ภัยพิบัติต่างๆ ทั่วโลกมักทิ้งร่องรอยของความเสียหายอันใหญ่หลวงไว้
ติดตามภัยพิบัติที่เกิดขึ้นที่เชียงราย ชวนให้นึกถึงเรื่องสึนามิ และหลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติ ตอนเผชิญเหตุการณ์ว่าหนักหนาสาหัสแล้ว หลังเกิดก็หนักหนาเรื้อรังเป็นบาดแผลในใจของทุกคน
ใคร่ครวญและทบทวนสะท้อนคิดในตนเองไว้ว่า:
การฟื้นฟูหลังภัยพิบัติ (Disaster Recovery) คือกระบวนการที่มีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูสภาพความเป็นอยู่ของชุมชนและโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติให้กลับมาใกล้เคียงกับสภาพปกติหรือดีกว่าเดิม การฟื้นฟูมักครอบคลุมหลายด้าน เช่นสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ โดยมักมีการทำงานร่วมกันระหว่างรัฐบาลองค์กรเอกชน และชุมชนในพื้นที่
ขั้นตอนของการฟื้นฟูหลังภัยพิบัติประกอบด้วย:
1. **การประเมินความเสียหาย**: ทำการสำรวจและประเมินความเสียหายของโครงสร้างพื้นฐาน ที่อยู่อาศัย สถานที่ราชการ หรือสภาพแวดล้อม รวมถึงผลกระทบต่อชีวิตของประชาชน
2. **การช่วยเหลือฉุกเฉิน**: เป็นการให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เช่น การแจกจ่ายอาหาร น้ำ ยา ที่พักชั่วคราว และการรักษาพยาบาล
3. **การฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน**: ซ่อมแซมหรือสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ เช่นถนน สะพาน ไฟฟ้า และระบบประปา เพื่อให้ชุมชนกลับมามีสภาพที่เอื้อต่อการดำรงชีวิต
4. **การฟื้นฟูเศรษฐกิจ**: ให้การสนับสนุนทางการเงินหรือโครงการจ้างงานเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการสูญเสียงาน หรือทรัพย์สิน
5. **การฟื้นฟูสังคมและจิตใจ**: การให้คำปรึกษาและช่วยเหลือด้านจิตใจสำหรับผู้ที่สูญเสียสมาชิกในครอบครัว บ้าน หรือได้รับผลกระทบทางจิตใจ
6. **การวางแผนเพื่ออนาคต**: การเตรียมความพร้อมสำหรับการป้องกันและการรับมือภัยพิบัติในอนาคต เพื่อให้ชุมชนสามารถปรับตัวและฟื้นตัวได้รวดเร็วกว่าเดิม
การฟื้นฟูเป็นกระบวนการระยะยาวที่ต้องอาศัยการประสานงานอย่างต่อเนื่องและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคม