เสียงพลุ ประทัด รวมทั้งเสียงปืน ระงมขึ้นเมื่อเที่ยงคืนของวันที่ ๓๑ ผู้คนร่วมเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ '๒๕๖๕ กันอย่างอึกทึก เป็นเวลาเดียวกับลูกชายถูลู่ถูกังเอาเจ้ามะขามซึ่งระโหยโรยแรงลงจากรถหน้าโรงพยาบาลสัตว์ในเมือง
ก่อนนั้นสามทุ่มกว่าๆ เปิดหน้าต่างมองหาว่ากลับมาหรือยัง? เกือบสองอาทิตย์แล้วที่อยู่ไม่ติดบ้าน มาก็แปล๊บๆ ข้าวปลาไม่ยอมกินจนดูซูบผอม เมื่อถูกกระตุ้นด้วยความเป็นสัดของเพศเมียบ้านใกล้เรือนเคียง มะขามจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างนี้เสมอ
มันเดินโซซัดโซเซเนื้อตัวมอมแมมอยู่ในโรงรถ "หมดเรี่ยวหมดแรงสิท่า" ประชดประชันในใจอย่างมีอารมณ์ระคนเป็นห่วงว่าจะหิวหรือถูกทำร้ายมา รีบลงไปดูเมื่อเห็นผิดปกติเช่นนั้น มะขามรี่ไปดื่มน้ำในอ่างด้วยความกระหายอย่างยาวนานจนน่าสงสัย
ตกใจและหวาดเสียวมาก เมื่อเห็นเปลือกตาล่างข้างซ้ายฉีกขาดเป็นสีเลือดห้อยต่องแต่ง เปิดให้เห็นลูกตาขาวโพลน ทีแรกนึกว่าตาบอดแล้วเสียอีก หน้าตามะขามเหยเก ตกอยู่ในความตื่นกลัว ปนเปไปด้วยความเจ็ดปวด ทรมาน
หมอบอกต้องวางยาสลบ เพื่อเย็บตกแต่งบาดแผล ดวงตาจะไม่เหมือนเดิม เพราะต้องตัดบางส่วนออก น่าจะจากของมีคม ไม่น่าใช่กัดกัน ไม่อย่างนั้นจะเละเทะบอบช้ำกว่านี้ หมอตั้งข้อสังเกตจากแผลที่เห็น
เช้าวันรุ่งขึ้นพามะขามกลับไปโรงพยาบาลสัตว์อีกครั้ง เพื่อเย็บแผลตามที่ได้นัดแนะกับหมอไว้ตั้งแต่เมื่อคืน เมื่อรู้ว่าต้องวางยาสลบอยู่แล้ว จึงเสนอให้ทำหมันมะขามไปในคราวเดียวกันเลย
รอคิวพบหมอด้วยความกระวนกระวาย จากอาการมะขามที่ดูแย่ลงจากที่ต้องอดทนกับการบาดเจ็บมาตลอดทั้งคืนจนถึงสายนี้ เกือบเที่ยงวันเจ้าหน้าที่จึงนำมะขามเข้าห้องผ่าตัด ชั่วโมงเศษๆ ภารกิจจึงสำเร็จลุล่วง
หมอเชิญให้ไปเยี่ยมไข้ได้ พอเห็นหน้าเราเท่านั้น กระดิกหางไม่หยุด ทั้งที่นอนอยู่ในกรงแคบๆ ลุกขึ้นไม่ได้ หน้าตายังบ่งบอกว่าเจ็บปวดที่สุด พร้อมๆกับส่งเสียงขอความช่วยเหลือโหยหวน
คงเหมือนเด็กๆยามเจ็บไข้ได้ป่วย ไม่ได้เจอพ่อแม่หรือคนใกล้ชิด ต้องอยู่ตามลำพังกับหมอและพยาบาล ซึ่งล้วนแต่แปลกหน้า พลันได้พบจึงปล่อยโฮออกมา..ทำเราแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหวเช่นกัน
ไม่มีความเห็น