หน้าแรก
สมาชิก
opgkm
สมุด
เวทีเรียนรู้ของที...
โครงการอนามัยดี ช...
opgkm
กิติมาภรณ์ จิตราทร
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
โครงการอนามัยดี ชีวีสดใส
เป้าหมาย:ต้องการให้ผู้มีหน้าที่ดูแลเยาวชนมีความรู้และมีศักยภาพที่จะเสริมสร้างและช่วยเหลือให้เยาวชนได้เติบโตตามวัยอย่างสมบูรณ์เป็นองค์รวม ร่างกาย จิตใจ จิตวิญญาณ และสังคม ส่งเสริมให้เยาวชนมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีทักษะชีวิตที่จะแก้ปัญหาและปรับตัว รวมทั้งกระตุ้นให้ พ่อบ้าน แม่บ้าน นักเรียน กรรมการดำเนินงานมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพในบ้านพัก
โครงการอนามัยดี ชีวีสดใส
1
.คำสำคัญ
:
การป้องกัน งานส่งเสริมสุขภาพ การจัดกระบวนการให้ความรู้
2
.จังหวัด
:
เชียงใหม่
3
.กลุ่มเป้าหมาย
:
เยาวชน (กะเหรี่ยง) ที่อาศัยอยู่ในบ้านพักของคริสตจักรและที่ทำงานอยู่ในเมือง รวมทั้งผู้ปกครองของเยาวชน สำหรับเยาวชน ประกอบด้วย เยาวชนคริสตจักรแสงประทีปจำนวน
20
คน เยาวชนที่ทำงานอยู่ในเมือง
30
คน นักเรียนนักศึกษา (เยาวชนกะเหรี่ยง)
30
คน และบ้านพักนักเรียนกะเหรี่ยงโปว์อีก
40
คน โดยมีค่าเฉลี่ยกลุ่มอายุ
6-14
ปี จำนวน
38
คน อายุ
15-24
ปี จำนวน
70
คน
ส่วนผู้ปกครองอยู่ในกลุ่มอายุ
25-59
ปี จำนวน
12
คน รวมทั้งหมด
120
คน
4
.เป้าหมาย
:
ต้องการให้ผู้มีหน้าที่ดูแลเยาวชนมีความรู้และมีศักยภาพที่จะเสริมสร้างและช่วยเหลือให้เยาวชนได้เติบโตตามวัยอย่างสมบูรณ์เป็นองค์รวม ร่างกาย จิตใจ จิตวิญญาณ และสังคม ส่งเสริมให้เยาวชนมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีทักษะชีวิตที่จะแก้ปัญหาและปรับตัว รวมทั้งกระตุ้นให้ พ่อบ้าน แม่บ้าน นักเรียน กรรมการดำเนินงานมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพในบ้านพัก
5
.สาระสำคัญของโครงการ
:
จ.เชียงใหม่ มีอัตราการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะมีรายได้หลักจากการท่องเที่ยว เมื่อเชียงใหม่ได้ชื่อเป็นจังหวัดสำคัญทางด้านการท่องเที่ยวของภาคเหนือ วัฒนธรรมตะวันตกจึงไหลบ่าเข้ามาอย่างรวดเร็ว ทำให้เยาวชนชาวกะเหรี่ยงทั้งที่ทำงานและศึกษาอยู่ ในจ.เชียงใหม่ และที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิคริสเตียนบริการโดยอาศัยอยู่ในบ้านพักของเครือคริสตจักร มักก่อปัญหาให้ผู้ปกครองต้องหนักใจ ทั้งเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ซึ่งพบว่า มีเยาวชนของคริสตจักรบางคนเลือกที่จะแยกตัวเองออกจากบ้านพักคริสตจักรไปอยู่กินกับเพื่อนหญิง-ชาย รวมทั้งความฟุ้งเฟ้อทางด้านวัตถุ ซึ่งใช้เงินจากโครงการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษามาซื้อโทรศัพท์มือถือ และรถมอเตอร์ไซด์ ส่งผลกระทบต่อการเล่าเรียนเพราะไม่ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน แต่กลับสนใจเที่ยวเตร่และฟุ้งเฟ้อตามการบริโภควัตถุนิยม ตลอดจนความห่วงใยของผู้ปกครองเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของยาเสพติด กลุ่มเยาวชนกะเหรี่ยงยังมีปัญหาพื้นฐานเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ไม่ถูกสุขอนามัย (ไม่รู้จักดูแลเรื่องการรักษาความสะอาดในบ้านพัก) ทั้งซึ่งติดตัวมาจากวิถีชีวิตบนดอยสูง
สภาพปัญหาต่างๆ ถือเป็นภาระหน้าที่ประจำของเจ้าหน้าที่มูลนิธิคริสเตียนบริการ ในการดูแลเยาวชนกะเหรี่ยงเชื่อมโยงกับเงินงบประมาณของคริสตจักร จากเงินบริจาคของชาวคริสตจักร แต่ปัจจุบันมีอยู่จำนวนจำกัด บ้านพักแบบติสต์ ซึ่งสังกัดมูนิธิคริสเตียนบริการ จึงเสนอขอทุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)เพื่อมาสนับสนุนงานประจำที่ทำอยู่
6
.เครื่องมือที่ใช้
:
จัดกิจกรรมหลักๆ คือ
1
.
1
จัดกระบวนการให้ความรู้แก่เยาวชน ผู้ดูแลบ้านพัก ผู้ปกครอง และชุมชนที่เยาวชนอยู่อาศัย เกี่ยวกับการรักษาความสะอาด การจัดการสิ่งแวดล้อมของหอพักให้ถูกสุขลักษณะปลอดภัยจากสารพิษและสิ่งเสพติด รวมทั้งการป้องกันโรคที่สามารถป้องกันได้ ตลอดจนความรู้ในการป้องกันสิ่งเสพติดและภัยสังคมแก่เยาวชน
1
.
2
งานส่งเสริมสุขภาพ เช่น จัดในวันแม่แห่งชาติ การแข่งกีฬาสัมพันธ์ และการประกวดหอหัก อนามัยดีเด่น
แต่ละกิจกรรมเป็นการให้ความรู้แก่กลุ่มเป้าหมายได้ตระหนักและมองเห็นความสำคัญของการป้องกัน และการส่งเสริมสุขภาพทั้งต่อตัวเอง และสิ่งแวดล้อมที่ตัวเองอยู่อาศัย
7
.การจัดระบบ โครงสร้าง กระบวนการทำงาน
:
เจ้าหน้าที่จากบ้านพักแบบติสท์ เป็นผู้ออกแบบกิจกรรม และดำเนินกิจกรรมทั้งหมด
การดำเนินการแต่ละกิจกรรม ผู้รับผิดชอบโครงการฯ จะแบ่งหน้าที่ในการประสานงานกับกลุ่มเป้าหมายให้เข้าร่วมกิจกรรม โดยในส่วนของเยาวชนจะมอบหมายให้แกนนำเยาวชน
2
คน ที่คอยช่วยเหลืองานของหน่วยงานอย่างสม่ำเสมอเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนการประสานงานกับผู้ปกครอง รวมทั้งการเผยแพร่ให้ความรู้แก่ชุมชน มอบหมายให้ครูสอนศาสนาซึ่งมีความใกล้ชิดกับผู้ปกครองและเยาวชนเป็นผู้รับผิดชอบ
8
.ขอบเขตและระยะเวลาดำเนินโครงการ
:
ดำเนินการประมาณ
7
เดือน ตั้งแต่วันที่
15
กรกฎาคม
2547
–
28
กุมภาพันธ์
2548
โดยดำเนินการกับ เยาวชนของคริสตจักร ผู้ปกครอง และผู้ดูแลบ้านพักของคริสตจักร
9
.การประเมินผลและผลกระทบ
:
ผู้รับผิดชอบโครงการฯ นำปัญหาต่างๆ มาวิเคราะห์และหาสาเหตุของปัญหา และแนวทางในการแก้ไขเพื่อพัฒนาปรับปรุงกิจกรรมต่างๆ มีการติดต่อประสานงานกับองค์กรอื่นๆ ทั้งหอพักและนอกหอพักเพื่อทำงานร่วมกันในการเสริมสร้างชุมชน รวมทั้งการจัดทำรายงานสรุปเป็นรายเดือน
อย่างไรก็ดี โครงการฯ นี้ไม่มีการประเมินผลตามหลังเสร็จสิ้นโครงการฯ
10
.ความยั่งยืน
:
หลังเสร็จสิ้นโครงการฯ ๆ นี้ไม่มีการทำงานอย่างต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบโครงการฯ มีภารกิจงานในหน้าที่จำนวนมาก ขณะที่แกนนำเยาวชนที่ต้องทำหน้าที่ประสานกับเยาวชนด้วยกันมีภาระทางด้านการเรียน และเตรียมที่จะจบการศึกษา
11
.จุดแข็งและอุปสรรค
:
ตัวของเยาวชนที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายและผู้ปกครองบางส่วน ซึ่งเป็นเยาวชนและผู้ปกครองส่วนน้อย ที่มองเห็นความสำคัญของแต่ละกิจกรรมและเข้าร่วมกิจกรรม โดยมีครูสอนศาสนา และแกนนำเยาวชนคอยเป็นตัวหลักในการทำหน้าที่สร้างความเข้าใจในแต่ละกิจกรรมที่ทำ
ส่วนที่เป็นอุปสรรค คือ เวลาของเยาวชนกลุ่มเป้าหมายที่จะมาร่วมกิจกรรมไม่ตรงกัน เนื่องจากอยู่ต่างสถาบันการศึกษา และมีกิจกรรมในสถาบันนั้นๆ
ทำให้เป้าหมายแต่ละครั้งของการจัดกิจกรรมมีเยาวชนมาร่วมเพียง
30-40
คน จากที่ตั้งตัวเลขไว้ที่
120
คน ส่วนผู้ปกครองเองก็เข้าร่วมร่วมกิจกรรมน้อย และผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีระดับการศึกษาสูง จึงมองเห็นความสำคัญของโครงการฯ ด้วยการนำบุตรหลานมาร่วมกิจกรรมด้วยตนเองทุกครั้ง
12
.ที่ติดต่อ
:
บ้านพักแบบติสท์ สังกัดมูลนิธิคริสเตียนบริการ
เขียนใน
GotoKnow
โดย
opgkm
ใน
เวทีเรียนรู้ของทีมOpg KM
คำสำคัญ (Tags):
#การป้องกัน
#งานส่งเสริมสุขภาพ
#การจัดกระบวนการให้ความรู้
หมายเลขบันทึก: 71603
เขียนเมื่อ 9 มกราคม 2007 11:42 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 14:43 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
opgkm
สมุด
เวทีเรียนรู้ของที...
โครงการอนามัยดี ช...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท