๑,๓๗๗ ความขยัน คือหัวใจสำคัญของการบริหาร


ห้องหรูหราจึงไม่เคยได้สัมผัสกับเขา แต่ก็รู้สึกดี ที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา..ได้ใช้ชีวิตครูคุ้มค่าและเรียบง่ายที่สุด ไม่ฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม มันก็แค่หัวโขน สักวันก็ต้องไปเป็นชาวบ้านธรรมดาสามัญ

ผมหมายถึงการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก ที่ตัวผมเองไม่ได้มีความเก่งกาจแต่ประการใด  ในวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๖ ผมจะทำงานที่นี่ครบ ๑๗ ปี ที่ไม่เคยมีดีกรีด้านบริหาร แต่สามารถนำพาโรงเรียนเล็กๆสู่จุดสูงสุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จากภาพนี้ในอดีต ๓๐ กว่าปี..แล้ววันนี้มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงบ้าง ผมเริ่มบันทึก แล้วเก็บไว้ในความทรงจำ ว่าได้ลงมือทำด้วยน้ำมือของผม

ด้วยการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งคณะครู ผู้ปกครอง กรรมการสถานศึกษา ผู้นำชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ที่มากล้นด้วยน้ำใจ ผมใช้มนุษยสัมพันธ์และความขยันขันแข็งในการทำงานเข้าแลก  ด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย ด้วยความมุ่งมั่นอดทน ยอมขมแล้วขมอีก ทั้งคุณภาพและปริมาณในทุกๆด้านของโรงเรียนขนาดเล็ก ไม่มีสิ่งใดที่ได้มาโดยง่ายเลย แต่ผมก็รอได้ รอจนได้เห็นภาพนี้

บอกกล่าวและย้ำเตือนครูอยู่เสมอ ว่าจงตั้งอยู่ในความไม่ประมาทเถิด ขยันทำการสอนเข้าไว้ เหมือนที่ผอ.กำลังทำให้ดู รู้หน้าที่และมีความรับผิดชอบ ทำงานให้เต็มที่เต็มกำลัง โรงเรียนเล็กๆก็สามารถจะใหญ่ขึ้นได้ นั่นหมายถึงเด็กจะค่อยๆเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันจำนวนครูก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน หากครูไร้ซึ่งพลังสร้างสรรค์และไม่มีอุดมการณ์ โรงเรียนขนาดเล็กจะปรากฎภาพความเสื่อมทรุดและล่มสลายไปตามกาลเวลา

ผมไม่เคยให้ของขวัญเจ้านาย ไม่เคยไปต้อนรับ หรือเลี้ยงรับเลี้ยงส่งเจ้านายเลยแม้แต่ครั้งเดียว ตลอด ๑๗ ปีมีแต่เซ่นไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และเจ้าที่เจ้าทาง อันเป็นที่พึ่งพาทางใจ ช่วยปกปักรักษาและคุ้มครองผมและบุคลากรทุกคน หากใครคิดดีทำดีก็ขอให้ได้ดีมีความเจริญก้าวหน้าสืบไป ผมกำลังจะได้รับสิ่งนั้นแล้ว จริงๆก็มีความสุขสงบเรื่อยมา นับตั้งแต่ยกศาลใหม่ได้ ๑๕ ปี จากเดิมเป็นศาลไม้เก่าๆ  ผมได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้มั่นคงและสวยงามมากขึ้น

วันนี้..ผู้บริหารโรงเรียนที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว เข้ามาเชิญชวนให้ทำประกันชีวิตนักเรียน กล่าวชื่นชมว่า พัฒนาโรงเรียนได้เจริญก้าวหน้าผิดหูผิดตา นับว่าเป็นผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่ง ผมฟังแล้วรู้สึกเฉยๆ เพราะคิดว่าใครๆเขาก็ทำกัน เพียงแต่ผม(อาจจะ) ทำมากกว่าเขา เพราะผมขยันและมีเวลาให้โรงเรียน เป็นธรรมดาของคนไม่เก่ง ก็ต้องขยันเป็นพิเศษนั่นเอง จึงทำงานแบบไม่มีวันหยุด มีความสุขในทุกสิ่งที่ทำ เพื่อทิ้งไว้เป็นที่ระลึก

เขาคงเห็นอาคารที่แปลกใหม่ สะอาด สดใส เพราะแต่ก่อนนานมาแล้ว อาคารเรียนมีน้อยและทรุดโทรมมาก มีแต่คนดูถูกดูแคลน และมักจะกล่าวว่าจะอยู่บริหารไปทำไมให้ลำบากกายลำบากใจ เดี๋ยวโรงเรียนก็ยุบแล้ว ลองมาดูวันนี้ ที่มีแต่ความเปลี่ยนแปลง อันเกิดจากการทำงานแบบไม่ได้อยู่ไปวันๆ ค่อยๆคิดค่อยๆทำ อย่างมีแผนงาน และหมั่นสร้างแรงบันดาลใจไม่ทอดทิ้งงาน สะกดคำว่าท้อถอยไม่เคยได้สักครั้ง

