เป็นโรงมหรสพส่วนตัว และเป็น virtual spiritual theatre คือไม่มีร่าง แต่มีกิจกรรม และมีวิญญาณ
นั่นคือการเรียนรู้จากการปฏิบัติ สู่การพัฒนา VASK ของตนเอง ที่ก่อความสำราญไปในตัว หรืออย่างไม่รู้ตัว โดยที่หากมองอย่างผิวเผิน เป็นความทุกข์ทรมาน เช่นกรณีต้องทำหน้าที่ให้แก่ภรรยาที่เป็นโรคสมองเสื่อม ที่ผมเล่าไว้ทุกเดือนที่บันทึกชุด อยู่กับผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม ที่แทนที่จะก่อความทุกข์แก่ผม กลับช่วยให้ผมได้เติบโตทางจิตวิญาณ
โรคาพยาธิของภรรยา กลายเป็นเสมือนโรงมหรสพทางวิญญาณให้แก่ผม
การได้รับเชิญไปทำงานรับใช้สังคมในรูปแบบต่างๆ ให้โอกาสเรียนรู้ครบด้าน VASK แก่ผม โดยที่ในบางกิจกรรม มีข้อเรียนรู้เชิงข้อจำกัด หรือเชิงตัณหา ของมนุษย์บางคน ที่ก่อความเสียหายแก่บ้านเมืองส่วนรวมอย่างมากมาย ก็เป็นเสมือนข้อมูลสำหรับให้ผมเอามาทบทวนใคร่ครวญไตร่ตรอง เพื่อการเรียนรู้เชิงเตือนสติตนเอง ว่าต้องระมัดระวังไม่หลงประพฤติตนเช่นนั้น
เป็นโรงมหรสพที่ไม่ให้ความสนุกสนาน แต่เป็นเรื่องราวที่ก่ออารมณ์เศร้า เป็นอีกมุมหนึ่งของมหรสพจากชีวิตจริง
เมื่อได้เรียนรู้และยกระดับค่านิยมให้แก่ตนเองเช่นนี้ ก็นำสู่โอกาสฝึกความถ่อมตน (humiliation) ไม่หลงตน ไม่โอ้อวด ไม่ยกตนข่มท่าน เป็นมหรสพภายในจิตวิญญาณของตนเอง ได้สังเกตจิตใจของตนเอง และคอยกำกับให้ไม่เหลิง หรือหลงตน
วิจารณ์ พานิช
๖ เม.ย. ๖๖
ขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่ทำให้ตระหนักรู้ในสิ่งที่สมควรตลอดมาครับ….วิโรจน์ ครับ
หนูชอบอ่านข้อความที่อาจารย์เขียนมากค่ะ คือมีทั้งให้ข้อมูลเชิงวิชาการและแนวคิดมุมมองชีวิต ในบ้านหนูเองมีแต่ผู้สูงวัยที่เป็นโสดก็ต้องอยู่ช่วยเหลือดูแลกันเอง หนูยังทำงานอยู่แต่อีกไม่กี่ปีก็คงเกษียณ ค่านิยมที่ต่างเจนกันในบ้านและนอกบ้านเหมือนดูมหรสพทางวิญญาณจริงๆค่ะ หนูขอบพระคุณในการแลกเปลี่ยนที่มีคุณค่าและคุณภาพของอาจารย์มาอย่างต่อเนื่องนะคะ ขอพระคุ้มครองให้อาจารย์และครอบครัวมีสุขภาพกายและใจที่ดีค่ะ