คุณค่าในตัวเอง
การเดินทางของชีวิตหลังเกษียณ กำลังจะครบ ๑ ปี มีแต่สิ่งดีๆเข้ามาอยู่เสมอ จนบางครั้งแทบไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ ในช่วงวัยที่พ้น ๖๐ ปีมาแล้ว
สิ่งใดที่ลงมือทำแล้วยังทำไม่สำเร็จ ก็มาเสร็จสิ้นลงได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ทั้งเรื่องงานพัฒนาโคกหนองนา ให้เป็นผืนดินถิ่นอาศัยที่มั่นคงสำหรับลูกหลาน
งานรวบรวมและเรียบเรียงต้นฉบับงานเขียน ที่เขียนไว้ในช่วงของการเป็นผู้บริหาร ตีพิมพ์เป็นรูปเล่มได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ สร้างสรรค์ไว้เป็นตำนาน ให้รู้สึกรักและภูมิใจ ยอมรับและรู้จักตนเองได้มากพอ
ความรู้สึกเงียบเหงาซึมเซาเศร้าสร้อย ไม่เคยบังเกิดขึ้นเลย ถึงแม้จะไม่ได้ท่องเที่ยวไกลๆอย่างที่เคยใฝ่ฝัน แต่กลับมีแรงบันดาลใจมากมาย เกิดขึ้นภายในรั้วบ้านเล็กในป่าใหญ่ ณ ทุ่งดินดำรีสอร์ท
เมื่อพี่สาวของภรรยา ในวัย ๗๐ ปี กลับจากต่างประเทศและมาพักอาศัยอยู่ด้วย จึงกลายเป็นบ้านผู้สูงอายุขึ้นมาทันที ตอนแรกก็นึกว่าจะมาพักแค่ตากอากาศ แต่ตอนนี้ทำท่าว่าจะถาวรเสียแล้ว
วันแรกที่เข้ามาอยู่ หรือเมื่อเกือบ ๓ เดือนที่ผ่านมา พี่สาวขอรีโนเวทบ้านและต่อเติมบ้านให้ผม พร้อมสั่งซื้อเครื่องใช้ไฟฟาใหม่ ผมรีบห้ามไว้ โดยใช้เหตุผลของความพอเพียง ประหยัดและอดออม
พี่สาวไม่ยอมฟังผมเลย ยืนกรานที่จะทำเพื่อคุณภาพชีวิตของผมและน้องสาว ตลอดจนตอบแทนที่ผมช่วยเหลือฟากฝั่งญาติพี่น้องของภรรยามาโดยตลอดหลายปี
ผมเพิ่งเรียนรู้และเข้าใจ ความดื้อรั้นของคนสูงวัยเป็นเช่นนี้เอง แต่ผมก็ไม่ทำลายหรือล้อเล่นกับความรู้สึกของพี่สาว เพียงแต่ย้ำเตือนเบาๆว่า เงินนั้นหายาก เก็บไว้เพื่อดูแลตัวเองยามที่แก่ชราบ้างเถิด
ผมเริ่มสูญเสียความเป็นผู้นำในบ้านเล็กน้อย ในขณะที่บ้านเปลี่ยนโฉมใหม่ มีห้องกระจกติดแอร์ไว้อ่านและเขียนหนังสือ ประตูหน้าต่างเป็นบานเลื่อนทั้งหมด และรั้วรอบขอบชิดที่ผุดขึ้นมารอบบ้าน ในพื้นที่ ๓ ไร่ ทางขึ้นลงบันไดบ้าน ที่ตากฝนมาตลอด ๒๑ ปี มีหลังคาทอดยาวคลุมอย่างมิดชิด
ไม่เคยคิดฝันมาก่อน ว่าบ้านจะขยับขยายได้ไกลถึงเพียงนี้ หรือนี่คือบุญกุศลแต่เก่าก่อนที่ผมเคยสร้างไว้ ทำให้บ้านกลางสวนลำไย ได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่ โดยไม่กระทบกระเทือนเงินบำนาญรายเดือนของผมเลย
หรือว่าพี่สาวพอใจที่ผมแบ่งปันสวนลำไยหลังบ้านจำนวน ๑ ไร่ ในราคาพี่น้อง เมื่อ ๒ ปีที่ผ่านมา และเมื่อได้ที่ดินสมใจ คงจะวาดฝันไว้พอสมควรว่า จะทำอะไรในที่ดินผืนนี้
พี่สาวตัดต้นลำไยและมะขามที่มีอายุกว่า ๓๐ ปี รวมแล้วมากกว่า ๒๐ ต้น ด้วยเหตุผลส่วนตัวที่ผมมิอาจคัดค้าน โดยจะถมที่ดินปลูกบ้าน ปลูกไม้ดอกไม้ประดับและผักสวนครัว เอาไว้เดินพักผ่อนและนอนดูดาวพราวพร่างบนท้องฟ้า รายล้อมด้วยสวนป่าที่หนาแน่นของผมและเพื่อนบ้าน
บัดนี้ ทุกอย่างใกล้จะแล้วเสร็จ ยังคงเหลือบ้านน๊อคดาวน์หลังใหญ่เพียงอย่างเดียว เท่าที่เห็นและเป็นอยู่ตอนนี้มองคล้ายกับโคกหนองนา มีแต่โคกไม่มีหนองและนา แต่น้ำท่าก็อุดมสมบูรณ์
ผมคิดว่าการทำบางสิ่ง มีความคิดอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีเงินด้วย พี่สาวคนนี้มีพร้อมและผมต้องยอมรับในแนวคิดที่นางจะสร้างสิ่งแวดล้อมให้ชีวิตในบั้นปลาย แสดงออกถึงคุณค่าในตนเอง ในแบบที่พึ่งพาตนเองได้และมั่นใจในตนเองสูง ตลอดจนทำอะไรได้ตามที่ใฝ่ฝันเอาไว้
ส่วนชีวิตผมที่เหลืออยู่คงทำอย่างนั้นไม่ได้ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาคิดเปรียบเทียบ เพราะทุกคนไม่เหมือนกัน ผมผ่านวันที่ลำบากมามากแล้ว สร้างเนื้อสร้างตัว สร้างครอบครัวด้วยการดูแลลูกและภรรยามาได้ตลอดรอดฝั่ง ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ตัวเองและใครๆ ก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๑๙ กันยายน ๒๕๖๗
ไม่มีความเห็น