ผมอ่านข้อความจากข่าว ..”โซเชียลส่งกำลังใจให้หมอกฤตไท หรือ นพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล นายแพทย์หนุ่มที่ป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ซึ่งเมื่อ 3 วันก่อนออกมาโพสต์เฟซบุ๊กว่าคงอยู่บนโลกนี้ได้อีกไม่นาน อาจจะถึงประมาณช่วงกลางเดือนหน้า
วันที่ 8 พ.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก นพ. กฤตไท ธนสมบัติกุล ที่ได้เปิดเพจเฟซบุ๊ก “สู้ดิวะ” เพื่อเล่าประสบการณ์การป่วยเป็น “มะเร็งปอดระยะสุดท้าย”
โพสต์ข้อความสุดเศร้าผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "ผมน่าจะไปช่วงกลางเดือนหน้า จากนั้นไว้เจอกันใหม่นะครับ ณ ตอนนี้ผมพิมพ์ได้เท่านี้ก็เอาละครับ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างตลอดช่วง 30ที่ผ่านมาครับ ขอโทษถ้าผมทำให้ใครไม่พอใจ"
ผมรีบติดตามเพจในเฟสบุ๊คทันที สิ่งที่ได้เรียนรู้จากหนังสือ " สู้ดิวะ " ก็คือ
โลกใบนี้ไม่มีสิ่งใดเป็นความแน่นอน ชีวิตของคนเรานั้นเป็นสิ่งที่เปราะบางมากเหลือเกิน และมันมีเวลาอย่างจำกัด
จงเป็นคนในแบบที่ไม่ว่าใคร ๆ จะผ่านมาพบเจอและรู้จัก ผู้คนเหล่านั้นต้องรู้สึกโชคดีที่ได้เจอเรา
ชีวิตไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ แค่เป็นชีวิตในแบบที่เรารัก และรู้สึกขอบคุณตัวเองได้ก็เพียงพอแล้ว
การใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าและน่าพอใจในทุกช่วงเวลาที่ยังมีโอกาสได้ใช้มัน จะทำให้เราไม่เสียดายชีวิตที่ผ่านมา
เพราะเราไม่รู้ว่าเวลาจะพรากคนที่เรารักจากไปตอนไหน ให้เวลากับคนในครอบครัว คนสำคัญในชีวิตในวันที่ยังมีโอกาสใช้เวลาดีๆ ร่วมกัน
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะยอมรับความจริงที่เราไม่อยากเจอ แต่เมื่อยอมรับได้ว่ามันเกิดขึ้นแล้ว ตั้งหลักใหม่ อยู่กับปัจจุบัน "สติ" จะนำพาให้เห็นทิศทางที่จะไปต่อ
ทัศนคติ มุมมองที่มีต่อชีวิตสำคัญมาก เราเลือกได้ว่าจะมองอุปสรรคที่เข้ามาในชีวิตอย่างไร เป็นสิ่งที่ทำให้เรา "สูญเสีย" บางอย่างไป หรือเป็น "ของขวัญ" ที่ทำให้เราได้มีโอกาสเรียนรู้อะไรบางอย่าง
ในเวลาที่มีอย่างจำกัด ทุกวันมีความหมาย ทุกวันคือโอกาส ทุกช่วงเวลาคือวินาทีที่สำคัญ จงเอ็นจอยกับการมีชีวิต
การลงทุนกับสุขภาพคุ้มค่าที่สุด ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ
เราเปลี่ยนความคิดคนรอบข้างไม่ได้ แต่เราเปลี่ยนตัวคนรอบข้างได้ ไม่จำเป็นต้องทนอยู่กับคนที่ทำให้ชีวิตเราแย่ลง เลือกสังคมที่ดีให้กับชีวิตตัวเอง
อย่าใช้เวลาของชีวิตเพื่อความฝันของคนอื่น
เรามีสิทธิ์อย่างเต็มที่ที่จะปฏิเสธสิ่งที่ไม่ต้องการ จงกล้าที่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิตตัวเอง
การที่รู้ว่าตัวเองเป็นคนธรรมดาที่มีเวลาอย่างจำกัด จะทำให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นมาก จงมีชีวิตธรรมดาที่มีความสุข
แม้เราจะอยากมีทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ในความเป็นจริงเราไม่สามารถมีมันได้ เราต้องเลือกบางสิ่ง ยอมเสียสละบางอย่าง เพราะเวลาชีวิตของเราไม่ได้มากพอให้เราไปทำ หรือมีทุกอย่างบนโลก
เวลาของชีวิตมีน้อยมากเกินว่าจะทำตัวไม่น่ารักใส่คนอื่น ถ้ามีอะไรที่ทำเพื่อคนอื่นได้ จงแบ่งปันความโชคดีให้เขาบ้าง
ไม่ว่าชีวิตจะเลวร้ายแค่ไหน อย่าหมดหวังกับชีวิตเป็นอันขาด
ยิ่งกลัวตาย ยิ่งต้องฝึกฝนจิตใจตัวเองให้เตรียมพร้อมรับมือกับความตาย
ความสงบคือความสุข ชีวิตที่เรียบง่ายคือชีวิตที่คุ้มค่า ชีวิตธรรมดาคือชีวิตที่มีความหมาย
"ความรักที่ดี" สวยงาม และมีพลังยิ่งใหญ่มากพอที่จะเป็นเหตุผลในการพยายามอดทนต่อสู้เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่
สุดท้ายเราทุกคนต้องจากโลกนี้ไป ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ และวันที่เราตาย โลกจะยังคงเหมือนเดิม และมันอาจจะเป็นวันนี้ก็ได้
"วันนี้" เป็นสิ่งเดียวที่เราทุกคนมี จงมี "วันนี้" ที่มีความสุข
ขอบคุณคุณหมอกฤตไท ธนสมบัติกุล สำหรับบทเรียนที่ล้ำค่าที่มอบให้กับผมและผู้อ่านทุกคน
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๙ พศจิกายน ๒๕๖๖
ภาพเรื่องเล่าจากโรงเรียนเล็ก…ของ ผอ.ชยันต์..หลังผ่าตัดสมอง..ครั้งที่ ๒ (๒๕๕๘) ออกจากโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช สุพรรณบุรี รีบพัฒนาโรงเรียนทันที วันนั้นก็บอกตัวเองเหมือนกันว่า “สู้ดิวะ…”
ไม่มีความเห็น