งบประมาณซ่อมแซมอาคารก็ได้ยากเหลือเกินพอได้มาแล้วก็ใช้อาคารเรียนอย่างคุ้มค่า สมประโยชน์ มี ๓ ห้องเรียนและ ๑ ห้องพักครู หรือห้องผอ.นั่นเอง ห้องผอ.มีสีสันแย่กว่าห้องเรียนเสียอีก ไม่มีโต๊ะรับแขก มีแค่โต๊ะคอมฯเอาไว้ให้ผอ.ทำงานธุรการ มีทีวีเอาไว้ให้เด็กเรียนหนังสือเวลาที่ผอ.สอน ไม่มีแอร์เพราะผอ.ประหยัดค่าไฟฟ้า จึงน่าจะเป็นห้องผอ.ระดับ ๘ (ชำนาญการพิเศษ)ที่เชยที่สุดในประเทศไทยก็ว่าได้

อาคารเรียนและห้องเรียน ย่อมมีความสำคัญกว่าห้องผอ.อย่างแน่นอน ในแต่ละวัน ผอ.ก็แทบจะไม่ได้บริหารอะไรอยู่แล้ว เข้าห้องโน้นออกห้องนี้ ไม่สอน ป.๓ ก็ป.๔ แทบไม่มีเวลาได้หายใจ ห้องหรูหราจึงไม่เคยได้สัมผัสกับเขา แต่ก็รู้สึกดี ที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา..ได้ใช้ชีวิตครูคุ้มค่าและเรียบง่ายที่สุด ไม่ฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม มันก็แค่หัวโขน สักวันก็ต้องไปเป็นชาวบ้านธรรมดาสามัญ

แต่ก่อนจะจากไป…ยังได้มีส่วนร่วมสร้างอาคารเรียนหลังเล็กๆ จากเงินบริจาคของธนาคารออมสิน ที่เขาเล็งเห็นความสำคัญของการศึกษา เหมือนเป็นรางวัลดีเด่นจริงๆของผู้บริหารตัวเล็กๆ ที่ได้รับโอกาสนี้ นี่คือปรากฎการณ์แห่งความเป็นจริง ว่าฟ้ามีตา..ความสัตย์ซื่อถือเอาความขยันและตั้งใจจริงเป็นที่ตั้ง จึงได้อาคารเรียนสมดั่งใจ ซึ่งแต่ก่อนแต่ไร ไม่เคยได้รับการดูแลจากเขตพื้นที่เลย แม้แต่น้อย…

ก่อนจะไปใช้ชีวิตอยู่ในโคกหนองนา สร้างสวนป่าในฝันให้เกิดขึ้น ในเส้นทางใหม่แต่หัวใจเดิม แต่เพิ่มเติมความขยันหมั่นเพียร เข้าไป คิดดูเถิด..หากไม่ขยันและไม่แบ่งเวลา ที่นาผืนน้อย จะซื้อมาเป็นกรรมสิทธิได้อย่างไร?้ แต่ด้วยวาดภาพชีวิตไว้แล้ว ว่าต้องลงเอย ณ จุดใด ที่จะได้รับความสุขสงบ ในแบบที่ไม่ต้องเป็นภาระของใคร ไม่ต้องทำให้ใครต้องเดือดร้อน ก็ต้องเป็นแบบนี้เลย..ธรรมชาติล้วนๆ อบอวลด้วยต้นไม้และผักปลอดสารพิษ

 

ตอนแรกก็อยากได้บ้าน..แต่เงินไม่พอ ขอสร้างห้องเก็บของ เก็บเครื่องมือการเกษตรและเก็บทุกอย่างที่เป็นของเก่าที่ยังมีคุณค่า สร้างเสียใหญ่โต เพื่อจะได้อเนกประสงค์ อย่างน้อยก็ยังได้พักผ่อนหย่อนใจ นั่งให้สบายคลายร้อน ผ่านไปเกือบ ๒ ปี ไม่มีความสุข มีแต่ความทุกข์เกิดขึ้นเรื่อยๆ วิธีดับทุกข์ไม่ยากเลย คิดเสียว่า ได้สร้างความสุขให้ผู้อื่นมามากมาย ทำไมจะสร้างให้ตัวเองบ้างไม่ได้..จากนั้น…ก็เลยลงมือสร้างห้องน้ำจนสำเร็จ..กำจัดความทุกข์ให้หมดสิ้นไป

จากภาพวันนั้น…จนถึงวันนี้…เริ่มต้นจากโรงเรียนไปจนถึงโคกหนองนา บ่งบอกว่า..ชีวิตของคนหนึ่งคน เดินทางมาไกลเหลือเกิน มากกว่าที่เคยคิดไว้เสียอีก จึงรู้สึกภูมิใจที่ได้เห็นภาพต่างๆนานาเหล่านี้ ที่ชัดเจนมากขึ้นเป็นลำดับ ขอบคุณหัวจิตหัวใจที่ใฝ่ดี มีความขยันหมั่นเพียร คงต้องนำไปสอนลูกหลานว่าไม่ต้องฉลาดหลักแหลมก็ได้ ไม่ต้องทะเยอทะยานแบบผิดๆ แต่ให้คิดสร้างสรรค์เพื่อองค์กร แล้วผลจะสะท้อนกลับมาอย่างแน่นอน

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๒๗  มิถุนายน  ๒๕๖๖

หมายเลขบันทึก: 713311เขียนเมื่อ 27 มิถุนายน 2023 21:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 มิถุนายน 2023 22:03 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท