The Substance: สวยสลับร่าง (2024) สรุป รีวิว บทวิเคราะห์ความหมายเชิงสัญลักษณ์และจิตวิทยา


The Substance: สวยสลับร่าง (2024) สรุป รีวิว บทวิเคราะห์ความหมายเชิงสัญลักษณ์และจิตวิทยา (แบบละเอียดยิบ)

*** #สงวนลิขสิทธิ์ทางปัญญา ห้ามคัดลอกบทความไปเผยแพร่เด็ดขาด แต่สามารถแชร์ลิงก์ไปเผยแพร่ได้ ***

#บทนำ
The Substance เขียนบท กำกับ ร่วมตัดต่อ และร่วมอำนวยการสร้างโดย โคราลี ฟาร์เจต ถือว่าหนังโคตรดี ปีที่แล้วพลาดไปได้ไงก็ไม่รู้ หนังจิตวิทยาระทึกขวัญชั้นยอด เล่นกับความจมไม่ลง อยากหยุดอายุวัยเยาว์ไว้ที่ปลายฟ้า อยากเด่น อยากดัง อยากรักษาชื่อเสียงเอาไว้ให้ยาวนาน โดยไม่ได้มองตัวเองว่าสังขาลแก่เกินแกงแล้ว

ดูคลิปที่นี่
 



#สรุปเรื่อง
หนังเล่าเรื่องราวของเอลิซาเบธ สปาร์เคิล ดาราสาวผู้โด่งดังจนได้รับการติดดวงดาวไว้ที่ Hollywood Walk of Fame แต่ในช่วงท้ายของความโด่งดัง เธอไปเป็นพิธีกรหลังเต้นออกกำลังกายออกโทรทัศน์ออนแอร์ช่วงเช้า จนท้ายที่สุดก็หมดวัยของเธอทางผู้สร้างต้องการหาหญิงคนใหม่ที่สวยกว่าสาวกว่ามาแทนเธอ และสัญญาของเธอกับรายการโทรทัศน์นี้ก็หมดลงไปในวันเกิดปีที่ 50 ของเธอพอดี

หลังจากได้รับข่าว เอลิซาเบธ ก็ไร้สติสตางค์ขับรถจนเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำเข้าโรงพยาบาล แต่เธอก็ได้รับบางสิ่งบางอย่างจากบุรุษพบาบาลผู้ลึกลับที่จับกระดูกสันหลังเธอไปมา แอบส่งของบางอย่างที่สามารถลดความวัยเยาว์ให้เธอได้

เมื่อศึกษาดูข้อมูลดีแล้ว และด้วยความที่จะกลัวว่าช่วงเวลาอันโด่งดังของเธอจะจบลง เธอจึงตัดสินใจขอรับยาวิเศษ หรือที่เรียกว่า "The Substance" แล้วก็ฉีดเข้าตัวเองทันที จากนั้นก็มีร่างหนึ่งงอกออกมาจากกระดูกสันหลัง เป็นอีกร่างหนึ่งที่สวยกว่าสาวกว่า หุ่นเช้งกระเดะทรงทรงองเอง ใครเห็นก็ต้องรักต้องหลงไม่ต้องใช้เวทมนต์ยาเสน่ห์นะหน้าทองอะไรทั้งสิ้น แม้จะเป็น 2 ร่าง 2 จิตใจแต่ก็ถือว่าเป็นหนึ่งเดียว แต่ละร่างจะมีเวลาในการใช้ชีวิตสับกันคนละ 1 สัปดาห์

ร่างที่ไม่ได้ถูกใช้ จะต้องได้รับอาหารที่เป็นของเหลวทุกวัน และร่างที่ใช้ชีวิตจะต้องใช้เข็มเจาะไขสันหลังจากอีกร่างมาฉีดใส่ตัวเองทุกวันจนครบเจ็ดวัน แล้วก็ไปสลับร่างกัน สลับแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ห้ามผิดกฎห้ามผิดเวลา

ร่างใหม่ที่สาวกว่าสวยกว่าชื่อ ซู ไปสมัครงานเดิมของเอลิซาเบธเป็นนักเต้นออกนำกำลังกายทางโทรทัศน์ ทางบริษัทผู้ผลิตก็รับเธอทันที ซูกลายเป็นดาราดาวรุ่งพุ่งกระฉูด ที่สำคัญซูคันยิก ๆ ติดรสสวาทกับผู้ชายมาดแม่นหุ่นปานดาราโก้จัด เลยทำผิดกฎไม่ยอมสลับการใช้ร่างตามเวลากำหนด ช่วงแรกเวลาก็เกินเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง แต่นั่นมันก็ส่งผลให้กับร่างของอลิซาเบธ ที่เริ่มเหี่ยวแก่เกินกาล แม้ว่าอลิซาเบธจะจัดการโดยการสวาปามอาหารจนหนักหน่วง แต่ก็ทำอะไรร่างสาวของซูไม่ได้ แล้วเมื่อสู่กลับมาเธอก็แก้เผ็ดด้วยการดูดไขสันหลังของอลิซาเบธมาตุนเอาไว้ใช้หลายสัปดาห์จนร่วงของอลิซาเบธร่วงโรยแก่ชราจนแถมไม่เหลือของเหลวในร่างกาย จากนั้นเธอก็จะรับโอกาสมากมายไม่ว่าจะเป็นขึ้นปกนิตยสารดัง แล้วโอกาสในการออกโทรทัศน์ แต่ก็ฝืนไปได้ไม่นาน เพราะยังต้องสลับอีกร่างหนึ่งออกมาอยู่ดี

อลิซาเบธทนไม่ได้ โทรศัพท์ไปขอยาจะยุติการสลับร่าง ในขณะกำลังจะฉีดใส่ในร่างของซู แต่เธอก็โง่เหลือเกิน ยังอยากจะให้ตัวเองคงความดังเอาไว้ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ร่างเหี่ยว ๆ ของนางก็ตาม ขอให้ดังในร่างสาวสวยสุดสยิวของซูก็ยังดี เธอจึงไม่ฉีดยายุติ ในขณะที่ร่างของซูกำลังจะตายลงไป อลิซาเบธจึงถ่ายเลือดให้กับซูโดยตรงและซูก็ฟื้นขึ้นมา

จากนั้น อลิซาเบธและซู ก็ประเชิญหน้ากันครั้งแรก ไม่รู้ว่าชูไปโกรธอะไรมาพุ่งเข้าใส่อลิเบธหนักหน่วย เตะต่อยกระทืบ จับหัวโขกกับกระจกห้องน้ำจนหน้าเละ แผลแตกเต็มหน้า แบบแอนตาซิลไม่ต้องมานับแจกเข็มละห้าร้อยเลย จากนั้นลากออกมาข้างนอกถีบเธอลอยไป 10 เมตร ราวกับว่าเธอมีแรงดังซุปเปอร์ฮีโร่ แล้วก็เตะเข้าชายโครงแบบนับครั้งไม่ถ้วน เอาซะจนอลืซาเบธตายคาที่ วูบหนึ่ง เสียงในหัวเธอบอกว่า เธอ กับอลิซาเบธนั้นถึงแม้จะมีสองร่างแต่ก็คือคนคนเดียวกัน สิ่งที่เกิดขึ้นกับอีกร่างหนึ่งก็จะเกิดขึ้นกับเธอด้วย

เมื่อคืนวันนั้นเองสูก็เตรียมตัวไปออกรายการโทรทัศน์และรับบทบาทการเป็นพิธีกรครั้งแรก แต่งตัวสวยพริ้งในชุดราตรี กระโปรงบานฟูสีน้ำทะเล ใส่สร้อยเพชรราคาแพงและใส่ตุ้มหูสุดหรูหรา

แต่ก็มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายของเธอ หูได้ยินผิดเพี้ยน ฟันหลุดออกมาทีละซี่ เล็บหลุดออกมาจากนิ้ว หูหลุดออกมาจากหัว สูตรจะรีบวิ่งกลับเข้าไปที่อพาร์ทเม้นต์ แล้วไปหยิบ ยาวิเศษที่ทำให้เธอเกิดขึ้นมา โดยไม่สนคำเตือนว่าสารชนิดนี้ใช้ได้เพียงแค่ครั้งเดียว จากนั้นเธอก็รีบฉีดมันใส่ตัวเอง

ซูลงไปนอนชักดิ้นชักงอ แล้วก็เกิดร่างใหม่ออกมาจากกระดูกสันหลังของเธอ เป็นร่างที่บิดเบี้ยวผิดมนุษย์มนา ตาหูปากจมูกไม่ได้อยู่ที่เดียวกัน ทั่วทั้งตัวปูดบวม มีหน้าของอลิซาเบธงอกจากด้านหลัง และเสียงหนึ่งก็ได้บอกชื่อของร่างนี้ออกมาว่า "อสูรกายอริซาซู"

อริซาซู หยิบชุดราตรีที่เธอกำลังจะออกรายการโทรทัศน์ขึ้นมาใส่ ใส่เครื่องประดับแบบทุลักทุเล ดัดผมที่มีอยู่น้อยนิด แล้วค่อยๆลากสังขารของเธอขึ้นไปบนเวที ต่อหน้าผู้ชม ทั้งในห้องส่งและชมผ่านทางโทรทัศน์หลายสิบล้านคน

ทุกคนเรียกเธอว่าอสูรกาย กรีดร้องละหวาดกลัวเมื่อเห็นร่างกายอันวิกรมิการสุดแสนจะชั่วร้ายในสายตาของพวกเขา หลายคนทำไม่ได้ก็พากันวิ่งหนีออกไป บางคนถือเหล็กขึ้นมาทุบหัวเธอ แต่ก็ไม่ตายมันสามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้ จากนั้นเธอก็พ่นเลือดแต่ทุกคนที่อยู่ในห้องส่ง

อสูรกายอริซาซู หอบสังขารออกมานอกห้องส่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าวล่างก็แตกสลาย เหลือแต่เพียงก็เรื่องเล็กๆที่มีใบหน้าของ อลิซาเบธที่เคยแปะอยู่ในส่วนหลังของอสูรกาย มันค่อยๆเคลือบคลานไปอยู่บนดาวชื่อของเธอบนถนน Hollywood Walk of Fame เธอมองขึ้นไปบนท้องฟ้า แสงสุดท้ายที่ส่งลงมาถึงตัวเธอก็คือแสงอันเล็กน้อยของดวงดาวที่อยู่ห่างไกลออกไป ไม่รู้กี่ร้อยกี่ล้านปีแสง และนั่นก็คือสิ่งสุดท้ายที่เธอได้เห็น ก่อนก็เรื่องนั้นจะค่อยๆ ละลายกลายเป็นน้ำ แล้วถูกชะล้างด้วยรถทำความสะอาดยามรุ่งขึ้น

#บทวิจารณ์ภาพยนตร์

ก็เป็นอย่างที่บอกในตอนต้นว่า The Substance: สวยสลับร่าง (2024) หนังโคตรดี ปีที่แล้วพลาดไปได้ไงก็ไม่รู้ ในแง่ของความเป็นหนังระทึกขวัญถือว่าทำได้ดีมาก ทำได้แบบไม่ต้องกั๊กอะไรเลย หลายฉากทำให้เรารู้สึกต้องหลับตามอง เริ่มตั้งแต่ฉากการแยกตัวของอีกร่างหนึ่งจากกระดูกสันหลังแล้ว ยิ่งในช่วงท้าย ๆ บอกเลยว่าเด็ดสุด ฉากฟัดกันระหว่างร่าง 2 ร่างในบ้านเละเทะสิ้นดี เลือดกระจายเต็ม ฉากถอนฟัน ฉากถอดเล็บมาเต็ม แล้วไหนจะฉากเลือดสาดในตอนท้ายในห้องส่งอีก เอาเป็นว่าสายหนังระทึกขวัญสยองขวัญสไตล์ยุค 80 และ 90 คงชอบแน่นอน

หลายฉากทำให้เราคิดถึงหนังดังๆหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นชายที่มีร่างหนึ่งแยกออกมาจากกระดูกสันหลังก็ทำให้นึกถึงหนังระทึกขวัญสุดคลาสสิคเรื่อง Species สายพันธุ์มฤตยู สวยสูบนรก ที่ฉายภาคแรกในปี 1995 ฉากก้อนเลือดที่มีแต่หน้าคนและรวมถึงอสุรกายนั้นก็ทำให้คิดถึงหนังเรื่อง The Thing ไอ้ตัวเขมือบโลก ฉายในปี 1982 เข้าใจว่าผู้กำกับ น่าจะได้แรงบันดาลใจมาไม่มากก็น้อย

ส่วนด้านการแสดงของเดมี มัวร์ วัย 62 ปี ก็ถือว่ายอดเยี่ยมกระเทียมเจียวมากไร้เทียมทานเลย ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เห็นเธอบนจอภาพยนตร์นานแล้วก็ตาม แต่การกลับมาในครั้งนี้เธอก็วาดลวดลายลีลาถ่ายทอดอารมณ์ของหญิงที่ต้องการจะเอาชนะธรรมชาติ ส่งผลให้เธอได้รับรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์เพลงหรือตลกจากหนังเรื่องนี้ ความจริงเธอควรจะได้รับรางวัลแบบนี้มานานแล้วนะ แต่หนังที่เธอเลือกเล่นมันไม่ค่อยส่งสักเท่าไหร่เลย เอาเข้าจริง ๆ หลายคนคงจะจำการแสดงของเธอได้จากหนังเรื่อง Ghost วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก (1990) กระมัง

นอกจากนี้ความดีงามของภาพยนตร์ก็คือการถ่ายทอดภาษาทางภาพยนตร์ได้ออกมาอย่างชัดเจน การตัดสลับเรื่องราวและระยะสำคัญที่สอดแทรกเข้ามาในเรื่องนั้นก็ทำได้ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นกระจกเงาที่เราเห็นอยู่ตลอดเวลา พื้นที่ในห้องน้ำที่เป็นสีขาว ป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่ ที่หันหน้าเข้ามาในห้องของนางเอก ดวงดาราบนท้องฟ้าที่ส่องแสงระยิบระยับ ก่อนที่ก้อนเลือดขออลิซาเบธจะละลายเป็นน้ำบนแผ่นดาวชื่อของเธอที่แตกร้าวไปตามกาลเวลา สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่มีความหมาย ในเชิงสัญลักษณ์ทั้งสิ้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครจะตีความออกมายังไงมันก็อยู่กับประสบการณ์ส่วนตัวของคนดู แม้ว่าจะไปหนังแนวจิตวิทยาและปรัชญาแบบจ๋าๆ แต่เราก็เข้าใจและดูง่าย ตีความง่ายแบบไม่ยากเลย

นอกจากความระทึกขวัญความสยองขวัญจิตวิทยาที่ The Substance เสิร์ฟมาให้กับเราอย่างเต็มอิ่มแล้วหนังยังมีความดีงามในแง่ในการนำเสนอในเชิงสัญลักษณ์ ที่ว่าด้วยความพึงพอใจในรูปร่างหน้าตา การยอมรับการเปลี่ยนแปลง การแสดงความหมายของโลกธรรม 8 ที่ได้มาก็ต้องเสื่อมไปอีกด้วย ดังนั้นในคลิปนี้จึงจะขอตีความหมายเชิงสัญลักษณ์ The Substance สักเล็กน้อย เพื่อให้เขาถึงปรัชญาของเรื่องให้ได้มากที่สุด

#การวิเคราะห์เชิงสัญลักษณ์และจิตวิทยา The Substance (2024) การยึดติดในชื่อเสียงและรูปลักษณ์

The Substance (2024) ผลงานของ โคราลี ฟาร์เจต เป็นภาพยนตร์ที่หยิบยกประเด็นที่ซับซ้อนในด้านสังคมและจิตวิทยามาวิเคราะห์ ผ่านตัวละครที่ต้องต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน การนำเสนอเรื่องราวผ่านสัญลักษณ์เชิงวิจารณ์เกี่ยวกับอุดมการณ์ความงามของสังคม และการยึดติดในตัวตนที่เปราะบาง ถูกขับเคลื่อนผ่านมุมมองเชิงจิตวิเคราะห์ที่ลึกซึ้ง

#สัญลักษณ์ของความงามและชื่อเสียง

การที่เอลิซาเบธ สปาร์คเกิล ใช้สาร "The Substance" เพื่อสร้างร่างกายที่ลดอายุจนเป็นสาวแรกรุ่นและตัวตนใหม่ในชื่อซู  วิเคราะห์ได้ว่าเป็นภาพแทนของ "มโนภาพตัวตนในอุดมคติ" (Idealized Self) ตามแนวคิดของ  คาเรน ฮอร์นีย์ จิตวิเคราะห์ชื่อดัง ซึ่งมองว่ามนุษย์มักสร้างภาพตัวตนในอุดมคติเพื่อหนีจากความเป็นจริงที่ไม่สมบูรณ์ ยกตัวอย่างเช่นในโลกที่เต็มไปด้วยการสร้างแบรนด์ส่วนตัวและโปรไฟล์โซเชียลที่ถูกสร้างขึ้น ในโลกที่รูปลักษณ์ของเราสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ผู้คนต่างลดขนาดร่างกาย ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น ลบเลือนริ้วรอยบนใบหน้า เราค่อยๆ สูญเสียความสามารถในการรู้ว่าใครเป็นใครอย่างแท้จริง การที่เอลิซาเบธปฏิเสธตัวตนเดิมสะท้อนถึงการปฏิเสธความไม่สมบูรณ์ของตัวเองในวัยที่เพิ่มขึ้น

ตัวตนใหม่ของซู กลายเป็นสัญลักษณ์ของแรงกดดันที่สังคมสร้างขึ้นในเรื่องของความงามที่ “ยอมรับได้” และการกลายเป็นผลิตผลของค่านิยมที่ไร้ความยืดหยุ่น การมุ่งหน้าสู่ตัวตนในอุดมคติของเอลิซาเบธจึงไม่ได้สร้างการปลดปล่อย แต่กลับเพิ่มภาระทางจิตใจ

#ร่างกายและความเจ็บปวดในบริบทจิตวิทยา

การเชื่อมโยงร่างกายและจิตใจในเชิงทฤษฎี
"Body Horror" หรือความสยดสยองที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของร่างกายในภาพยนตร์ The Substance มีบทบาทสำคัญในการสำรวจจิตใจของตัวละครเอลิซาเบธ แนวคิดนี้สามารถอธิบายผ่านทฤษฎีของ ฌาคส์ ลากอง นักจิตวิเคราะห์ชาวฝรั่งเศส เกี่ยวกับแนวคิดเรื่อง "Mirror Stage" ซึ่งกล่าวถึงช่วงเวลาที่บุคคลมองเห็นตัวเองในกระจกและสร้างตัวตนในจินตนาการ (Imaginary Self) ขึ้นมา

ในบริบทนี้ การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของเอลิซาเบธที่เกิดจากการใช้สาร "The Substance" แสดงถึงความพยายามที่จะเชื่อมโยงตัวตนที่แท้จริง (Real Self) กับตัวตนในจินตนาการ

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวกลับสร้างความขัดแย้งและความเจ็บปวดในจิตใจ เพราะตัวตนในจินตนาการ ที่ยังคงความสวยและความโด่งดังนั้นไม่เคยสอดคล้องกับความจริงที่เธอแก่ชราและไม่ดังอีกต่อไป

ความเจ็บปวดและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในร่างกายของเอลิซาเบธเป็นตัวแทนของความขัดแย้งภายในจิตใจ แนวคิดของ ซีคมุนท์ ฟร็อยท์ นักจิตวิเคราะห์ชาวออสเตรีย เกี่ยวกับ "การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่เกิดจากจิตใต้สำนึก" (Psychosomatic Symptoms) ช่วยอธิบายว่าความเครียดหรือความวิตกกังวลที่ถูกเก็บกดในจิตใต้สำนึกสามารถแสดงออกในรูปแบบของความเจ็บปวดทางกายภาพ ในภาพยนตร์ ความลอกหลุดของผิวหนังและการผิดรูปร่างของมั้งอลิซาเบธ ซู และรวมถึงอสูรกายอริซาซู เป็นสัญลักษณ์ของการพยายามปฏิเสธความเป็นจริง แต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นความทุกข์ทรมานอย่างสาหัส

การเปลี่ยนแปลงของร่างกายและความไม่มั่นคงของตัวตน
การที่เอลิซาเบธยอมให้ร่างกายของเธอเปลี่ยนแปลงเพื่อแลกกับการยอมรับทางสังคมสามารถวิเคราะห์ได้ผ่านแนวคิดของ จูเลีย คริสเตวา นักจิตวิเคราะห์ชาวบัลแกเรีย เกี่ยวกับ "Abjection" ซึ่งอธิบายถึงกระบวนการที่มนุษย์รู้สึกขยะแขยงต่อบางสิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของตัวเอง ในกรณีนี้ ร่างกายของเอลิซาเบธกลายเป็นสิ่งที่เธอทั้งต้องการและรังเกียจพร้อมกัน ความเปลี่ยนแปลงที่น่ากลัวในร่างกายของเธอสะท้อนให้เห็นถึงความไม่มั่นคงของตัวตน และความหวาดกลัวต่อการสูญเสียการควบคุม ซึ่งเป็นแก่นสำคัญของ "Body Horror"

สุดท้าย ความเจ็บปวดของเอลิซาเบธยังเป็นสัญลักษณ์ของแรงกดดันที่สังคมสร้างขึ้นเกี่ยวกับมาตรฐานความงาม โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมบันเทิง ซึ่งสะท้อนถึงแนวคิดของ มีแชล ฟูโก นักปรัชญาผู้โด่งดังชาวฝรั่งเศส เกี่ยวกับ "การควบคุมร่างกาย" (Disciplinary Power) สังคมและอุตสาหกรรมที่เอลิซาเบธอยู่ใช้มาตรฐานเหล่านี้เป็นเครื่องมือควบคุมพฤติกรรมและความคิดของบุคคล ทำให้พวกเขารู้สึกว่าร่างกายของตัวเองไม่เคยเพียงพอ การที่เอลิซาเบธต้องเผชิญกับความเจ็บปวดจากการเปลี่ยนแปลงจึงไม่ใช่เพียงแค่ความทรมานส่วนตัว แต่เป็นผลพวงของระบบสังคมที่กดดันให้เธอต้องตอบสนองต่อความคาดหวังที่เป็นไปไม่ได้

#วิกฤตอัตลักษณ์หรือตัวตน (Identity Crisis)

เอลิซาเบธแสดงให้เห็นถึง "วิกฤตตัวตน" (Identity Crisis) กล่าวคือมนุษย์ต้องต่อสู้กับปัญหาการยอมรับตัวเองในช่วงเปลี่ยนแปลงของชีวิต การเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของเอลิซาเบธไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาที่แท้จริงของเธอ แต่กลับเพิ่มความขัดแย้งในจิตใจที่มุ่งหวังจะเป็นตัวเองและตอบสนองต่อความคาดหวังของสังคม

ตัวตนใหม่ของอบิซาเบธคือ ซู ไม่เพียงแต่เป็นภาพแทนของตัวตนที่เธออยากเป็น แต่ยังสะท้อนถึงการทำลายตัวตนดั้งเดิม และแสดงให้เห็นถึง "การพังทลายของเอกลักษณ์ในตัวเอง" (Fragmentation of the Self) ที่เกิดจากความพยายามสร้างภาพลักษณ์ใหม่

จากมุมมองของ ซีคมุนท์ ฟร็อยท์ การยึดติดกับรูปลักษณ์สามารถอธิบายได้ผ่านแนวคิด "Superego" ซึ่งทำหน้าที่เป็น ตาชั่งคุณธรรมหรือเสียงวิจารณ์ภายในจิตใจ เอลิซาเบธต้องต่อสู้กับความรู้สึกผิดที่ไม่สามารถรักษาความงามและชื่อเสียงไว้ได้ตามมาตรฐานของอุตสาหกรรมที่เธอทำงาน

ในมุมของภาพยนตร์นี้ มาตรฐานความงามกลายเป็น "วัตถุแห่งการปรารถนา" (Object of Desire) ที่หลอกลวง ซึ่งไม่สามารถเติมเต็มความสุขภายในจิตใจได้จริง การพยายามรักษามาตรฐานเหล่านี้สะท้อนถึง "ความวิตกกังวลทางจิตใจ" (Neurotic Anxiety) ซึ่งทำให้เอลิซาเบธรู้สึกว่าตัวเองสูญเสียคุณค่า

นอกจากนี้ เอลิซาเบธยังแสดงออกถึงความรู้สึกเคลียดสะสมมานาน นับตั้งแต่ร่างกายและชื่อเสียงของเธอเริ่มโรยรา เธอก็รู้สึกว่า "หมดตัวตน" (Depersonalization) หรือการลดบุคลิกภาพของตัวเองลงไป ซึ่งเป็นภาวะที่ผู้คนรู้สึกว่าตนเองไม่สามารถเชื่อมโยงกับร่างกายหรืออารมณ์ของตัวเองได้ การใช้ "The Substance" เพื่อคืนความเยาว์วัยไม่ได้ช่วยให้เธอรู้สึกเติมเต็ม แต่กลับเพิ่มความสับสนในตัวตน

ความเครียดสะสมที่เกิดขึ้นในเอลิซาเบธยังแสดงให้เห็นถึงอาการของ "ความไม่พอใจในตนเองเรื้อรัง" (Chronic Self-Dissatisfaction) ซึ่งเป็นผลจากการถูกบีบคั้นด้วยมาตรฐานทางสังคม

#อสูรกายอริซาซู ความหมายเชิงสัญลักษณ์

ในภาพยนตร์ The Substance (2024) อสูรกายที่ปรากฏในเรื่องที่เรียกว่า "อสูรกายอริซาซู" ก็คือการรวมร่างกันระหว่างอลิซาเบธ ที่ต้องการให้ตัวเองคืนสู่ความวัยเยาว์และมีรูปลักษณ์ที่สวยงาม กับ ซู คือร่างที่ต้องการคงความวัยเยาว์และรูปลักษณ์ที่สวยงามนั้นเอาไว้ถาวร เมื่อมาผสมกันก็ทำให้เกิดอสุรกายที่มีรูปลักษณ์ที่แปลกประหลาดน่าเกลียดน่ากลัว ผู้กำกับให้ความสำคัญกับอสุรกายตนนี้เป็นอย่างมากและให้เวลา เกือบถึง 30 นาทีในช่วงท้ายเรื่องเลยทีเดียว ดังนั้นเราจึงไม่สามารถมองข้ามอสูรกายตนนี้ไปได้โดยเฉพาะการตีความเชิงสัญลักษณ์นั้นสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับการดูหนังเรื่องนี้ ให้เกิดความเข้าใจในความหมายเชิงปรัชญาที่หนังต้องการจะนำเสนอกับ สามารถตีความในหลายแง่มุม โดยเฉพาะเมื่อมองผ่านบริบทของจิตวิทยา สังคม และปรัชญา ดังนี้

#ความกลัวภายใน (Inner Fear)

อสูรกายอริซาซู เป็นสัญลักษณ์ของความกลัวที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจของตัวละครเอลิซาเบธ โดยเฉพาะความวิตกกังวลเกี่ยวกับการถูกปฏิเสธหรือการล้มเหลวในสังคม แนวคิดนี้สามารถเชื่อมโยงกับทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของ คาร์ล ยุง บิดาแห่งจิตวิเคราะห์ชาวสวิตเซอร์แลนด์ ที่กล่าวถึง “เงา” (The Shadow) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจิตไร้สำนึกที่สะท้อนความปรารถนาและความกลัวที่ถูกกดขี่ในตัวเรา อสูรกายในเรื่องจึงอาจเป็นตัวแทนของสิ่งที่เอลิซาเบธพยายามปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยง เช่น ความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเอง

#การเสื่อมสลาย (Decay and Corruption)

อสูรกายอริซาซู มีลักษณะเน่าเฟะและผิดรูปร่าง ซึ่งสะท้อนถึงการเสื่อมสลายทางกายภาพและจิตใจของตัวละคร แนวคิดนี้สามารถวิเคราะห์ผ่านกรอบปรัชญาของ ฌอร์ฌ บาแตล นักปรัชญาชาวฝรั่งเศส เกี่ยวกับ "ความน่ารังเกียจ" (Abjection) ซึ่งอธิบายว่ามนุษย์มีปฏิกิริยาต่อสิ่งที่สะท้อนความเปราะบางของตัวเอง เช่น การตายหรือการเสื่อมสลาย อสูรกายในเรื่องจึงเป็นเครื่องเตือนใจถึงความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของการเสื่อมถอยทั้งทางกายและใจ เมื่อเอลิซาเบธพยายามฝืนธรรมชาติเพื่อความสมบูรณ์แบบ เธอกลับกลายเป็นตัวแทนของสิ่งที่เธอกลัวที่สุด

#ภาพสะท้อนของสังคมที่บิดเบือน (Distorted Society)

อสูรกายในเรื่องยังสามารถมองว่าเป็นผลพวงของแรงกดดันจากสังคม โดยเฉพาะในวงการบันเทิงที่ยกย่องความงามและความสมบูรณ์แบบจนเกินจริง แนวคิดของ มีแชล ฟูโก นักปรัชญาชาวฝรั่งเศส เกี่ยวกับ “อำนาจในการควบคุม” (Disciplinary Power) อธิบายว่า สังคมมักใช้อุดมคติบางอย่างเพื่อควบคุมพฤติกรรมของบุคคล เช่น มาตรฐานความงามที่ไม่อาจบรรลุได้ อสูรกายอริซาซูอาจสะท้อนให้เห็นถึงความผิดเพี้ยนที่เกิดขึ้นเมื่อมนุษย์พยายามบรรลุเป้าหมายเหล่านั้นจนเกินขอบเขต

#การตื่นรู้ถึงธรรมชาติอันแท้จริง (The Unveiling of the True Self)

อสูรกายอริซาซูอาจเป็นตัวแทนของธรรมชาติที่แท้จริงของตัวละครเอลิซาเบธ ซึ่งถูกปลดปล่อยออกมาผ่านผลกระทบของสาร "The Substance" ในแง่นี้ แนวคิดของ ฟรีดริช นีทเชอ นักปรัชญาชาวเยอรมนี เกี่ยวกับ “การเอาชนะตัวเอง” (Übermensch) ชี้ให้เห็นว่ามนุษย์จะต้องเผชิญหน้ากับความอ่อนแอและข้อบกพร่องของตัวเองเพื่อสร้างตัวตนใหม่ ในบริบทนี้ อสูรกายไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของความเสื่อมถอย แต่เป็นสิ่งที่ท้าทายให้เอลิซาเบธยอมรับความจริงเกี่ยวกับตัวเธอเองและปลดปล่อยตัวตนที่ถูกกดขี่

อสูรกายใน The Substance สามารถมองได้ทั้งในเชิงจิตวิทยา ปรัชญา และสังคมศาสตร์ เป็นภาพสะท้อนของความกลัว ความคาดหวัง และความขัดแย้งที่มนุษย์ต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบที่ลึกซึ้งของการยึดติดกับความสมบูรณ์แบบและความพยายามหลีกหนีความเป็นมนุษย์ที่แท้จริง

#บทสรุป
The Substance: สวยสลับร่าง (2024) แม้จะขึ้นว่าเป็นภาพยนตร์แนวระทึกขวัญสยองขวัญ ที่มีภาพเละเลือดสาดสะใจสายโหด แต่ก็ยังนำเสนอภาพสะท้อนของการยึดติดกับชื่อเสียงและรูปลักษณ์ผ่านมุมมองที่ซับซ้อนทางจิตวิทยาได้อย่างดีเยี่ยม การแปลงโฉมของเอลิซาเบธเป็นสัญลักษณ์ของการพยายามหนีจากความไม่สมบูรณ์ของตัวเอง แต่กลับก่อให้เกิดความทุกข์ภายใน ที่รู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งเหล่านั้นมันไม่จริง

ดังนั้นบทวิจารณ์ในเชิงวิชาการนี้ ชี้ให้เห็นถึงการใช้สัญลักษณ์ของร่างกายและตัวตนเพื่อวิพากษ์วิจารณ์มาตรฐานความงามและแรงกดดันทางสังคม ตั้งคำถามการพยายามทำศัลยกรรมของผู้หญิง ถึงแม้ว่าจะชะลอได้ ให้รูปลักษณ์และหน้าตาอยู่ในสายตาของผู้คนที่ดูว่าสวยงามได้ แต่ท้ายที่สุดแล้วไม่สามารถต่อสู่กับการเปลี่ยนแปลง และสัจธรรมที่แท้จริงได้ ทุกสิ่งเกิดมาตั้งอยู่แล้วก็ดับไปตามกฎแห่งธรรมชาติทั้งสิ้น นอกจากนี้หนังยังสามารถอธิบายความขัดแย้งและผลกระทบที่ซับซ้อนของการพยายามปรับตัวตามอุดมคติของสังคมที่ชอบสิ่งสวย ๆ งาม ๆ ให้อยู่ในระดับของความเจริญหูเจริญตา แต่ก็นั่นแหละไม่มีสิ่งใดที่จะคงทนให้อยู่แบบนั้นได้ตลอดไป

ในท้ายที่สุด The Substance เป็นมากกว่าภาพยนตร์ระทึกขวัญสยองขวัญ แต่เป็นบทวิพากษ์ทางจิตวิทยา ค่านิยมและวัฒนธรรมที่มองเห็นแต่ความงามภายนอก ตามคตินิยมในสังคมสมัยใหม่

ก่อนจะจากกันไปขอแอบบอกว่าเรือนร่างของ ซู คือสวยสะพรั่งงดงามเลยนะ  เด็ดจัดปลัดไม่ต้องบอกเลย ต่อให้ใช้สแตนอินก็เถอะ ดูเถอะเรื่องนี้โคตรคุ้มในทุกมิติ

ส่วนตัวแล้วอยากจะให้ 10 คะแนนเต็มด้วยซ้ำ แต่ขอตัดออก 1 คะแนนในเรื่องของ พฤติกรรมและความคิดของอลิซาเบธที่โง่เง่า ทำให้ตัวเองแก่ดักดานแล้วก็ต่างกันที่สุด แต่ต้องขอบอกก่อนว่ามันดีนะมันดีมากๆ แล้วจุดนี้มันส่งผลกับหนังมาก ๆ ด้วย และมาส่งผลต่ออารมณ์ของหนังในตอนสุดท้ายจริงๆ แต่ส่วนดูแล้วยิ่งเห็นรำคาญใจนิดหน่อยเท่านั้นเอง

ดูได้ทาง netflix ไม่มีพากย์ไทยนะจ๊ะ

9/10
@วาทิน ศานติ์ สันติ
#SuperReviewChannel

#TheSubstance
#สวยสลับร่าง
#ปรัชญาและสัญลักษณ์ในภาพยนตร์

ข้อมูลประกอบการเขียน

The Verge.com. (2024). The Substance is a grotesque takedown of our obsession with youth.
https://www.theverge.com/2024/9/10/24240464/the-substance-review?utm_source=chatgpt.com.

Entertainment Weekly. (2024). The Substance is a piercing indictment of society's attitude toward women's aging told via body horror.https://ew.com/the-substance-review-demi-moore-margaret-qualley-lead-visceral-body-horror-8708091?utm_source=chatgpt.com

https://filmcolossus.com/the-substance-explained-2024

https://medium.com/@cyalcala7/the-substance-2024-a-multifaceted-analysis-of-beauty-identity-and-morality-in-cinema-db310aeaceea

https://en.solangeschneider.com/post/the-substance-symbolic-analysis-of-the-film

https://qcnerve.com/the-substance-review/

https://www.filmsfatale.com/blog/2024/9/20/the-substance

https://www.moviejawn.com/home/2024/9/20/the-substance

https://www.derekexmachina.com/blog/2024/9/24/the-substance-review-modern-body-horror-classic-explores-self-loathing

https://ew.com/the-substance-review-demi-moore-margaret-qualley-lead-visceral-body-horror-8708091

https://www.instyle.com/the-substance-movie-cosmetic-procedures-aging-8719780

https://www.them.us/story/the-substance-demi-moore-horror-movie-review

หมายเลขบันทึก: 720617เขียนเมื่อ 28 มกราคม 2025 08:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 มกราคม 2025 08:07 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่าน


ความเห็น

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท
ภาษาปิยะธอน (Piyathon)
เขียนโค้ดไพทอนได้ด้วยภาษาไทย