เรื่องเล่าจากภาพ Distant Thunder ภาคสองมาแล้วจ๊ะ


<div style="text-align: center">
มีต่อ

มาเป็นคนแรกเลยค่ะอาจารย์  ดีใจที่ได้อ่านคำเฉลยเสียที   อ่านประวัติคนวาดแล้วยิ่งน่าประทับใจมาก   ขอบคุณมากค่ะอาจารย์

 

 

 

 

 

 

 

ขอบคุณสำหรับเฉลยค่ะ (หลังจากที่พวกเรารวมตัวกันทั้งขู่และเข็นให้อาจารย์ มานั่งหาวไป เฉลยไป)

อ่านแล้ว กลับไปดูภาพยิ่งทำให้ได้บรรยากาศ ของท้องทุ่ง ได้กลิ่นของดอกไม้ ใบหญ้า ได้ยินเสียงของลมที่พัดผ่านปลายหญ้า และลูบไล้ผิวเนื้อ....

แต่ที่สำคัญ ทำให้ได้สัมผัสถึงความรักของผู้คนที่อยู่รอบๆข้างเรา และไม่ลืมที่จะรักผู้คนเหล่านั้น.....

ขอบคุณค่ะอาจารย์

แหม!อาจารย์ค่ะ ไม่ยอมเฉลยเลยว่าใครถูก แต่คนเขียนภาพนี้ต้องมีความสุขแน่ถึงคิดได้ (ไม่ใช่อะไร พยายามเข้าถึงตัวเองนะค่ะ ฮิ ๆ ๆ) แบบราณีรอของรางวัลโดยไม่ต้องลงทุน
เห็นด้วยกับ อ.ราณี....อาจารย์น่าจะมีให้คะแนนนะค่ะ ว่าลูกศิษย์คนไหนได้คะแนนเท่าไร....ใครได้ 80 คะแนน (เต็มร้อย) ต้องมีรางวัลอะไรประมาณนี้นะค่ะ

     ตามมาจก เอ๊ยตามมาอ่านค่ะ

      โหยนั่นกล่องใส่บลูเบอรี่เองเหรอคะ แล้วก็กล้องส่องทางไกลที่อ.paew บอก หมอไม่เคยเห็นกล้องยังงี้เลยหละค่ะ 555 ดูเป็นหนังสือกะแว่นตาเฉยเลย เสื้อก็กลายเป็นสีขาวอีก โฮ๊ะๆ ว่าแล้วปอบจกก็กลับไปคาบไม้บรรทัดเช่นเดิม

      เรียนคุณหมอสุริยาที่รัก  มาคาบไม้บรรทัดเสียดีๆ แล้วกรุณากลับไปเปิดบลอกของท่านเองด้วยนะคะ คุณหมอ orion รออ่านอย่างใจจดใจจ่อจ้า ฝากข้าพเจ้ามาช่วยขอร้องท่าน

     

   แฮะแฮะ ขอต่อหน่อยค่ะ เมื่อคืนดูศิลปินพู่กันจีน อายุ80กว่าๆเหมือนกัน ยังวาดรูปมือไม่สั่นเลยค่ะ

    การวาดรูปอาจเป็นการเจริญสติที่น่าสนใจไหมคะเนี่ย เอไม่แน่ อาจจะพอช่วยคนแก่ที่เป้น Alzeimer ได้ไหมนะ

กล้องส่องทางไกล เราก็นึกว่ารอยฟ้าผ่า 5555

สงสัยผมต้องไปตัดแว่นซะแล้ว ตาไม่ค่อยดี

ขอบคุณอาจารย์ที่มาเฉลยให้กระจ่างครับ

หาววว! ขยี้ตาเสียหน่อย

สวัสดีเด็กๆ อาจารย์ตื่นนอนแล้ว สดชื่นแจ่มใสเหมือนเดิม เพราะไม่นอนฝันร้ายเรื่องปอบอ้วนๆสองตน ตนหนึ่งใส่แว่น ตนหนึ่งใส่เสื้อสีชมพูมาคอยจกที่พุง

เป็นยังไง คำเฉลย บางคนยิ้มบางคนหน้าหงายไปเลยใช่ไหม? อาจารย์กำลังตรวจคำตอบอยู่จะเฉลยรางวัลและโทษทัณฑ์ที่ได้รับเป็นรายตัว แฮ่ม!แฮ่ม!

หมอสุริยาวิ่งหน้าตั้งมาเข้าชั้นเป็นอันดับหนึ่งเลย ฮิฮิ

ดีล่ะเอารางวัล Best Run Quickly Student Award ไป มาบ่อยๆนะครับและเปิดบล้อกได้แล้ว

อาจารย์ Paew ครับ

มานั่งตาสว่าง ยิ้มรับคำขอบคุณครับ

แต่ทีหลังอย่าขู่อย่างน่ากลัวเช่นนี้ จนแฟนอาจารย์ถามว่าเธอนั่งทำอะไรอยู่หน้าจอตลอดวันหยุดทั้งวันอย่างนี้...แฮ่ะๆหวาดเสียวทั้งเบื้องหน้าแลเบื้องหลัง

ผมเองก็นั่งจินตนาการว่า อาจารย์Paewผู้มีรอยยิ้มหวานจับใจคนนี้ คงมีครอบครัวที่น่ารักอยู่เบื้องหน้าหรืออาจเป็นตัวอาจารย์เองก็ได้ที่นอนเอาหมวกหลุบหน้านอนหลับตาพริ้ม มีคนรักเฝ้ามองอยู่ไมวางตาใกล้ๆ(เพราะกลัวลูกบลูเบอรี่หมด)

อย่ามาทวงรางวัลเลยหนูราณีเอ๋ย

          ต่อไปอาจารย์จะกางสมุดบอกเกรดกันให้จะจะ โดยไม่ไว้หน้ากันเลยล่ะ ทั้งไม้บรรทัด ทั้งบรเพ็ดจะเอามาทั้งบึงเลย เหลาเป็นแว่นๆให้ศิษย์แลบลิ้นแล้วปาดลงไป

          ใครดื้อหน่อยจะหั่นเป็นผงตากแห้งแล้วโรยลงไปบนลิ้น ส่วนที่น่ารักหน่อยจะฝานเป็นแว่นให้อม

สอบตกซะแล้วซิเรา...มองกล้องส่องทางไกลเป็นแว่นตาไปเลยค่ะ ...แป่ว!!

สวัสดีครับหมอนิด

        หวาดเสียวอยู่ไม่น้อย เพราะคุ้นกับการจกแบบถือเครื่องอุลตราซาวน์ดของหมอ

        เห็นไหม ว่าตาแฉแหมคงต้องไปตัดแว่นใหม่ เลือกร้านที่มีชื่อลงท้ายว่าศิลป์ด้วยนะจะได้มีตาศิลป์ไม่มองกล่องเป็นหนังสือหรือมองกล้องส่องทางไกลเป็นแว่นตาจ๊ะ

        ส่วนสีเสื้อนั้น สีขาวจะสะท้อนแสงที่อยู่ล้อมรอบตัว ยิ่งมีแสงอาทิตย์ตกที่เสื้อ ศิลปินจะฉวยโอกาสใส่สี(ที่มีในแสง)ลงไปหลากสี เลยอาจดูเป็นสีฟ้าอ่อนหรือเขียวอ่อนไปได้

       คงไม่ต้องเฉลย เพราะหมอไปจกไม้บรรทัดมาคาบแล้ว เน้นให้คาบตรงคราบไคลสองร้อยปีนั้นด้วย อย่าได้รังเกียจน้ำลายบรรพชนวีรบุรุษบางระจันเลย

       

       

 

การวาดรูป ต้องใช้สติและสมาธิครับ

      ยิ่งเป็นการวาดแบบลายเส้นพู่กันจีนด้วยแล้ว ต้องใช้สมาธิสูงส่ง อาจารย์เคยฝึกเอาพู่กันใหญ่ๆจุ่มหมึกดำ ตวัดป้ายเป็นอักษรภาพแบบเซ็นลงบนกระดาษสาที่บางเบา...ผลกระดาษทะลุ เพราะพู่กันอุ้มหมึกชุ่มมากเกินไปและแรงน้ำหนักมือหนักเกินไป

     ต้องฝึกนานโข ใช้สติและสมาธิแบบฉับพลันจึงตวัดให้สวยงามตามใจนึกได้

      ทดลองสอนคนไข้ดูก็ได้ครับ คนที่มีศิลปะอยู่ในใจไม่หลงลืมอะไรง่ายๆดอก

      เดี๋ยว...เมื่อกี้หมอว่าใครเขียนรูปมือไม่สั่นนะ อาจารย์ลืมไปแหล๋ว

    

นักลงทุนเงินน้อย

         คงรู้ตัวดีกว่าจะได้เกรดเท่าไร ที่บังอาจเห็นกล้องส่องทางไกลอย่างดีรุ่นโบราณแบบมองสองตา เป็นรอยฟ้าผ่าไหม้ดำข้างตัวเธอ

         ออกแนวสยองขวัญมากนะเธอ!

         คงต้องคาบไม้บรรทัดฉาบบรเพ็ดให้เข็ดไปอีกนานแล้วไปยืนกางขาต่อไป...ฮึ่มๆๆ!

คุณจันทร์รัตน์ อย่าได้กังวล

       มีคนเห็นเหมือนกันหลายคนครับ ต่างพากันไปเข้าแถวยืนรอต่อคิวคาบไม้บรรทัดเป็นแถวๆ โดยมีอาจารย์ยืนกำกับอย่างมีความสุข

Wow! ซาบซึ้งกินใจในเรื่องความรักและความเข้าใจของศิลปินคนหนึ่งที่มีต่อธรรมชาติครอบครัว

เป็นบันทึกที่ดีและมีค่ามากค่ะอาจารย์ นอกจากสอนให้ดูรูปแล้ว อาจารย์ยังนำทางให้ลึกเข้าไปจึงคุณค่าทางจิตใจของมนุษย์อีก

หนูกลับไปย้อนดุเรื่องเก่าๆที่อาจารย์เขียนไว้ แปลกใจว่าเกิดความคิดใหม่และเข้าใจภาพเขียนของเขามากขึ้นกว่าเดิม ขอบคุณมากค่ะ

หนูนาครับ

        ขอบคุณที่ชม เป็นธรรมดาของการพัฒนาจิตครับ จิตที่ละเอียดก็สามารถรับรู้สิ่งต่างๆได้ดีขึ้น แม้กระทั่งสิ่งธรรมดาๆที่เรามองข้ามไปหรือคิดว่าไม่สำคัญ

        ธรรมชาติเป็นครูที่ยิ่งใหญ่ครับ เพราะประมวลคำสอนไว้ครบทุกด้าน ขึ้นอยู่กับศิษย์จะเลือกเรียนบทไหน?

        อ้อ! ห้ามไปดุเรื่องเก่าๆ ของอาจารย์เชียวนา อาจารย์แวะไปอ่าน เห็นทุกเรื่องนั่งตัวสั่นหน้าซีดอยู่ ฮิฮิ!

ฮิฮิ

นึกว่าเป็นหนังสือ เป็นกล่องบูลเบอรี่ซะอย่างงั้น

ท่าทางอาจารย์จะหาวววววอยู่นาน กว่าจะมาเฉลยนะเนี่ย

...

ที่ออสเตรเลียตอนนี้มี storm - T-storm ค่ะ หลังจากที่ร้อน-ร้อนที่สุด มาหลายวัน เมื่อคืนหนาวเชียวแหละ

^____^

สวัสดีหนูis

    อาจารย์หุบปากที่หาวววนานแล้วจ๊ะ ก็เด็กๆเล่นบังคับขู่เข็นจน"คนที่คุณก็รู้ว่าเป็นใคร" ที่บ้านของอาจารย์ทำตาเขียวที่อาจารย์ไม่ยอมไปไหนในวันหยุด

    ฟังรายงานอากาศของออสเตเลียแล้ว ออกเป็นห่วงลูกสาวอากาศเปลี่ยนจะเป็นหวัดหรือป่าวหนอ หนูดูแลตนเองด้วยนะครับ

    ฮ่าฮ่า! ฟังเฉลยแล้ว แป๋ว! ไปตามๆกัน จากหนังสือเป็นกล่องใส่บูลเบอรี่ จากแว่นตาหรือรอยฟ้าผ่า(คิดได้ยังไง)มาเป็นกล้องส่องทางไกล ฮิฮิ

    เฉลยแล้วก็จัดแถวศิษย์เรียนดีทั้งหลาย มารอคิวคาบไม้บรรทัดซะดีดี ระหว่างยืนรอให้กางขายืนขาเดียว ห้ามยิ้ม!ห้ามคุย! แลบลิ้นออกมาจะทาบอระเพ็ด อาจารย์มีความสุขจริง จนต้องผิวปากเป็นเพลง "เด้ดสะมอเร่"

มารายงานตัวขานชื่อหน้าชั้นครับ

มาสายไปแค่ 2 ชม.เองครับ ตกรถเมล์คันที่ชื่อปรารถนา

มาชื่นชมกับคำเฉลยที่งดงามและกระจ่างของอาจารย์และรู้ว่าตัวเองสอบตกไม่ผ่านอีกแย้ว!

เดินคอตก...เข้าแถวต่อคิว โอโฮ้แถวยาวจริงๆ

ผมรู้ความลับแล้วว่าทำไมไม้บรรทัดจึงศักดิ์สิทธิ์มาก เพราะดูหน้าตาคนที่รอคิวแต่ละท่านเก๋ามากครับ

ศิษย์ห้วยส้มรุ่นเต่าถุย

ตามดูเฉลยครับ

ผมคงต้องหัดดูภาพเขียนอีกนาน อ่านของอาจารย์และพี่ๆป้าๆผู้มาออกความเห็นถึงเข้าใจมากขึ้น ทำให้อยากศึกษาดูภาพมากขึ้นครับ ผมเรียนแต่ทางแพทย์มาทางสายวิทย์เลยด้อยประสบการณ์ไปหน่อย

ผมว่าข้างตัวเธอน่าจะเป็นแว่นตากันแดดนาครับ

ในที่สุดก็ได้อ่านเฉลยสมใจ อิ่มเลยครับอาจารย์ครับ

ตกลงว่า สุนัขสมัยนั้นยังพูดไม่ได้หรือครับ เดี๋ยวนี้ หมู หนู แมงมุมเขาพูดกันได้หมดแล้วนะครับ 

น้องศิษย์ห้วยส้มข้างบนนี้ครับ ขอเตือนในฐานะรุ่นพี่นะครับว่า ไม่ควรใช้คำหยาบคายอย่างคำว่า ป้าๆ ในบันทึกนะครับ แสลงใจ สว.

ดีมาก อนุชิต

ตกรถเมล์ยังไม่เจ็บเท่าตกเครื่องบินลำชื่อสมหวัง

มาสายเพียงสองชั่วโมงเอง คราวหน้าหากเกรงใจก็ไม่ต้องมาก็ได้

สอบตกแล้วยังเฮ!อีก

บังอาจ! นักกล่าวคำหยาบคายว่าคนที่รอเข้าแถว หน้า(เหมือนปลา)เก๋า หมายความว่าเก่าแก่พอๆสมัยอยุธยาเลยเชียว อย่ากระนั้นเลยไปยืนแถวหน้าสุดคาบก่อนเพื่อนเลยแล้วค่อยส่งต่อ

 

ศิษย์หัวยส้มรุ่นเต่าถุยครับ

วันหลังบอกชื่อดีกว่า อาจารย์ต้องพิมพ์ชื่อยาว

ศึกษามาสายวิทย์ไม่เห็นเป็นไร เข้าวัดมาแล้วทำไมไม่หยิบสายสิญญ์มาด้วย อาจารย์วางไว้หลายม้วน

ที่จริงจบสายไหนมาไม่สำคัญครับ ขอให้เปิดใจรับรู้ก็สามารถเข้าถึงได้ ข้อสำคัญอย่าจบมาทางสายเสมอ จะทำอะไรก็ไม่ทันนะครับ

อีกอย่างหนึ่งไม่ใช่แว่นตากันแดดแน่ๆ ไม่เชื่อให้ไปถามคุณป้าPaew ดูก็ได้ ฮิฮิ

 

 

คุณหมอเต็มศักดิ์ครับ

เห็นหน้าคุณหมอแล้วสบายใจ เพราะยิ้มเผล่มาก่อนเลยทำให้เกิดอารมณ์ดี...

เอ! จริงด้วยแฮะ หมาตัวนี้น่าพูดได้ ยิ่งอยู่กับคนอย่าง Wyeth ยิ่งน่าจะพูดได้ลึกซึ้ง

แต่เอ!? จะพูดว่าอะไรดีน้า?....ใครรู้บอกหน่อย

และผมเห็นด้วยว่าเด็กสมัยนี้พูดหยาบคายไปหน่อย สมาชิกน่ารักอย่าง คุณ จันทร์รัตน์ คุณk-jira คุณPaew อ.ลูกหว้า อ.ราณี หมอนิด...ที่จริงยังอายุสาวแส้ควรเรียกพี่เท่านั้น

รึอาจหลงเข้าใจผิดเพราะดูรูป??? แห่ะ แห่ะ!!

 

  • แฮ่กๆๆๆ  ปอบหยิบชมพู...มารายงานตัวแล้วค่ะคุณครู
  • พอดีวันนี้ต้องไปจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนที่ต่างอำเภอ
  • ขับรถไปเองด้วยเลยค่อนข้างเพลียค่ะ  กลับมาก็มาทำข้อสอบอีก...
  • มาดูเฉลย....หวานซะ...ขอบพระคุณ  คุณครูมากค่ะ   หว้าจะเริ่มมองคนรอบข้างด้วยความรัก   ว่าแล้ว..คุณครููหันมาหน่อยสิคะ  อิอิอิ....
  • คุณครูคะ....กลับไปมองภาพอีกทีแล้ว "รู้สึกว่าภาพสวยงามขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ"

ตอนดูครั้งแรกรู้สึกชื่นชมในการสื่อรายละเอียดมิติ ทางเสียง้ในภาพได้ โดยการใช้เจ้าตูบเป็นตัวกลาง (มันได้ยินเสียงฟ้าก่อนคน เลยชะโงกหน้าขึ้นมา ไม่ยอมนอน)

ตอนดูครั้งแรก คิดว่า...โห...เข้าใจคิดดีจัง      อารมณ์ประมาณว่า "โห..คิดได้ไงเนี่ยะ!"
เรื่องธรรมดา กลายเป็นเรื่อง น่าสนใจมากๆ

คิดว่า...โห..ถ้าใครดูรูปแล้วสามารถตั้งชื่อได้ตรง ้โดยไม่ได้คุยกับ Wyteh ก่อนนี่....อยากนั่งคุยกับคนๆนั้นซักชั่วโมงสองชั่วโมง

แต่ภาพก็ยังคงให้ความรู้สึก แห้งๆ ว่างๆ และ หวั่นๆว่าฟ้ากำลังจะร้อง 

พออ่านเฉลย อ. แล้ว กลับมาดูอีกที คราวนี้คิดว่า...ภาพนี้อบอุ่นจัง ยิ่งเห็นภาพถ่ายตอนทั้งคู่อายุ 86 ยิ่งอบอุ่นมากค่ะ 

มิยอมรับเป็นรุ่นป้าเด็ดขาดค่ะ....ให้เครดิตเกินไป...ความจริงต้องเรียก ยาย ..(อิอิ)...

ไม้บรรทัดของอาจารย์ ทั้งกลิ่นทั้งรส ....จูงใจมั่กๆ ค่ะ..มีคนมารอต่อแถวยาวเหยียด..อิอิ..

ผมกราบขอโทษพี่ๆอาๆทั้งหลายครับ ที่บังอาจมาก

 เห็นชอบเป็นผิด

เห็นสวยเป็นไม่สวย

เห็นสาวเป็น...ผู้สูงวัย

ถูกอาจารย์ลงโทษมาแล้ว แม้ว่าคาบเป็นคนแรกในบันทึกนี้

รสชาดนั้นยังตลบอบอวลชวนระลึกอยู่ มิคลาย

 

อิอิ.. แอบย่องมาอ่านเฉลยตอนอาจารย์ไม่เห็น

แล้วก็ย่อง..เบา...เบา...แอบออกไป

จุ๊ๆ.. น้องนักลงทุนเงินน้อย..อย่าเอ็ดดังไป..อาจารย์หลับอยู่

ห้ามบอกใครมาพี่แว่บเข้ามานะ.. คราวหน้าเดี๋ยวจะเอาไอติมมาฝากเป็นค่าปิดปาก

อิ๊ อิ๊... ชะแว่บ (กลับไปนอน เดี๋ยวคืนนี้เข้าเวรดึกอีก)

หวัดดีจ้า ปอบหยิบชมพู

ชอบชื่อนี้หวานแหววปนสยองขวัญดี

ระวังอย่าทำงานหนักเกินตัว เดี๋ยวจาผอมไป เสียบุคลิกเฉพาะตัว

ระวังอีกอย่างความหวาน... (เพราะจะทำให้น้ำตาลในหัวใจขึ้นสูง)

ภาพทุกภาพจะสวยงาม กลายเป็นสีชมพูหากเรามองด้วยสายตาและความรู้สึกที่อาทร(ทั้งหวานและคมซะไม่มี)

สวัสดีครับ คุณมัทนา

 ลองเล่าในมุมมองของคุณให้ฟังซีครับ ติดค้างอยู่นา

         ใช่ครับ ธรรมชาติของสัตว์นั้นจะรับรู้และสื่อสารทางประสาทสัมผัสซึ่งละเอียดและมีพัฒนาการมายาวนานสำหรับหมานั้นมีโสตประสาทและฆานประสาทที่ดีมากเกินกว่ามนุษย์จะเข้าถึงได้

         เช่นบางครั้งอาจได้ยินเสียงที่เกิดขึ้นมาแต่ไกลๆเป็นไมล์ๆ หรือได้กลิ่นที่ล่องลอยตามลมมาหลายกิโล

         แต่เขาจะใช้สัญชาตญาณ(ปัญญาที่เกิดติดมาตั้งแต่เกิด)พินิจแยกแยะดูว่าเป็นอันตรายหรือไม่ ถ้าเป็นจะมีปฏิกิริยาทันที อย่างหมาของ Wyeth นี้ คงได้ยินเสียงและทำหน้าที่สังวรระวังเท่านั้น หูยังไม่ตั้ง ขนยังไม่ลุกชูชัน แสดงว่ายังไม่มีอันตรายใดใด

        Wyeth คงมีประสบการณ์เช่นนี้บ่อย นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาออกมาใช้ชีวิตกลางธรรมชาติกับครอบครัวที่เขารัก คงมีวันหนึ่งที่เขาเกิดมองดูภาพชีวิตที่เกิดขึ้นเช่นนี้ แล้ว "ปิ้ง!" ขึ้นมาว่าอยากเขียนรูปนี้

        เขาจึงเริ่ม study โดยวาดเป็นสีน้ำก่อน เพื่อศึกษาในรายละเอียดที่เหมือนจริงตามธรรมชาติ เพื่อสร้างบรรยากาศ อารมณ์และความรู้สึกที่เขาต้องการ

        ข้าวของและสิ่งต่างๆที่เขาวางในภาพ ล้วนเป็นสื่อที่ค่อยๆเล่าเรื่อง เปิดตัวให้เรารับรู้เรื่องราวต่างๆในภาพ และใช้แสงสี สร้างให้เห็นถึงเวลา มิติของชีวิตของคนๆหนึ่งที่ถูกโอบล้อมด้วยบรรยากาศของความรักในธรรมชาติ

        อย่างไรก็ตาม ในธรรมชาตินั้นก็ยังมีสิ่งที่ที่เป็นกฏธรรมดาธรรมชาติอยู่ คือการเปลี่ยนแปลง อาจมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน ฝนอาจตกลงมาอย่างไม่คาดคิดในนาทีใดนาทีหนึ่งก็ได้

        เราเป็นเพียงธรรมชาติหนึ่ง มนุษย์ตัวจ้อยน้อยนิด ท่ามกลางจักรวาลอันไพศาล

        อืม...ชักอยากเขียนรูปเสียแล้ว เด็กๆเก็บไม้บรรทัดได้

คุณยายจันทร์รัตน์ ที่เคารพอย่างสูงปานฟ้า

        อย่าได้ถือสาเด็กเต่าถุยคนนั้น ที่นิยมพูดไปตามความจริงที่เห็นแก่ตาเนื้อ มิดูถึงตาใน

        ว่าในความจริงนั้น สภาพใจของคุณจันทร์รัตน์อ่อนเยาว์และใสบริสุทธิ์กระจ่างดุจดังจันทร์ในคืนเพ็ญ

        ความจริงใจเราไม่เคยแก่เลยครับ กายต่างหากที่ชราไปตามวัย

        สำหรับใจผมนั้นเพิ่งยี่สิบฟ่าๆเท่านั้น อิ อิ

สงสัยคุณศิษย์รุ่นเต่าถุยจะเมาหมัด

ผมว่าที่ถูกคาบเป็นคนแรกคือคุณหมออนิศรานา

และที่ว่ากลิ่นอบอวลชวนระลึกนั่นนะ..กลิ่นของคุณหมอชัวร์

ศิษย์รุ่นเต่าถุย

ยังดีมีสวมวิญญาณชายชาตรี สารภาพความผิดออกมา แต่อาจารย์อ่านสำนวนดูแปลกๆว่าจะสารภาพผิดก็ไม่เชิง งง งงอยู่

 

หนู k-jira แก้มย้วย

อยู่เวรดึกมากๆระวังแก้มยุบนะ...

ไอติมนั่นอย่าให้นักลงทุนเงินน้อยกิน จะเสียนิสัย ไม่ค่อยชอบลงทุนอยู่ด้วย ให้ริบเป็นของกลาง

ใครตอบได้ดีถูกใจจะได้ยกให้

ถูกของคุณอนุชิต หมอนิดอาสาคาบก่อน

แต่บังอาจไปท้าวความว่ากลิ่นที่คาบเป็นของหมอ

คืนนี้ราตรีจะสยองด้วยปอบจกไปเยือนถึงบ้าน...ตัวใครตัวมัน

....เห็นบ่นๆว่า รอคืนนี้สักตีสามสามสิบ จะไปตามปอบหยิบชมพูไปจกหยิบด้วย

  • วันนี้ปอบหยิบชมพูหมดแรงค่ะอาจารย์  ขอนอนเอาแรงดีกว่า....
  • แปลกจริงๆค่ะ  อาจารย์  ยิ่งเข้ามาดูใหม่  ทำไมเห็นภาพมีแสงนวล สวยงาม ทั้งๆที่ตอนแรกเห็นแต่ความแห้งแล้วจริงๆค่ะ

ตามมาดูว่าจะได้คะแนนเท่าไหร่ เพราะไม่ได้เห็นกล่องบลูเบอรี่เป็นหนังสือ ไม่ได้เห็นกล้องส่องทางไกลเป็นแว่นตา หรือรอยฟ้าผ่า......เนื่องจากมีเทคนิคขยายภาพ....อิอิอิ.....ซึ่งภาพจริงๆ ก็คงจะใหญ่ๆ มองเห็นชัดๆ อยู่แล้ว ...ไม่ได้โกงนะค่ะ.....

แต่สงสัยว่าประโยคต่อไปนี้.....อีกอย่างหนึ่งไม่ใช่แว่นตากันแดดแน่ๆ ไม่เชื่อให้ไปถามคุณป้าPaew ดูก็ได้ ฮิฮิ......ใครหนอมาเรียกป้าแถวนี้ ต้องเชิญอมไม้บรรทัดบรรพบุรุษเสียแล้ว เนื่องจากกล่าววาจาไม่สุภาพ....อิอิอิ

หนูลองไปอ่านบันทึกเก่าของอาจารย์เรื่อง Spring และ Adrift ตามอาจารย์แนะนำ รู้สึกอินไปกับเรื่องและเข้าใจงานศิลปะขึ้นมามากกว่าก่อน

ทั้งสามภาพนี้มีตัวเอกคือธรรมชาติ และมีตัวละครที่มีความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ

แต่ภาพนี้ หนูว่าศิลปินเขียนมีสิ่งมีชีวิตมากกว่าหนึ่ง ภาพกก่อนๆมีเพียงคนคนเดียวเท่านั้น

ทั้งสวยและเหงาอย่างประหลาด อย่างที่อาจารย์ว่าไม่ค่อยมั่นใจว่าธรรมชาติจะเป็นอยู่อย่างนี้ตลอดไปหรือเหมือนอ.มัทนา ว่ารู้สึกแห้งๆว่างๆหวั่นๆใจ

หนูเริ่มหลงรัก Andrew Wyeth เหมือนอาจารย์เข้าแล้วค่ะ

หนูลูกหว้า ปอบหยิบชมพู รำพันน่าสงสาร

ทำงานหนักเกินน้ำหนักตัวไปมั้ง เดี๋ยวจะบอกท่านอธิการให้เพลาๆการใช้งานหน่อย

ไม่แปลกดอกครับ... ภาพนั้นไม่เปลี่ยน แต่ที่เปลี่ยนคือใจของเรา

เมื่อใจเปลี่ยน เปิดกว้าง ก็เกิดการมองใหม่รับรู้สิ่งใหม่ที่เมื่อก่อนไม่เห็นหรือมองผ่านไป

ยินดีด้วยครับ

หนูอ.Paew หัวหมู่ทะลวงฟันของอาจารย์

คิดว่าคงได้คะแนนดีนะ กำลังทำเกรดอยู่...

        ฮ้า! ใครบังอาจเรียกหนูPaew ว่าป้า Paew นะ หน้ากลมสีชมพูใสแป๋วแหววออกอย่างนั้น

      ให้รีบบอกมา อาจารย์จะพาไปเลี้ยงข้าวเหนียวทุเรียน... เอ้ย!จับเอาบอระเพ็ดทาตาซะให้เข็ด

หนูนา

อาจารย์ว่าหนูชักอินเลิฟ เข้าถึงภาพของ Wyeth มากขึ้นทุกวันๆแล้วนะ... ดีใจจัง

ชีวิตก็เป็นอย่างนี้ครับ เวลาเรามีความสุขหรือความรัก อีกใจหนึ่งก็นึกหวาดๆ หวั่นๆว่าสิ่งนั้นจะหายไปหรือจากเราไป

พระพุทธองค์จึงตรัสว่า "ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์"

มุมมองของมัทหรือค่ะ สรุปได้ว่า

  1. ตอนดูภาพเผินๆ ตอนที่ยังไม่ได้อ่านชื่อภาพนั้นรู้สึก สงบ สบาย เหมือนได้พักผ่อนแบบคุณ Betsy
  2.  แต่พอทราบชื่อภาพว่า Distant Thunder ก็คิดว่าฟ้ามันว่างๆ ไม่มีเมฆเลย ว่างๆ แห้งๆ น่าหวั่นใจชอบกล ว่า ภัยกำลังจะมา สีที่ใช่วาดมันเป็นสีเย็น แต่มันดูแห้งๆ  ไม่เต็ม ยังไงไม่รู้ (ใจมันถูกปรุงแต่งไปด้วย ชื่อ distant thunder)
  3. พอไปอ่านเพิ่มเติมทั้งเฉลยของอ. และ บทความของ askart.com ก็เปลี่ยนมุมมอง กลับมาเห็นความสงบ รู้สึกถึงความสบายใจอีกครั้ง  แต่คราวนี้มีเพิ่มคือ เห็นว่าฟ้าร้องก็ฟ้าร้องซิ ก็เป็นเรื่องธรรมดา เป็นธรรมชาติ

ภาพที่ดูไม่เต็ม ดูขาดๆ  แห้งๆ  ว่างๆ คราวนี้กลับดูเต็มขึ้นมา!

อย่างที่เคยตอบค่ะ ยิ่งเห็นภาพสองคนตายายจับมือยิ้มให้กันตอนอายุ 86 ยิ่งรู้สึกเต็มค่ะ อบอุ่นจริงๆ 

------------------------------------------------- 

"เราเป็นเพียงธรรมชาติหนึ่ง มนุษย์ตัวจ้อยน้อยนิด ท่ามกลางจักรวาลอันไพศาล"

เป็นquotation ที่มัทใช้เป็น signature  ใน hi5 website ด้วยค่ะ จดมาเพราะชอบมากหลังจากที่ได้ดูหนัง men in black รู้สึกว่าเรามันตัวเล็กซะจริงๆ : )

ชอบอ่านบันทึกอ.มากค่ะ จะเป็นศิษย์คอยติดตาม คาบและเช็ดไม้บรรทัดต่อไปค่ะ

ขอบคุณ คุณ มัทนา มากครับ

สำหรับมุมมองทั้ง 3 ข้อ นำมาตีความจากธรรมชาติเป็นธรรมะได้นะครับ

เช่นธรรมะของหลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง ท่านเคยเทศน์เป็นปริศนาธรรมไว้ว่า เรื่องของการเรียนรู้ธรรมะเรื่องอนัตตา อันเป็นเรื่องยากที่คนจะเข้าใจและเข้าถึง ท่านเทศน์สรุปลงเป็นคำสามคำ คือ

"มี...ไม่มี...มี" 

แล้วให้คนตีความเอาเอง

ผมอ่านมุมมอง 3 ข้อของคุณมัทแล้ว จึงระลึกถึงปริศนาธรรมนี้ เข้ากันได้ดีครับ ท่องไว้ครับ

มี ...ไม่มี....มี....ไม่มี....มี

 

      ช่วงนี้ปอบจก ขอปลีกวิเวกไปดูแลคุณแม่กะญาติก่อนนะคะ เข้ารพ.กันหลายรายเลยค่ะ

       อาจารย์ขา ช่วยแผ่เมตตาให้ผู้ป่วยเหล่านี้ด้วยค่ะ

      1.นางอารี โกวิทยานนท์

      2.นางจือหงษ์ หมายเจริญศรี

       3.นส.สู  แซ่ผุง

       4.นายสุรชาติ ผุงผดุงไพศาล

       ฝากคุณอนุชิตและหนูเต่าถุยศิษย์ร่วมสำนักช่วยคาบไม้บรรทัดแทนก่อนนะคะ กลิ่นที่ไม้บรรทัดนั่นสงสัยจะกลิ่นมะม่วงจิ้มกระปิค่ะ 555 กระปิหอมชื่นใจ

อีกนิดครับ

      ผมเองตามอ่านประวัติเขาหลายเวป โดยเฉพาะในเวปที่หลานสาวของเขาที่ตอบคำถามให้ผู้ที่ชื่นชมสะสมงานของเขา ผมไปเห็นรูปสองตายาย จับมือยิ้มให้กันอย่างมีความสุขในวัยทองนี้...รู้สึกตื้นขึ้นมาด้วยเป็นการแชร์ความสุขที่พบเห็น

      ผมยังเข้าไปทิ้งคำถามว่า เจ้าหมาของเขาในภาพนี้ชื่ออะไรมีประวัติความเป็นมาอย่างไร (หวังว่าไม่ใช่ชื่อเดียวกับภาพ) หากได้คำตอบจะมาขยายความต่อครับ

อ้าว...หมอนิด มาจกตั้งแต่เมื่อไร

พออาจารย์ตอบเสร็จ หมอโผล่เข้ามาพอดี

คุณแม่เป็นอะไรครับ...ฝากกราบท่านด้วยและจะแผ่เมตตาให้ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ทุกๆท่านที่ให้ชื่อมาครับ

เรื่องกลิ่นนั้น...อืมมมม! มิน่าเล่า เห็นสองคนซุบซิบกันใหญ่ว่าวิเคราะห์ผิด จากข้อมูลเศษชิ้นเล็กๆที่ติดมาหลงเข้าใจว่าเป็นทุเรียนกวน

ขอบคุณคุณมัทมากครับ

สำหรับ link นี้ผมยังไม่ได้อ่านพอดี

    พบว่ามีชื่อ Eloise หมาพูลเดิ้ลอีกตัวด้วย ชื่อคล้องกับ วอชิงตัน ดี.ซี. หมาพูลเดิ้ลที่บ้านอาจารย์เลย

    ขอบคุณมากครับ ใน gotoknow มีดีอย่างนี้แหละ แบ่งปันความรู้ซึ่งกันและกันได้รวดเร็วกว่าถามญาติของ Wyeth อีก

เรียนอาจารย์ค่ะ

ขอบพระคุณที่ชม หนูอ่านที่อาจารย์ตอบคุณมัทนา เรื่องปริศนาธรรม มี... ไม่มี... มี แล้วงงไม่เข้าใจ กรุณาขยายความให้ฟังหน่อยได้มั้ยค่ะ กราบขอโทษคุณมัทนาด้วยค่ะ

ดีใจที่อาจารย์เฉลยซะที

แว๊ปหนึ่งทำให้นึกถึงอิสรภาพในท่ามกลางธรรมชาติขึ้นมา เวลาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ทำให้เข้าถึงอิสระที่แท้จริง ปล่อยวางอะไรที่หนักๆในหัวได้

อีกแว๊ป กำลังนึกถึงพระธุดงธ์ค่ะ

 

หนูนา

มี...คือสิ่งที่เราเคยยึดมั่น ถือมั่น ว่ามีอยู่

ไม่มี...คือสิ่งที่พระพุทธองค์ กล่าวไว้ในอนัตตาธรรม เพื่อให้เราน้อมจิตเข้าปฏิบัติจนลุถึงคำสอนนั้น

มี...ในที่นี้ คืออุปาทานที่ฝังแน่นเป็นรากลึกอยู่ ผู้ที่ปฏิบัติ ย่อมรู้ตัวดีว่าขณะไหนมีตัวตนและขณะไหนบรรลุถึงความไม่มี...ขึ้นอยู่กับจิตในขณะนั้นๆ

อ.พัชราครับ

ธรรมชาติคือบ่อเกิดของธรรม

พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ท่ามกลางธรรมชาติและทรงตรัสว่า"...ในธรรมชาตินั้น มีธรรมอยู่แล้ว เราตถาคตเป็นเพียงผู้นำเอาธรรมที่มีอยู่แล้วนั้นมาแสดง..."

อาจารย์ขา อยากดูภาพวาดของ Wyeth อีกค่ะ ที่เกี่ยวกับธรรมชาติสวยๆ ค่ะ
  • เข้ามาสนับสนุนพี่แป๋ว  อยากดูด้วยอีกคนค่ะ  ตอนนี้จะมองแบบลึกซึ้งกว่าเดิมแล้วค่ะ

เราจะแก้ตัว เพื่อให้ได้คะแนนมากขึ้น ดีมั้ยค่ะ อ.ลูกหว้า.....แต่ อาจารย์ต้องประกาศคะแนน รอบที่แล้วด้วยนะค่ะ......มาตื้อค่ะ.....หากตื้อบ่อยๆ จะเปลี่ยนเป็นขู่ค่ะ.....มีปอบมารอจกด้วยค่ะ

ขอบคุณอาจารย์ที่ตอบปริศนาธรรมค่ะ

หนูมาสนับสนุนพี่ อ. Paewและ พี่ อ.ลูกหว้าด้วยค่ะ

อยากดูอีก อยากให้ประกาศคะแนนเร็วๆ ไม่งั้นจะประท้วงว่าส่งเกรดช้าด้วยนะคะ

ตามมาแอบดูอีกรอบ มีชื่อหมาเพิ่มด้วย

^____^

หวัดดี หนู Paew + หนูอ.ลูกหว้า

       อยากดูอีกเหรอ...

       แหม! เด็กพวกนี้กวนใจจริง เดี๋ยวจะเอาเกรด เดี๋ยวจะเอารูป แถมขู่จะจกพุงอีกด้วย

      รู้ว่าอาจารย์เป็นโรคจั๊กกระจี้ โดยเฉพาะที่พุง ใครโดนไม่ได้เลย...ชื่อว่าโรค วาบหวิว!วาบหวิว!

      โดยเฉพาะมือแหลมๆของปอบแบบนี้ <

       เอาละ! I give up!

       กำลังเลือกรูปอยู่ครับ...หาววววว!

     

หนู อ.ลูกหว้า

      เชื่อว่าจะมองแบบลึกได้...แต่หากจะซึ้งต้องไปซึ้งกับคนที่เคยตัดใจหรือปล่าว อิ อิ

    

หนูนา มาเป็นพวกกับเขาเสียแล้ว

หาวววววว...พอถูกทวงเกรดทวงรูปเป็นต้องหาวทุกที

หนู is

        ดีใจที่ไม่ทวงเกรด หนูเลี้ยงหมาบ้างรึป่าว

        หากเลี้ยงชื่ออะไร? หมาของอาจารย์เป็นโรคติดนอนซบ อาจารย์ล้มตัวลงนอนทีไร เจ้าดีซีมันต้องกระโดดมานอนซบที่ตักด้วยทุกครั้ง ไม่มีพลาด

เรียน ท่านอ.พิชัยค่ะ..ดิฉันมาช้าตามเคยค่ะ...อ่านแล้วให้ได้ความรู้สึกอบอุ่นของครอบครัวและคนรักเหลือเกินค่ะ...และที่ได้ข้อคิดมากกว่านั้นคือ..."เขียนสิ่งใดก็ตามจำเป็นที่จะต้องศึกษาในสิ่งนั้นๆให้ลึกซึ้ง ตั้งแต่เปลือกนอกจนถึงแก่นสารภายใน"....สิ่งนี้นำมาใช้กับชีวิตจริงได้ค่ะ...ไม่ใช่เฉพาะเรื่องของศิลปะอย่างเดียว...เรื่องของการใช้ชีวิตที่โลดแล่นไปในทุกๆวันด้วยค่ะ..ควรศึกษาตั้งแต่เปลือกนอกจนแก่นภายใน....ขอบคุณท่านอาจารย์มากๆค่ะ

อาจารย์คะ เมื่อวานไปปฏิบัติธรรมที่สะเมิงค่ะ

เอาบุญมาเผื่อค่ะและได้แผ่เมตตาเผื่อทุกผู้ทุกคนค่ะ

จริงๆแล้วไม่ทราบว่าสมาธิเกิดหรือเปล่าน่ะค่ะ คือหูก็รุ้ว่าได้ยินทุกเสียง รู้ว่ากำลังนั่ง ไม่เหมือนครั้งก่อนๆ ที่เหมือนจะนิ่งไม่ได้ยินอะไรตัวก็ชาๆ ไม่รู้สึกว่านั่ง  แต่คราวนี้หลังจากหยุดแล้วไม่ง่วงเหมือนครั้งก่อนๆ เลยค่ะ มีชั่วขณะจิตที่ได้ยินเสียงปลาโดดน้ำผุงๆ ไก่ขัน นกร้อง ผึ้งบินมาตอมดมหน้าหึ่งๆ ขณะนั้นเกิดความรู้สึกว่า ที่ว่าสัตว์ทั้งหลายเป็นเพื่อนร่วมทุกข์เกิดแก่เจ็บตายมันเป็นอย่างนั้นเอง พอมาอ่านความเห็นของอาจารย์ข้างบนที่ว่า "ธรรมชาติคือบ่อเกิดของธรรม" เลยนึกอยากเล่าให้อาจารย์ฟังค่ะ

สวัสดีครับ คุณ   กฤษณา สำเร็จ

      มาช้าดีกว่าไม่มาเลยครับ

      เป็นเรื่องอุ่นไอรักที่เกิดขึ้นรอบๆตัวเรา สามารถนำมาใช้เป็นเชื้อเติมไฟแห่งรักของเราให้อบอุ่นมากยิ่งขึ้นครับ

      แต่ของคุณกฤษณาอาจไม่จำเป็น เพราะไฟแห่งรักคงโหมกระพืออบอุ่นอยู่ทุกวันแล้ว

      ขอบคุณสำหรับ comment ครับ

สวัสดีครับ คุณจันทร์รัตน์

          สาธุ สาธุ สาธุ รับส่วนบุญที่แบ่งมาครับและขออนุโมทนาด้วย

          อานิสงส์ของการแผ่เมตตามีถึง 11 ข้อ และหนึ่งในนั้นคือ ผู้ที่ประกอบการเจริญเมตตาจะเกิดวรรณะอันงดงามเป็นสิริผ่องใสงามขึ้นทุกๆวัน

          ฮิ ฮิ หลับตาเห็นภาพเลยครับ ผู้ที่มีสิริผ่องใส นั่งหลับตาพริ้มเจริญกรรมฐานอยู่ น่าเลื่อมใสมากครับ

           ที่เล่ามา แสดงว่ามีสติมากขึ้นครับ ก่อนๆอาจเป็นแค่เดชของสมาธิ จึงทำให้รู้สึก ตัวหนัก ตัวชา และไม่รับรู้อะไรภายนอก ซึ่งนานๆไปจะกลายเป็นสมถะกรรมฐานไปครับ

            การที่รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นภายนอก ในขณะนั่งกรรมฐานอยู่นั้น เป็นการฝึกสติให้ละเอียดยิ่งขึ้น แต่ต้องกำหนดรู้นะครับ...ได้ยินหนอ หรือ รู้หนอๆๆๆ ไปตามสิ่งที่เกิดขึ้น ตามความเป็นจริง

         

มาตามดูค่ะ .... วัยรุ่นใจร้อนค่ะ

เฮ้อ....ต้องรออีกกี่หาวววว ค่ะ อาจารย์ขา.....(อาจารย์ หาวว มา 2 หาว แล้วนะค่ะ อีกครั้งไม่ไหวแน่ๆ...อิอิอิ).....อ.ลูกหว้า ขา เตรียมลับเล็บ ไว้ จกพุง อาจารย์ ให้ หวิว หวาบๆๆๆ ได้แล้วค่ะ.........

  • ฮือ...ฮือ...อาจารย์ขา ปอบหยิบชมพู  มารายงานตัวค่ะ   หนูไม่กลับไปมองอดีตแล้วค่ะ
  • มองหาแต่ปัจจุบันค่า...
  • อาจารย์จะมาพิบูลสงครามเมื่อไหร่คะ  เพราะต้นเดือนเม.ย.มีรับปริญญา  ส่วน 5-7 เม.ย. หว้าต้องไปมหาชีวาลัยอีสาน  บุรีรัมย์ค่ะ
  • กลัวไม่ได้น้องกระต่าย อิอิอิ....ถ้าไม่ได้จะตามไปจกที่เชียงใหม่ด้วย..
  • อ้อ...รูปใหม่ค่ะๆ

หวัดดีหนู paew

     ดูจากรูปถ่ายก็รู้ว่าเป็นวัยรุ่น(ไหน?) ใจร้อน ฮิฮิอยากได้ของดีดี ต้องใจเย็นๆ

     ที่จริงแกล้งหาวยั่วคนสาวเล่นไปยังงั้นแหละ จริงๆเริ่มเขียนไปบ้างแล้ว แต่ต้องโทษท่านอธิการบดีที่เรียกประชุมบ่อยมากและเมื่อกลับมาอาจารย์ก็ต้องเรียกประชุมอีก เล่นเป็นลูกระนาดเลย

     เสร็จประชุมว่าจะเขียนต่อ ....เฮ้อ....(หาวววววววว) อุ๊บ! ไม่ได้ตั้งใจหาว จับขังให้ยู่ในวงเล็บแล้ว

     ขู่คนเดียวยังไม่พอ...หาพวกเป็นปอบมาขู่อีก จนอาจารย์เวลานอนสะดุ้งวาบๆ ไปหลายพักแล้ว เลยนอนไม่เต็มอิ่มต้องเขียนไปหาวไปอยู่นี่แหละ           (ฮึ! กล่าวโทษซะเลย)

หนู ปอบหยิบชมพู  เจ้า

      สัญญาว่าไม่แลหลัง จะมองแต่เบื้องหน้าอาจารย์จะจดและจำไว้

     อุบอิบลิบลับ ใครไม่มาเอากระต่ายน้อยสีขาวอมชมพูที่พิษณุโลกเดือนเมษา อาจารย์จะเอามาออกรางวัลแทนให้คนที่ได้เกรดดีคราวหน้า

     ใครเห็นด้วยยกมือขึ้น ด่วน!

 

หากอยากรู้ว่า จะไปเมื่อไหร่ เข้าไปดูได้ที่ http://vipassanachiangmai.com/ ที่ตารางการอบรม เดือนเมษา ในช่อง...

       มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลย์สงคราม พิษณุโลก
..ฮิ ฮิ ไม่มาหาเวลานั้น อดได้แน่ๆ ฮิ ฮิ ฮ่า ฮ่า
  • ทำไมคอมฯหว้าโหลดนานมากเลยค่ะ
  • ขออนุญาตดูพรุ่งนี้ละกันค่ะ

มาร่วมฮาด้วยครับ

อยากทราบอานิสงส์11ข้อการการเจริญเมตตา

       หมอนับได้สี่หาวแล้วค่ะ อาการยังงี้ อาจจะเพราะเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอนะคะ  สงสัยเลือดมัวแต่ไปเลี้ยงพุงอยู่

        ปอบสีชมพูช่วยหยิบกระต่ายน้อยมาเผื่อด้วยนะคะ ตอนอาจารย์หาวนี่แหละค่ะ อิอิ

         ขอบพระคุณอาจารยืมากเลยค่ะ คุณแม่อาการดีขึ้นบ้างค่ะ แต่ยังนั่งเองและเดินไม่ได้ ต้องรอให้กล้ามเนื้อสะโพกซ้ายหายช้ำก่อนค่ะ

          ขอความกรุณาอาจารย์ช่วยแผ่เมตตาต่อด้วยค่ะ

     

เอ...แต่คืนที่นักศึกษาสาวญี่ปุ่น ๖ คนห้อมล้อมเจมส์ บอนด์ถนัดซ้ายนั้น ไม่เห็นหาวเลยนี่นา

ลงชื่อ ปาปารัซซี่

--------------------------------------------------------

ป.ล. ๑  ภาพนี้มีดีที่มือขวา

ป.ล. ๒  เชิญประกวดตั้งชื่อภาพ

ป.ล. ๓ ตัวใครตัวมัน คนแปะขอลาไปก่อน เดี๋ยวจะเจอสั่งทำฮาราคีรี   

 

ซาโยนาระ!

คุณ nash ค่ะ ชื่อภาพว่า...ดาวล้อมหนุ่ม(เหลือ)น้อย...มั้ยค่ะ .... อิอิอิ

อ.ลูกหว้าขา ขอกระต่ายมาเผื่อด้วยนะค่ะ เอาไปเลี้ยงที่บ้านพ่อครูบากันดีมั้ย.....

ตายแล้ว ตายแล้ว!!!!!!! อาจารย์ขา

หนูเปิดผิดบล็อกหรือปล่าว สงสัยไปเปิดบล็อกหนังเรื่องคาสิโนโรยัล พยัคฆร้ายดับเบิ้ลโอเซเว็นรึปล่าว?

แต่นับดูแล้วมี 7 คน  ขอตั้งชื่อ

1 พยัคฆร้าย อีซ้าย กับ 6 สาว อิ อิ

ไปขอความเห็น อ.ศิริพร ดีกว่ามั้ง!

สวัสดีหมอนิด

        คุณแม่สบายขึ้นบ้างแล้วนะครับ นอกจากอาจารย์แล้วยังมีอ.ศิริพรและโยคีนศ.คณะแพทย์ช่วยแผ่เมตตาให้ด้วยครับ เรียนคุณแม่ว่าถือโอกาสพักผ่อนและเจริญเวทนาไปพร้อมกันนะครับ

      เออ! จริงด้วยอาจารย์ลืมคิดไปว่าอาการหาวนี่เกิดจากสาเหตุเลือดไปเลี้ยงที่พุงมากนี่เอง แต่พักนี้อาจารย์ฝึกแขม่วพุงจนลดไปหลายองคุลีมิลแล้วเชียวนา

โอ้ย! คราวนี้ต้องตายแน่

      หนูณัชร บังอาจมาก!

      ใครช่วยบอก webmaster ช่วยปิด go2know ชั่วคราวที ลบรูปนี้ออกไปซะก่อน ความลับที่เก็บมานานจะแตกเสียคราวนี้...

      อาจารย์กลัวว่า หนัง 007 จะเลิกจ้างพระเอกคนปัจจุบัน หันมาจ้างอาจารย์แทนนะซี ฮ่า ฮ่า

       ฝากไว้ก่อนเถิด หนูณัชร เจอหน้าเมื่อไหร่ จะหยิกให้ร้องให้จนขี้หูเป็นตังห้า ขี้ตาเป็นตังสิบ เลยทีเดียว ฮึ่ม!!

    

  • เจมบอนด์คนนี้ไม่มีไม้เท้าแล้วหรือคะ  อิอิอิ..
  • ฝากบอกพี่แป๋วด้วยค่า.... กระต่ายน้อยของหว้าคงเอาไปเลี้ยงไม่ได้   เพราะเป็นตุ๊กตากระต่าย  5555555

หนู อ.ลูกหว้า

      Good morning, My name is Bond...James Bond. แฮ่ะๆ ฟังแล้วดูดี เป็นประโยคอมตะที่ต้องปรากฏอยู่ในหนังทุกตอน...เว้นตอนเดียวที่ผมแสดงนำไปแล้ว ...007 กับหกนงคราญจากญี่ปุ่น

      ต้องเฉลยเพิ่มหน่อยว่า ภาพที่เห็นนั้น(ฝากไว้ก่อนเถิดหนูณัชร) มางานงานเลี้ยงรับรอง Farewell Party(ฮึ่ม!) กลุ่มนักศึกษาและคณาจารย์ชาวญี่ปุ่น ในโครงการ International Understanding ที่คณะและมหาวิทยาลัยชิกะ ประเทศญี่ปุ่นร่วมกันจัดขึ้น เพื่อให้โอกาสนักศึกษาได้แลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจด้านภาษาและศิลปวัฒนธรรม เป็นระยะเวลา 10 วัน

      ปรากฏว่า นศ.ซาบซึ้งมากและมีความสนิทสนมกับครูอาจารย์ที่ร่วมโครงการเป็นอย่างดี ตอนลาจากร้องห่มร้องให้มาซบอกเจมส์บอนด์จนเปียกชุ่มทั้งสองบ่า ผมก็จะพานักศึกษาไปญี่ปุ่นในเดือนพฤษภาคมนี้เช่นกัน

        เอ!? น่าจะเอาปอบหยิบชมพูไปโชว์ตัวท่าจะดี

     

    

 

สาวญี่ปุ่นไหว้ร่ำลาอาจารย์แบบไทย ๆ (คนกลางเผลอโค้งด้วย)

 

เริ่มร้องแล้ว  จึงเป็นหน้าที่พระเอกเจมส์ บอนด์ ที่ต้องปลอบนางเอก (ภาคไหนนี่?)

 

หนังจบแล้วจึงต้องปิดด้วยฉากหลัก ช็อตเด็ด  เพลง theme หลัก 007 ดังขึ้นแล้ว เครดิตวิ่งขึ้นว่าใครนำแสดง ฯลฯ

 

ทันใดนั้น ภาพตัดไปที่ "Distant Thunder" ตัวจริง เสียงจริง ของอ.พิชัย

มือของ "คนที่คุณก็รู้ว่าใคร"  กำระฆังใบใหญ่ไว้ในมือ

 

ผู้แปะขออนุญาตไปใส่ที่ครอบหูสำหรับเวลาเล่นกีฬายิงปืนก่อน เพราะคาดว่า Thunder นี้ คงจะ Not so Distant  จึงคงจะก้องบ้องหูไม่น้อย

 

ฤาจะเป็นภาคอวสาน 007?

 

Good luck, Mr. Bond.

        ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  ศิษย์รักหักเหลี่ยมโหด เอ๊ยปาปาล้วงซี่ณัชรนี่เอง  หายไปไหนมานาน เปิดบลอกหรือยังคะ คิดถึงจังเลยคุณณัชร แอบไปสร้างหนังมานี่เอง 5555555555

        หมอนั่งหัวเราะจนพุงกระเพื่อมหนอเลยค่ะ อาจารย์สั่งลบรูปออก1 รูปแต่มีรูปสะท้อนกลับมาเป็นอัลบั้มเลยค่ะ ฮิ้ววววววววววว เจมส์บอนด์เรื่องนี้หล่อกว่าเพียซ บรอสแนน ตรงพุงนี่เอง

        กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ทั้งสองและโยคีรุ่นนักศึกษาแพทย์และกัลยาณมิตรทุกท่านด้วยค่ะ คุณแม่อาการดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ หมอก็พยายามบอกให้ท่านกำหนดเวทนาให้มากๆ คุณหมอที่ดูแลอาการบอกว่าอีกสัดสองอาทิตย์ก็น่าจะเดินได้ค่ะ        

  • อิอิอิ...หล่อซะ  
  • ปอบหยิบชมพูไม่ไปต่างประเทศหรอกค่ะ

ตามมาดูด้วยค่ะ   55แหมเพิ่งจะทราบนะคะว่าเรามีปาปาล้วงซี่  สาวน้อยคนสวยชื่อว่าณัชรนี่เอง

ชอบรูปอาจารย์มากเลยค่ะ   ดูไปหัวเราะไป  เท่มากจริงๆค่ะอาจารย์

ขอไปนั่งหัวเราะต่อนะคะ    ขำหนอๆๆๆ

หมอนิดที่รัก ยินดีด้วยค่ะที่คุณแม่อาการดีขึ้น

ตอนนี้ยังยุ่งอยู่เหมือนเดิม จึงไม่เขียนบล๊อก

รูปที่มาแถมเพิ่มให้ ความจริงตั้งใจให้เป็นรูปช่วยแก้ต่าง ประกอบคำแก้ตัว เอ๊ย คำอธิบายเหตุการณ์ความเป็นไปของคืนส่งนงคราญทั้งหกกลับแดนซากุระ ที่อ.พิชัยเขียนต่างหากนะนี่

มาพลาดที่รูปสุดท้ายใหญ่ไปหน่อยนั่นเอง เลยเห็นว่าอ.หล่อมากกว่าเจมส์ บอนด์ทุกภาค

ที่หายไปนานก็เพราะต้องทำรีทัชภาพนี่แหละหมอนิดที่รัก ความจริงอาจารย์น่าจะให้คะแนนในแง่ผลงานศิลปะนะนี่  กว่าจะแต่งออกมาให้อาจารย์หนุ่มฟ้อ หล่อเฟี้ยวนี่ ก็หมดโปรแกรมคอมพ์ไปหลายโปรแกรม

ไหนจะต้องใช้เทคนิคจัดแสงบังพุง  จัดแสงลบริ้วรอย  จัดแสงลบผมขาว  จัดแสงให้หน้านวลผ่อง  โอ้โฮ...ใช้ทุกเทคนิคเลย   ทำอยู่หลายวันนะ เป็นเมกะโปรเจ็คท์

ที่ขำที่สุดก็คือ การจัดแสงสำหรับคนอายุต่างกันนี้ลำบากมาก  เพราะว่าพอดึงหน้ากระชากวัยอาจารย์ลงมาด้วยการปรับโครงสร้างสีของภาพและแสงได้ที่แล้ว  ใส่ความซอฟท์ของเลนส์ลงไปให้สภาพผิวดูเพอร์เฝคท์  ปรากฏว่าลืมดูหน้าเด็ก ๆ  ไปทำหน้าเขาเบลอหมดเลย  นั่งขำอยู่ตั้งนาน  สรุปว่าต้องรื้อใหม่หมด

แหม...อาจารย์ขา ที่อาจารย์บอกว่าฝากไว้ก่อน หนูขออนุญาตไม่รับฝากก็แล้วกันนะคะ  อุตส่าห์มีความเพียรตั้งใจทำอย่างสุดฝีมือเสียขนาดนี้  ออกมาอาจารย์หล่อบาดใจ  ไม่ทวงเกรดก็ดีแค่ไหนแล้ว ฮิ ๆ

เอาเป็นว่า รูปที่เหลือ ไม่แปะแล้วล่ะค่ะ เดี๋ยวจะไรท์ซีดีส่งไปให้เลยก็แล้วกัน 

สวัสดีค่ะ,

ณัชร (ไม่รับฝาก)

ฮ้า ฮ้า ฮาฮา+ !!!!!! ฮา ยกกำลังสองเลยค่ะ

แหมหนูนึกไม่ถึงเลยว่า มาดอาจารย์ที่หนูเห็นจะมาทำมาดเท่ขนาดสาวๆรุมล้อมอย่างนี้ได้

ว่าแต่ว่า หนูณัชร ปาปาราชซี้ คนนี้ เรียกค่าไถ่เท่าไหร่ค่ะ หนูล่ะหวาดเสียวแทน...บรื้อๆ

เดี๋ยวก่อน...ขอตัวก่อน

ทำอะไรไม่ถูก...พูดไม่ออก ...

สมองตื้อไปหมด...โอย...หลังอาจารย์หักหมดยับเยิน

555

เข้ามาดูอีกรอบ กลายเป็นเจมส์บอนด์ ภาคสังหารหมู่ 6 สาว ก๊ากกก

จะวิ่งมาเล่นเรื่องน้องหมาซะหน่อย เจอหนังภาคใหม่ทำเอาสมองตื้อตามไปด้วยคน อาจารย์ต้องทำกายภาพหลังซะแล้วล่ะ

น้องหมาชื่อ ป๋อหรอกะปุ๊กลุ๊ก (พุดเดิ้ล) ตอนนี้เสียชีวิตไปแล้ว เหลือแต่น้องบิ๊ก (รอทไวเลอร์)

น้องบิ๊กนี่เป็นหมาจิตนิดๆ ดีใจสุดขีดเวลาใครกลับบ้าน แล้วจะกระโดดโลดเต้น พอลูบหัวเท่านั้นล่ะ ฉี่ราดเลย หุหุ เสียหมาหมดเลย

^___^

...

ว่าแล้วก็คิดถึงน้องบิ๊ก

...

เอาของมาฝากค่ะ

http://gotoknow.org/blog/Aussie/83874

คุณณัชรกลับมาเขียนบล๊อคต่อเร็วๆนะคะ

แฟนๆรออ่านค่ะ

หนูปอบหยิบชมพู

ใช่ซิ ขืนปอบหยิบชมพูอยากไป

ตอนขอวีซ่าไม่ผ่านแน่ ฮะฮะ

หนูสุกฤตา

อย่าหัวเราะมากเดี๋ยวกรามค้าง...แหมจะคิดบัญชีล้างแค้นเจ้าหนูณัชรอย่างไรดีนะ (ต้องแอบกระซิบปรึกษา เดี๋ยวได้ยิน)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท