พื้นฐานคุณภาพการศึกษาคือความเชื่อมั่นและการให้เกียรติ บทความ Developing Trust and Nourishing Respect in the Classroom เน้นปัจจัยทั้สองในห้องเรียน แต่ผมเถียง ว่าสองปัจจัยนี้ (ความเชื่อมั่น และการให้เกียรติ) ไม่ได้สำคัญเฉพาะในห้องเรียน ยังเป็นหัวใจของระบบการศึกษาทั้งระบบ และเป็นหัวใจของสังคมดี
ทักษะ หรือสมรรถนะ สำคัญของครูอย่างหนึ่งจึงเป็นเรื่องการให้เกียรติผู้อื่น ผมจึงเกิดคำถามว่า ระบบการผลิตครูควรเอาใจใส่สมรรถนะนี้แค่ไหน เรามีวิธีการทดสอบพื้นฐานนี้ของผู้สมัครเข้าเรียนวิชาครูไหม หากมีวิธีทดสอบที่แม่นยำน่าเชื่อถือ เราจะใช้คัดกรองผู้สมัครเข้าเรียนครู (และทดสอบผู้สมัครสอบเทียบสมรรถนะครู) ไหม อย่างที่ผมโดนสอบ aptitude test และทดสอบตอนสัมภาณ์ ก่อนข้ามฟากไปเรียนแพทย์เมื่อปี ๒๕๐๕
จากการที่ผมมีโอกาสเข้าไปนั่งประชุม กมว. ของคุรุสภา ในฐานะที่ปรึกษา (๑) ทำให้ผมตระหนักว่า ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีปัญหาด้านจริยธรรม และเข้าสู่การพิจารณาของ กมว. นั้น กล่าวได้ว่าเป็นผู้ขาดสมรรถนะในการให้เกียรติผู้อื่นทั้งสิ้น
คนที่จะให้เกียรติผู้อื่นได้ ต้องเป็นคนที่มีความเคารพนับถือตนเอง (self-efficacy) ซึ่งเป็นสมรรถนะสำคัญสำหรับมนุษย์ยุคปัจจุบันและอนาคต และวงการศึกษามีวิธีวัด และน่าจะวัดได้แม่นขึ้นเรื่อยๆ เราจะใช้คัดกรองคนที่จะไปเป็นครูหรือไม่
เอามาตั้งเป็นข้อสังเกตไว้ ว่าเราต้องการเครื่องมือ ช่วยการกลั่นกรองคนที่อุปนิสัยเหมาะสมไปเป็นครู ไม่ใช่แค่มองที่คุณวุฒิหรือปริญญาเท่านั้น
ในบันทึกหน้า จะเอ่ยถึงหนังสือที่ลงรายละเอียดเรื่องนี้ ที่หาอ่านได้
วิจารณ์ พานิช
๖ ม.ค. ๖๕
น่าสนใจมากเลยครับ ก่อนสอบเป็นอาจารย์ช่วงหลังมีแต่วัดเรื่องจิตวิทยา