สุราษฎร์ธานี เมืองแห่งคนดี (2) สักการะศาลหลักเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคล


สุราษฎร์ธานี เมืองแห่งคนดี (2) สักการะศาลหลักเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคล

        (ภาพจากอินเทอร์เน็ต)

ตามประเพณีไทยตั้งแต่สมัยโบราณ เมื่อมีจะมีการสร้างเมืองใหม่ขึ้นจะต้องมีการสร้างเสาหลักเมือง และมีการหาฤกษ์งามยามดีในการฝังเสาหลักเมืองก่อนที่จะเริ่มลงมือสร้างบ้านเมือง ดังนั้นเมื่อเมืองสร้างเสร็จ ผู้คนก็มักจะไปกราบไหว้เสาหลักเมืองเพื่อเป็นสิริมงคลแก่การดำเนินชีวิตในบ้านเมืองแห่งใหม่ และกลายเป็นประเพณีสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน

ศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานีตั้งอยู่บนถนนดอนใกล้กับตลาดบ้านดอน บริเวณริมแม่น้ำตาปี ตำบลตลาด อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี บริเวณที่สร้างศาลถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เดิมเป็นที่ตั้งของศาลากลางจังหวัดหลังเก่า อีกทั้งยังเคยเป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 สถานที่แห่งนี้จึงนับว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวสุราษฎร์ธานีจะมาสักการะอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงเวลาเย็นถึงค่ำจะมีประชาชนมาสักการะศาลหลักเมืองเป็นจำนวนมาก ชาวสุราษฎร์เคารพบูชาศาลหลักเมืองอย่างมาก แม้แต่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองสุราษฎร์ก็ไม่พลาดที่จะแวะมากราบสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล

        (ภาพจากอินเทอร์เน็ต)

ภายในมณฑปศาลหลักเมืองมีความประณีตงดงาม ก่อสร้างด้วยคอนกรีตตามแบบศิลปะศรีวิชัยคล้ายกับพระบรมธาตุไชยา แต่มีขนาดใหญ่กว่าสองเท่า โดยฐานเป็นทรงสี่เหลี่ยมจตุรมุข มีบันไดทางขึ้นสี่ด้าน มีซุ้มประดับลวดลายปูนปั้น ด้านหน้าเป็นตราสัญลักษณ์ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงครองราชย์ครบ 50 ปี ล้อมรอบสนามหญ้าสีเขียว ในเวลาค่ำคืนจะเปิดไฟประดับอย่างสวยงาม

เสาหลักเมืองประดิษฐานอยู่ภายในมณฑป แกะสลักจากต้นราชพฤกษ์ขนาดใหญ่ที่พบในป่าเมืองสุราษฎร์ธานี มีอายุถึง 139 ปี สูงประมาณ 5 เมตร ลงรักปิดทอง แกะสลักด้วยศิลปะศรีวิชัย บนยอดมีพระพักตร์พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรสี่ทิศ ยอดบนสุดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่ฐานแกะสลักเป็นลวดลายประยุกต์จากพระอุระขององค์พระโพธิสัตว์ ใช้เวลาแกะสลักนานถึง 6 เดือน โดยช่างพื้นบ้านฝีมือเอก

       (ภาพจากอินเทอร์เน็ต)

ศาลหลักเมืองเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองสุราษฎร์ เพราะถือเป็นหลักชัยคู่บ้านคู่เมืองทำให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข 

การมาเยือนสุราษฎร์ธานี เมืองแห่งคนดีในครั้งนี้จึงเริ่มต้นที่การสักการะศาลหลักเมืองเป็นสิ่งแรก ทั้งนี้เพื่อความเป็นสิริมงคลและสวัสดิภาพแก่ผู้ร่วมเดินทางทุกท่าน แม้ว่าในวันนี้ดินฟ้าอากาศจะไม่เป็นใจเอาเสียเลย เมื่อมาถึงศาลหลักเมืองฝนก็เริ่มโปรยปรายลงมาให้ชุ่มฉ่ำใจคลายร้อน เมื่อเดินเข้าไปภายในบริเวณศาลหลักเมืองฝนก็เริ่มตกลงมาหนักขึ้น จนต้องหลบฝนในเต็นท์ขายดอกไม้ธูปเทียน ไม่สามารถเดินเข้าไปสักการะด้านในได้ ต้องสักการะและขอพรอยู่ด้านนอกศาลหลักเมือง

ศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานีสร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงครองราชย์ครบ 50 ปี ในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2539 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นหลักชัย และมิ่งขวัญ รวมทั้งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองสุราษฎร์ธานี โดยมีช่างจากกรมศิลปากรเป็นผู้ออกแบบก่อสร้างตามแบบศิลปกรรมศรีวิชัยด้วยการเน้นรูปลักษณะศิลปกรรมท้องถิ่นเดิม  ผสมผสานกับอิทธิพลจากชวา ลังกา และเขมร ผสมกลมกลืนกัน เพื่อแสดงถึงความมั่นคงและเป็นปึกแผ่นของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมืองเก่าที่มีร่องรอยทางประวัติศาสตร์สมัยศรีวิชัย และมีความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยโบราณกาลจนกระทั่งปัจจุบัน

หากมีโอกาสแวะมาเยือนเมืองสุราษฎร์ธานีควรหาโอกาสเข้าไปกราบสักการะศาลหลักเมืองเพื่อความเป็นสิริมงคล ที่บริเวณด้านหน้าศาลมีซุ้มดอกไม้ธูปเทียนไว้บริการมีทั้งชุดใหญ่และชุดเล็ก ประกอบด้วยดอกบัวหลวง ดาวเรือง และดอกบานไม่รู้โรย ธูป 3 ดอก เทียน 1เล่ม ทองคำเปลว พวงมาลัย และผ้าแพร 3 สี จัดไว้ในถาดเล็กๆ ดอกบัวหมายถึงการบูชาพระอริยะเจ้าเพื่อความเป็นสิริมงคล ส่วนดอกดาวเรืองและบานไม่รู้โรย หมายถึง ความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตและหน้าที่การงานตลอดไป

       (ภาพจากอินเทอร์เน็ต)

ขั้นตอนการไหว้ศาลหลักเมือง เริ่มจากการไหว้พระที่หอพระพุทธรูปก่อน แล้วจึงปิดทอง หลังจากนั้นผูกผ้าแพรที่องค์พระหลักเมืองจำลอง แล้วนำพวงมาลัยไปถวายหลักเมืององค์จริง จากนั้นให้ถวายพวงมาลัยองค์เทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด หลังจากนั้นให้อธิษฐานขอพรและท่องคาถาบูชาองค์พระหลักเมือง ดังนี้

...ท่องนะโม 3 จบ...

ศรีโรเม เทพเทวานัง พระหลักเมืองเทวานัง พระภูมิเทวานัง ทีปธูปจะบุปผัง สักการะวันทนัง สูปพยัญชนะ สัมปันนัง สารีนัง อุททกัง วะรัง เตปิตุมเห อานุรักษ์ขันตุ อาโรขเยนะ สุเขนะจะ

การไหว้ศาลหลักเมือง 
1. เพื่อเป็นการเสริมความความมั่นคงในชีวิตให้ชีวิตราบรื่น มีความสุขสมหวัง ได้พบเจอแต่ความเจริญก้าวหน้าในชีวิต ไร้ซึ่งอุปสรรคใดๆทั้งปวง
2. เพื่อเป็นการเสริมความมั่นคงด้านการงาน บางคนอาจจะไหว้ขอพรเกี่ยวกับการงานให้ก้าวกน้ามั่นคง ได้เลื่อนยศเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง หรือขอพรให้ได้งานตามที่ชอบที่หวังไว้
3. เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล เสริงพลังบุญ ทำให้มีพลังกายพลังใจที่เข้มแข็งและมั่นคง สามารถฝ่าฟันและเอาชนะอุปสรรคต่างๆในชีวิตไปได้

ขอขอบคุณ

  • การบริการที่ดีเยี่ยมจากบริษัททัวร์ฟ้าใสและทีมงาน
  • ภาพบางส่วนจากอินเทอร์เน็ต
  • น้ำใจไมตรีจากเพื่อนร่วมเดินทางทุกๆท่าน
     
หมายเลขบันทึก: 702168เขียนเมื่อ 13 เมษายน 2022 11:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 เมษายน 2022 12:56 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท