชนบทห่างไกลและทำประโยชน์เพื่อสังคม เป็นตำรวจคนแรกและคนเดียวที่ได้รับโล่ห์ที่แสดงถึงคุณงามความดีจากชาวบ้านและสื่อมวลชนในทุกจังหวัดที่ท่านไปดำรงตำแหน่ง ในเดือนที่ท่านเสียชีวิต ท่านเพิ่งได้รับรางวัลตำรวจมวลชนสัมพันธ์ดีเด่น ๑ ใน ๑๓ นายจากทั้งภาค ๕  และในยามที่ท่านเสียชีวิต ก็เป็นข่าวหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์หัวสีหลายฉบับ ชาวบ้านจากที่ห่างไกลมาร่วมงานนับพัน แม้ว่าเราจะจัดพิธีในต่างจังหวัด ซึ่งเป็นที่สุดท้ายในชีวิตราชการของท่าน บางคนนำเศษเงินและธนบัตรที่ยับยู่ยี่มามอบให้เพียงเพราะอยากตอบแทนพระคุณ  ทุกคนต่างมาให้กำลังใจแก่ครอบครัวและกล่าวถึงความดีที่ท่านได้ทำไว้ 

     ท่านไม่ได้ทิ้งสมบัติให้เรามากมายเหมือนตำรวจหลายๆ นายที่แสวงหาเงินทองจากชีวิตราชการ แต่ความดีของท่าน เป็นมรดกที่ลูกๆ ทุกคน ภูมิใจอย่างที่สุด และพวกเราก็ตั้งมั่นว่าจะทำความดี ทำคุณประโยชน์ให้สังคม อย่างน้อยแค่เพียงเสี้ยวหนึ่งของคุณพ่อ...เพื่อตอบแทนพระคุณท่านเช่นกัน

     การบำเพ็ญประโยชน์ครั้งนี้ จึงนับเป็นโอกาสอันดีของดิฉัน และคนในเมืองที่มีภาระรับผิดชอบกับเวลาที่จำกัด จะได้สร้างความดีร่วมกัน ดิฉันได้รวบรวมสิ่งของบริจาคจากเพื่อนๆ ที่ทำงาน และได้รับเงินมาบางส่วน เพื่อนำไปมอบให้ทางโรงเรียน สำหรับของมือสองทั้งหลายนั้น นักเรียนจะนำไปแปลงสินทรัพย์เป็นทุนอาหารกลางวัน  แค่สิ่งของเหลือใช้ที่ทิ้งไว้อย่างเปล่าประโยชน์ พวกเรานำไปจำหน่ายในราคาถูกให้แก่ชาวบ้านที่ยากไร้ ช่วงเวลาเพียง ๒-๓ ชั่วโมง ได้เงินมาถึงสองพันบาท เป็นการได้บุญถึงสองต่อ ทั้งขายของดีราคาถูกให้คนยากจนและยังได้ทุนอาหารกลางวันให้นักเรียนที่ขาดแคลนด้วย

     ไม่จำเป็นต้องขึ้นเขาขึ้นดอย ไม่จำเป็นต้องลงแรงมากมาย เพียงแค่สละของเหลือใช้ที่เปล่าประโยชน์สำหรับท่าน ให้แก่เขาเหล่านั้น เพียงเท่านี้เราก็ปันรักให้แก่คนอื่นได้ค่ะ

   

 เพื่อนร่วมทางที่เจอกันในโลกไซเบอร์

 การเดินทางที่ไม่สะดวกสบายนัก

และน้องชัย บุรีรัมย์..แล้วโลกก็แคบนิดเดียว

ดินจากพื้นที่ในโรงเรียน 

 

เอ้า...ฮุย เล ฮุย 

 

 

 

 

 

ความคืบหน้าของอาคารเรียน

จากน้ำพักน้ำแรงของนักเรียนชั้น ม.๕

แค่สิบกว่าชีวิตเท่านั้น 

 
 

บังเอิญเจอ...

การถ่ายหนังสั้น โครงการจิตอาสา

ของสถาบันอาศรมศิลป์ กับครูจืด แห่งบ้านเด็กรักป่า

ที่เลือก "คุณครูครับ..ผมไม่อยากเรียนหนังสือ"

เป็น ๑ ใน ๓ เรื่อง เพื่อรณรงค์จิตสำนึกของคนไทย

 บรรยากาศการขายสินค้ามือสองให้ชาวบ้าน

ในราคาถูกแสนถูก ลดแลกแจกแถมกันตลอดงาน

แค่ตัวละ ๑๐-๒๐ บาท เราจำหน่ายได้ถึงสองพันบาท

ได้บุญหลายทางเลย..งานนี้

 

คำสำคัญ (Tags): #diary#sharing
หมายเลขบันทึก: 83464เขียนเมื่อ 12 มีนาคม 2007 14:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:44 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีคะ น้องพอใจ

  อ่านแล้วก็...ขอระลึกถึง คุณพ่อ ด้วยคะ....

ท่านเป็นแบบอย่างที่ดีให้พวกเราค่ะ.......

   พี่คิดว่า ยามที่ น้องพอใจ เดินทางหรืออยู่ที่ไหน

คุณพ่อ ก็คงไปด้วย ไปให้กำลังใจ ...ในใจ...

....................................

ขอบคุณ น้องพอใจที่มาเยี่ยมเด็กรักป่า และสนับสนุน

น้องๆที่นี่ ขอบคุณกลุ่มปันรักให้น้อง มากๆเลยคะ 

P

ขอบคุณค่ะพี่หน่อยสำหรับกำลังใจ

แล้วพบกันเร็วๆ นี้อีกครั้งค่ะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท