กรณีของนายบุญเรือง รินระทัย กับพวกตามคำพิพากษาฎีกาที่ 2318-2319/2530 : คนเชื้อชาติเวียดนามที่ประสบปัญหาในการมีสัญชาติไทยโดยหลักดินแดนเมื่อมีการประกาศใช้ประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 337


ศาลไทยได้วินิจฉัยตัดสินคดีโดยยืนอยู่บนความถูกต้อง และเป็นธรรมมิได้นำเอาความเป็นบุคคลที่มีเชื้อชาติต่างประเทศของคู่ความมาจำกัดในการให้ความยุติธรรมแต่อย่างใด

                นายบุญเรือง รินระทัย กับพวก เกิดในราชอาณาจักรไทย       เป็นบุตรนางพรหม รินระทัย บุคคลสัญชาติไทย และนายยือ คนต่างด้าวสัญชาติญวน      ทั้งสองมิได้จดทะเบียนสมรสกัน นายบุญเรือง รินระทัย กับพวกมีสัญชาติไทยตามกฎหมายสัญชาติที่มีผลบังคับขณะที่เกิด

 

                เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ.2519 ปลัดเทศบาลเมืองอุบลราชธานีอ้างว่านางสาวฮวา หรือฮัว รินระทัยเป็นคนสัญชาติญวน       และเมื่อปีพุทธศักราช 2514 หัวหน้าสำนักกิจการญวนอพยพ จังหวัดอุบลราชธานี อ้างว่านายบุญเรือง รินระทัย    กับพวกเป็นคนสัญชาติญวนและต่อมาได้เพิ่มชื่อนายบุญเรือง รินระทัย        กับพวกลงในทะเบียนบ้านคนญวนอพยพเลขที่ 210 ถนนพรหมราช ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี

 

                นายบุญเรือง รินระทัย กับพวกจึงได้นำคดีมาฟ้องต่อศาลขอให้ศาลพิพากษาว่า   นายบุญเรือง รินระทัย กับพวกเป็นคนสัญชาติไทยให้ถอนชื่อ          นายบุญเรือง รินระทัย กับพวกออกจากทะเบียนบ้านคนญวนอพยพ

 

                คดีทำในสามศาลโดยศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาว่า   โจทก์ทั้งหกเป็นคนสัญชาติไทยให้จำเลยร่วมกันถอนชื่อโจทก์ทั้งหกออกจากทะเบียนบ้านคนญวนอพยพ    เลขที่ 210 ถนนพรหมราช ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี

 

                ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์

 

                ศาลฎีกาพิพากษาว่า หากโจทก์ทั้งหกเป็นคนมีสัญชาติไทยตามกฎหมายแล้ว       แม้บิดามารดาของโจทก์จะไปแจ้งให้เจ้าหน้าที่จดแจ้งชื่อโจทก์ทั้งหกคนเข้าในทะเบียนบ้านคนญวนอพยพก็ไม่ทำให้โจทก์ทั้งหกต้องสูญเสียสัญชาติไทยและกลายเป็นคนสัญชาติญวนไปก่อนฟ้องโจทก์และมารดาได้ขอให้เจ้าหน้าที่เพิกถอนชื่อโจทก์ออกจากทะเบียนบ้านคนญวนอพยพ     แต่เจ้าหน้าที่ไม่จัดการให้โดยโต้แย้งว่าโจทก์เป็นคนต่างด้าวเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้โต้แย้ง  สิทธิของโจทก์แล้ว โจทก์มีอำนาจฟ้อง

 

                ในการพิจารณาตัดสินคดีของนายบุญเรือง    รินระทัยกับพวกจะเห็นว่าศาลไทยได้วินิจฉัยตัดสินคดีโดยยืนอยู่บนความถูกต้อง              และเป็นธรรมมิได้นำเอาความเป็นบุคคลที่มีเชื้อชาติต่างประเทศของคู่ความมาจำกัดในการให้ความยุติธรรมแต่อย่างใด         ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าศาลไทยคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนอันเป็นสิทธิของมนุษย์ที่ไม่ควรถูกละเมิด

 

                จากคดีของนายบุญเรือง รินระทัยกับพวก  ได้แสดงให้เห็นถึงปัญหาของบุคคลที่มีสัญชาติไทยโดยหลักดินแดน   ซึ่งแม้บุคคลดังกล่าวจะมีองค์ประกอบในการได้สัญชาติไทยตามที่กฎหมายกำหนดแล้วก็ตามแต่เนื่องจากการที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องยังขาดความชัดเจนทำให้ การใช้กฎหมายไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายประกอบกับ  การที่เจ้าหน้าที่ของรัฐขาดความรู้ความเข้าใจในกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องอย่างถ่องแท้     จึงเป็นเหตุให้เกิดข้อโต้แย้งในกรณีการถูกถอนสัญชาติไทย   แต่อย่างไรก็ตามเมื่อศาลไทยได้ให้ความยุติธรรมจึงทำให้ปัญหาดังกล่าวยุติลงไปได้

                 ปัจจุบันนายบุญเรือง    รินระทัยกับพวก          มีสถานะเป็นคนไทยโดยมีสัญชาติไทยตามกฎหมายสัญชาติที่มีผลใช้บังคับอยู่ในขณะเกิด 
หมายเลขบันทึก: 72872เขียนเมื่อ 16 มกราคม 2007 11:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:03 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท