๑๙๗. มะขามใหญ่กับใบพลูเลื้อย


ผมก็รู้สึกรัก “พลูแฉก”อยู่ไม่น้อยเหมือนกัน มองแล้วสดชื่น นึกชมในใจว่าต้นมะขามก็รู้จักเลือกเพื่อนคู่คิดมิตรคู่บ้าน ที่สำคัญก็คือ พลูแฉกเลี้ยงไม่ยาก ไม่เรื่องมาก ปลูกลงในดินทั่วไป ในจุดที่ปลูกควรได้รับแสงแดดรำไร เป็นต้นไม้ที่ชอบน้ำ

          นับวันบ้านของผมจะเป็นบ้านเล็กในป่าใหญ่เข้าไปทุกที เพราะตัวบ้านปกคลุมไปด้วยสวนป่าและแมกไม้นานาพรรณอย่างมากมาย จนถนนหน้าบ้านเกือบจะเป็นอุโมงค์ต้นไม้อยู่แล้ว

        แรกเริ่มเดิมที หรือ ๑๙ ปีที่ผ่านมา บ้านจะดูสูงเด่นเป็นสง่า ต้นไม้ข้างบ้านจึงมองดูต่ำเตี้ย ทำให้ผมมองเห็นทิวทัศน์ไกลๆได้ถนัดตา ไม่มีอะไรมาบดบังทิวเขาอันสวยงาม

          ห่างจากตัวบ้านเพียง ๑๐๐ เมตร ก็มีลำธารใหญ่ที่เจ้าของขุดขึ้นมาเพื่อให้เป็นจุดขาย คนซื้อที่ดินทุกคนจะชื่นชอบ รวมทั้งผมด้วย พอเห็นปุ๊บก็ซื้อเลย สิ่งแวดล้อมแบบนี้ หาที่ไหนไม่ได้แล้ว

          หน้าบ้านเห็นภูเขา ข้างบ้านเกือบจะชิดติดลำธาร ส่วนตัวบ้านและที่ดินทั้งหมดของผม ติดธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ผมกู้เงินมาซื้อเพื่อปลูกสร้างบ้าน ด้วยสัญญา ๒๕ ปี

          แต่ก็ภูมิใจในตนเอง ที่สามารถผ่อนส่งงวดเงินกู้หมดได้ภายใน ๑๓ ปี ด้วยการเก็บหอมรอมริบ กินน้อยใช้น้อยค่อยบรรจง จากนั้นก็ตั้งเป้าประสงค์เรื่อยมา ว่าต่อไปนี้จะไม่กู้อะไรอีกแล้ว

          ไม่ผิดหวังเลยที่ซื้อที่ดินตรงนี้ เพราะดินดีสีดำและน้ำชุ่ม ต้นไม้โตเร็วมาก แต่ละต้นเหมือนจะแย่งกันสูงเข้าไว้ แต่ก็แปลกใจนิดนึง ที่ต้นไม้ส่วนใหญ่ปลูกพร้อมกันแต่สูงใหญ่ไม่เท่ากัน

         ยกตัวอย่างต้นมะขาม ที่ดินแปลงที่อยู่ไกลออกไปและอยู่ใกล้ลำธาร ต้นมะขามสูงใหญ่ก็จริงแต่ก็เล็กกว่ามะขามบ้านผม ของผมจะใหญ่กว่าเป็นสองเท่า

        โดยเฉพาะต้นที่อยู่ติดบ้าน มันใหญ่มาก ตอนแรกผมคิดว่ามะขามได้ยินเสียงคนและเสียงเพลง จึงครื้นเครงเพลิดเพลิน ทำให้เจริญเติบโตเร็วกว่าต้นอื่น

         จริงๆแล้ว น่าจะเกิดจากการที่ผมรดน้ำต้นไม้ไปทั่ว แล้วรากของมะขามที่ทั้งใหญ่และยาวก็คงได้รับสารอาหารไปด้วย ส่วนใต้ดินก็มีความชุ่มชื้นเพียงพอ จึงส่งผลให้ต้นมะขามโตเร็วนั่นเอง

       ปีที่แล้วมะขามข้างบ้านดูจะเป็นโสดโดดเดี่ยว  ด้วยบุคลิกที่เคร่งขรึม วางท่วงท่าสง่าเสียเหลือเกิน หากเป็นหนุ่มใหญ่ก็คงจะดูหล่อเหลาเอาการมิใช่น้อย

          ปีนี้..มะขามเปลี่ยนไป ดูคึกคักกระชุ่มกระชวย ผมแหงนมองขึ้นไปก็ได้คำตอบขึ้นมาทันที มีสาวสวยที่มะขามกำลังติดพัน เป็นการเริ่มต้นสานสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดสนิทสนมและแนบแน่น

          นางมิใช่ใครอื่น...ผมรู้เพราะสืบค้นจากกูเกิล เธอชื่อต้นพลูแฉก หรือพลูฉีก บางคนก็เรียกเธอว่าต้นพลูฉลุ ผมเคยเห็น ว่ามาด้อมๆมองๆอยู่โคนต้น เผลอแป๊บเดียว...ไปอยู่บนยอดต้นมะขามแล้ว

          ผมเลยต้องสืบดูประวัติของเธอสักหน่อย ว่าเธอมาร้ายหรือมาดี ควรจะให้อยู่ต่อไป หรือจะให้กอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่บนต้นมะขามแบบนี้ โดยที่ผมแค่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ก็พอ

       ต้นพลูแฉก เป็นไม้เลื้อยที่มีรากตามข้อ ออกตามข้อของลำต้น เพื่อช่วยในการยึดติด เกาะยึด ในส่วนของก้านใบมีลักษณะยาว ใบจะมีความคล้ายรูปหัวใจ แผ่นใบจะเว้าลึกทั่วบริเวณใบ  สีของใบมีสีเขียวและมีความเป็นมัน ดอกมีสีขาว ช่อดอกเป็นแบบช่อเดี่ยว หรือเป็นกลุ่มอยู่บริเวณใกล้เรือนยอด

       ส่วนที่เป็นพิษของพลูแฉกคือส่วนของยางที่อยู่ภายในลำต้น  ถ้าเคี้ยวเข้าไปจะทำไห้ปาก ลิ้น เพดาน มีความแสบและร้อนแดง ในบางคนจะเกิดอาการอาเจียน หรือท้องเสียเล็กน้อย พิษสงขนาดนี้ต้นมะขามจะรู้ไหมเนี่ย หรือว่าหลงรักเขาเข้าให้แล้ว..นี่ล่ะ..ความรักก็ทำให้ต้นไม้ตาบอดได้

          อย่างไรก็ตาม ผมก็รู้สึกรัก “พลูแฉก”อยู่ไม่น้อยเหมือนกัน มองแล้วสดชื่น นึกชมในใจว่าต้นมะขามก็รู้จักเลือกเพื่อนคู่คิดมิตรคู่บ้าน ที่สำคัญก็คือ พลูแฉกเลี้ยงไม่ยาก ไม่เรื่องมาก ปลูกลงในดินทั่วไป ในจุดที่ปลูกควรได้รับแสงแดดรำไร เป็นต้นไม้ที่ชอบน้ำ หรือจุดที่มีความชื้นสูง.

          ต่อไปนี้..ผมจะรดน้ำทุกวันเลย ทั้งสองจะได้อยู่คู่กัน..ครองรักกันอย่างยั่งยืน

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๑๕  มกราคม  ๒๕๖๖

หมายเลขบันทึก: 711288เขียนเมื่อ 15 มกราคม 2023 20:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มกราคม 2023 20:04 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท