เซนได…จุดหมายปลายฝัน วันที่รอคอย (9) วัดโกไดโดะ สถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮขุ
วัดโกไดโดะ ( Godaido Temple) เป็นพระอุโบสถขนาดเล็กบนเกาะติดกับท่าเรือมัตสึชิมะ ตั้งอยู่ในทำเลที่งดงามสามารถมองเห็นอ่าวมัตสึชิมะได้ ทำให้วัดแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองมัตสึชิมะ เชื่อกันว่าวัดโกไดโดะมีจุดเริ่มต้นมาจากการที่ ซากาโนะอุเอะ ทามุระมาโระ ได้สร้างวิหารบิซามอนโดขึ้นระหว่างการพิชิตตะวันออกในปีไดโด ที่ 2 (ค.ศ.807) หลังจากนั้นในปีเท็นโซ ที่ 5 (ค.ศ. 828) ภิกษุเอ็นนิน หรือ พระอาจารย์จิคาคุไดชิ พระของนิกายเท็นได ได้ก่อตั้งวัดเอ็มปาคุจิ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นวัดตั้งต้นก่อนกลายเป็นวัดซูอิกันจิในภายหลัง
วัดโกไดโดะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปของห้าวิทยราช โดยมี อจลวิทยราช เป็นศูนย์กลาง มี ไตรโลกยวิชยะแห่งทิศตะวันออก ยมานตกะแห่งทิศตะวันตก กุณฑลิแห่งทิศใต้ และวัชรยักษ์แห่งทิศเหนือ จึงถูกเรียกว่า " วิหารแห่งวิทยราชทั้งห้า หรือ โกไดโดะ ตามภาษาญี่ปุ่นนั่นเอง
ตัวอาคารในปัจจุบันสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโมโมยามะ ในปีเคโจ ที่ 9 (ค.ศ. 1604)โดย ดาเตะ มาซามุเนะ กล่าวกันว่ามาซามุเนะได้มีคำสั่งให้อาซาคาเบะ ซาเอม่อนคุนิสึกุ แห่งตระกูลสึรุ ซึ่งเป็นช่างฝีมือชั้นยอดแห่งคิวชู ปัจจุบันคือจังหวัดวากายามะ เป็นผู้ก่อสร้าง
สิ่งที่น่าสนใจคือตัววิหารที่เป็นสถาปัตยกรรมสมัยโมโมยามะ เป็นโครงสร้างโฮเกียวสึคุริ หลังคามียอดทรงแหลมแบบโฮซันเก็น ที่เสาของมุมทั้งสี่ถูกเรียงเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสและแต่ละด้านของสี่เหลี่ยมมีความยาว 3 เก็น(หน่วยวัดความยาวของญี่ปุ่นสมัยโบราณ 1 เก็น =1.818 เมตร) ผนังแต่ละเก็นมีการสลักรูป 12 นักษัตรตามทิศทางที่ตรงกับของแต่ละราศี สถาปัตยกรรมแบบโมโมยามะที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮขุ
ภายในเป็นที่ประดิษฐานวิทยราชทั้งห้าซึ่งถือว่าเป็นเทพผู้พิทักษ์ศาสนาพุทธ รูปปั้นวิทยราชทั้งห้าสร้างในช่วงกลางของสมัยเฮอัน และเปิดให้ประชาชนได้ชมทุกๆ 33 ปี กำหนดเปิดให้ชมครั้งต่อไปคือในปี 2039
อาคารปัจจุบันได้รับการบูรณะฟื้นฟูขึ้นในปี 1604 โดยขุนนางท้องถิ่น Date Masamune นับว่าเป็นโชคดีที่เหตุการณ์สึนามิและแผ่นดินไหวปี 2011 วัดโกไดโดะไม่ได้รับความเสียหายใดใด
การเดินทางไปที่วิหารโกไดโดะซึ่งเป็นเกาะอยู่ในอ่าวมัตสึชิมะจะต้องข้ามสะพานไม้สีแดง " สุคาชิบาชิ" ซึ่งมีช่องว่างระหว่างคานสะพานเปิดให้มองเห็นคลื่นด้านล่างระหว่างที่เดินข้ามสะพาน สะพานนี้สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่มาสักการะบูชาคอยมองทางอย่างระมัดระวัง เพื่อเป็นการสำรวมจิตใจและร่างกายในขณะที่เข้าไปสักการะวิหารโกไดโดะ อีกทั้งยังกล่าวกันว่าเป็น "สะพานแห่งการผูกดวงเสริมความรัก" เพราะเมื่อคู่รักเดินกันเป็นคู่จะจับมือกัน คอยค้ำจุนกันโดยธรรมชาติ เหมือนกับชีวิตคู่ที่จะเดินไปด้วยกัน คอยดูแลซึ่งกันและกัน
คู่รักที่ไปด้วยกันหากตอนเดินข้ามสะพานไปวัดโกไดโดะไม่ได้จับมือกัน เดินไปด้วยกัน คอยดูแลกันไปไม่ให้คนใดคนหนึ่งสะดุดล่องกลางสะพาน คงต้องกลับไปเดินใหม่ เพื่อเป็นเคล็ดสำหรับชีวิตรักที่ราบรื่น
ไม่มีความเห็น