ค่าตอบแทนแก่สหกรณ์สมาชิก ของ สหกรณ์ที่ไม่ใช่สหกรณ์ปฐมภูมิ ที่ควรเป็นหากเป็นองค์การแสวงหากำไรอย่างในปัจจุบัน

ค่าตอบแทนแก่สหกรณ์สมาชิก ของ สหกรณ์ที่ไม่ใช่สหกรณ์ปฐมภูมิ  ที่ควรเป็น
 
ต้องยอมรับว่า สหกรณ์ไทย ในทุกระดับชั้น ทั้ง สหกรณ์ขั้นปฐม (primary cooperative)  สหกรณ์ในขั้นอื่น ๆ เช่นชุมนมสหกรณ์ระดับจังหวัด ชุมนุมสหกรณ์ระดับประเทศ ยกเว้น สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ล้วนเป็นองค์การแสวงหากำไรทั้งสิ้น ดูได้จากงบแสดงฐานะทางการเงินที่มีการจัดสรรกำไร ทุกสหกรณ์ และชุมนุมสหกรณ์

มีเพียงสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ที่ใช้งบแสดงฐานะทางการเงิน แบบเดียวกับสมาคม
มี รายได้ มากกว่า  ค่าใช้จ่าย เรียกว่า ส่วนเกิน (surplus)
มี รายได้ น้อยกว่า  ค่าใช้จ่า เรียกว่า ส่วนขาด (deficit)

สหกรณ์ในประเทศไทย เป็นองค์การแสวงหากำไร มาตั้งแต่ปี 2471 ปีที่มีพระราชบัญญัติสหกรณ์ฉบับแรก
เพราะก่อนหน้านั้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2459 - 2470 ใช้กฏหมายเกี่ยวกับสมาคม บัญชีเป็นแบบสมาคม สหกรณ์ในสมัยแรกเริ่ม ไม่มีกำไรขาดทุน ไม่มีการจัดสรรกำไร ไม่มี่โบนัสให้กรรมการ (สิ่งนี้ถูกต้องตามหลักวิชาการสหกรณ์)

เมื่อมีโบนัสสูง การแย่งชิงเข้ามาเป็นกรรมการยิ่งสูงมาก 
กลายเป็นแข่งขันกันเข้ามาเป็นกรรมการ ซึ่งจะใช้วิธีขาว หรือวิธีดำ หรือวิธีด่าง ๆ คือ ดำ ๆ ขาว ๆ ก็สุดแท้แต่
ขอให้ได้เข้ามาเป็นกรรมการเพื่อผลตอบแทน แต่ก็ยังดีมีผู้ที่เสียสละเข้ามาทำงานเพื่อพัฒนาองค์กรในจำนวนที่มากกว่า ขบวนการสหกรณ์ไทยในสหกรณ์ที่ไม่ใช่สหกรณ์ปฐมภูมิ จึงยังอยู่ได้ในทิศทางที่พัฒนา

แนวทางการแก้ไขปัญหาการเข้ามาเป็นกรรมการในชุมนุมสหกรณ์ ต่าง ๆ ในประเทศไทย คือ

ให้จ่ายโบนัสแก่สหกรณ์สมาชิกโดยตรง ไม่จ่ายให้แก่ผู้แทนสมาชิก
หากชุมนุมสหกรณ์ในประเทศไทย ยังเป็นองค์การแสวงหากำไรเช่นนี้

ผู้แทนสหกรณ์จ่ายค่าตอบแทน กรรมการ เช่น ค่าเบี้ยประชุม ค่าพาหนะ 
ค่าใช้จ่ายไปศึกษาดูงานต่างประเทศ ฯลฯ

ถือเป็นการจ่ายโบนัสคืน ในภาพรวมให้สมาชิกของสหกรณ์สมาชิก ทุกคน
เงินปันผลให้จ่ายคืนให้สหกรณ์สหกรณ์สมาชิก

เพื่อลดการแข่งขันแย่งชิงในการเข้าเป็นกรรมการชุมนุม
และพัฒนาไปสู่การเลือกตั้งที่ถูกต้องในสหกรณ์ที่ไม่ใช้สหกรณ์ขั้นปฐม โดยใช้จำนวนสมาชิกของสหกรณ์สมาชิกเป็นเสียงในการเลือกตั้งกรรมการของแต่ละสหกรณ์ ตามหลักการสหกรณ์ที่ 2 ในที่สุด เพื่อความชอบธรรม

และจัดการแก้ไขพระราชบัญญัติสหกรณ์ให้สหกรณ์ เป็นองค์การไม่แสวงหากำไร
ในที่สุดให้เหมือนอย่างเมื่อ สหกรณ์ได้เข้ามาในปี 2459 - 2470 คือใช้บัญชีแบบสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยใช้อยู่ในปัจจุบัน

และขอสถานศึกษาเรื่องการสหกรณ์ ได้โปรดสอนเด็กให้ถูกต้องตามหลักวิชาการสหกรณ์ด้วย
สอนให้นิสิต นักศึกษา นักเรียน เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมในวิธีการสหกรณ์ด้วย

พีระพงศ์ วาระเสน บ๊อบบี้
นักการสหกรณ์ไทย หัวใจพอเพียง ❤️
20 มิถุนายน 2566