GotoKnow

เหนือทรายใต้ฟ้า

Dr. Phichet Banyati
เขียนเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2548 08:54 น. ()
แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2555 19:38 น. ()
ต่างก็เป็นการแสดงที่มาจากวิถีชีวิตของความเป็นไทย ไม่ว่าจะเป็นของภาคไหนที่แม้มีวัฒนธรรม สำเนียงภาษาและการแสดงแตกต่างกันไปบ้าง แต่แก่นแท้แล้วล้วนสะท้อนความเป็นไทยออกมาทั้งสิ้น จึงทำให้เราสามารถรับรู้ความรู้สึกร่วมกันได้

                ในขณะที่คนไทยจำนวนมากกำลังชื่นชมกับหนังทีวีเกาหลีเรื่อง แดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวง ซึ่งผมเองก็ไม่เคยดู แต่ได้อ่านบทความที่กล่าวถึงด้วยความชื่นชมก็รู้สึกชื่นชมไปด้วย เรียกว่าพลอยยินดีไปกับเขาด้วย ของเกาหลี อาหารเกาหลี แฟชั่นเกาหลีก็คงจะเข้ามาเมืองไทยง่ายขึ้นเร็วขึ้น เพราะเมืองไทยสร้างกระแสได้ง่าย คนส่วนหนึ่งชื่นชมความงดงามแห่งสาระ แต่ก็มีคนอีกส่วนใหญ่พร้อมจะตามกระแสไปกับเขาด้วย ท่านผู้อ่านอาจจะคิดว่าผมขวางคลองก็ได้(แม้จะเป็นหมอ ไม่ได้เป็นจระเข้) แต่ผมก็เป็นอย่างนี้มาตลอดอะไรที่เป็นกระแสผมจะคิดมากเพราะกลัวถูกจูงใจไปได้ง่าย

                ที่บ้านผมไม่ได้ดูหนังเกาหลี แต่ดูทีวีไทยหลายเรื่องที่ติดใจผมก็คือเรื่องเหนือทราย ใต้ฟ้า ที่เป็นเรื่องของคนกลุ่มหนึ่งที่รักกีฬาด้วยชีวิตจิตใจกับคนอีกกลุ่มหนึ่งที่จะนำกีฬาไปใช้ในทางที่ผิด ผมเองก็ไม่ได้ดูมากนักแต่คุณแม่ดู ก็จะได้ยินเสียงเป็นส่วนใหญ่  หนังเรื่องนี้ก็เน้นที่ความมุ่งมั่นของเด็กกลุ่มหนึ่งต่อกีฬาที่เขารัก พยายามต่อสู่ฝ่าฟันกับอุปสรรค แต่ที่ผมติดใจไมได้ที่เนื้อเรื่องเพราะละครไทยส่วนใหญ่ก็มองทิศทางออกว่าจะไปทางไหน แต่เนื่องจากเป็นวอลเลย์บอลชายหาดการแต่งตัวก็อาจจะไมได้ปิดถึงคอถึงข้อเท้า แต่ก็ถือว่าไม่โป๊เกินไป                

                ที่ติดใจให้ผมหันกลับมาดูมาฟังก็คือการนำเอาลิเกฮูลูมาเป็นส่วนประกอบของละคร เพลงประกอบที่ใช้ทำนองของเพลงลิเกฮูลู พอผมได้ยินเสียงเพลง เห็นท่าทาง ได้ยินเสียงดนตรี ผมก็รู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก รู้สึกคุ้นเคย ชอบและประทับใจ รู้สึกผูกพันเป็นอย่างมาก ทั้งที่ผมไม่ได้เป็นคนปักษ์ใต้และไม่ได้อยู่ภาคใต้เลย ผมหวลคิดไปถึงคราวที่ผมไปภาคอีสานแล้วได้ชมเครื่องดนตรีอีสาน หมอลำอีสาน ผมก็รู้สึกชอบ ประทับใจและรู้สึกผูกพันอย่างมากเช่นกันและคิดว่าสงสัยเราจะมีอะไรผูกพันอยู่กับอีสานเป็นแน่ ก็ปรากฏว่าภรรยาที่คิดว่าเป็นสาวลำปาง จริงๆแล้วเป็นสาวอีสานที่มาโตลำปาง แต่ตอนนี้คงนึกผูกพันแบบนั้นไม่ได้แล้วเพราะมีภรรยาได้คนเดียว

                พอคิดไปคิดมาก็นึกไปถึงตอนอยู่บ้านที่สุโขทัยก็ชอบดูลิเก ชอบมาจนถึงทุกวันนี้ แม้ไม่ค่อยมีเวลาไปดูแต่ถ้าได้ยินเสียงลิเกร้องหรือแสดงก็อดเข้าไปดูไม่ได้ รวมทั้งเคยแสดงลิเกในงานต่างๆประมาณ 4-5 ครั้ง หรือเวลาไปภาคกลางได้ยินเสียงลำตัดก็ชอบมาก ไปเรียนทางภาคเหนือได้ยินเสียงเพลงล้านนา เสียงซึงก็ชอบอีกเช่นกัน สรุปว่าหลงเสน่ห์การแสดงแบบพื้นบ้านไปหมดทุกภาค

                จึงคิดได้ว่าไม่ว่าจะเป็นลิเกฮูลูของภาคใต้ ลำตัดของภาคกลางตอนล่าง ลิเกของภาคกลางและเหนือตอนล่าง  เครื่องดนตรีอีสานและวงหมอลำ เสียงซึงเสียงซอ จ้อยซอของภาคเหนือล้านนา ต่างก็เป็นการแสดงที่มาจากวิถีชีวิตของความเป็นไทย ไม่ว่าจะเป็นของภาคไหนที่แม้มีวัฒนธรรม สำเนียงภาษาและการแสดงแตกต่างกันไปบ้าง แต่แก่นแท้แล้วล้วนสะท้อนความเป็นไทยออกมาทั้งสิ้น จึงทำให้เราสามารถรับรู้ความรู้สึกร่วมกันได้ไม่ว่าจะเป็นคนไทยภาคไหนก็ตาม


ความเห็น

ไม่ระบุ
เขียนเมื่อ

ดูละครเรื่องนี้เหมือนกัน เวลาดูจบแล้ว จะรอฟังเพลงตอนที่ละครจบ เพราะเพลงลิเกฮูลูเพราะดี แต่ตอนนั้นไม่ได้รู้ว่า คือเพลงอะไร เป็นเพลงที่ไหน แต่ชอบ เพราะดี


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท
ภาษาปิยะธอน (Piyathon)
เขียนโค้ดไพทอนได้ด้วยภาษาไทย