จงใช้พลังแห่งตนของคุณให้เต็มศักยภาพ
โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
จงใช้พลังแห่งตนของคุณให้เต็มพิกัด ท่านผู้อ่านเคยเห็นแมวไล่จับหนู แล้วหนูวิ่งไวมากๆ จนแมววิ่งไล่จับหนูไม่ได้ไหมครับ ถามว่าทำไม แมวตัวใหญ่กว่าหนูหลายเท่าตัวแต่วิ่งช้ากว่า แต่ในทางกลับกัน หนูตัวเล็กกว่าหลายเท่าตัวแต่วิ่งหนี แมวได้
คำตอบก็คือ หนูวิ่งหนีแมวด้วยการใช้พลังอย่างเต็มความสามารถหรือเต็มศักยภาพ เพราะถ้าถูกแมวจับได้ หนูก็จะถูกแมวกินหรือตายนั้นเอง เลยต้องวิ่งหนีสุดชีวิต แต่แมววิ่งไล่จับหนูเพื่อหาอาหาร เลยวิ่งไม่เต็มความสามารถหรือเต็มศักยภาพที่มี
การใช้พลังแห่งตนของเรา ให้เต็มพิกัดหรือเต็มศักยภาพจึงมีความสำคัญในการทำงานหรือทำสิ่งต่างๆให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ เพราะถ้าเราทำอย่างเต็มที่ เราก็จะพบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าหากว่า เราไม่ใช้พลังอย่างเต็มความสามารถ เราก็จะเดินทางไปถึงเป้าหมายได้อย่างช้าๆ และใช้เวลานานมากในการเดินทางให้ไปถึงเป้าหมายที่วางไว้
ในการที่จะปลดปล่อยพลังที่อยู่ในตัวเองออกมานั้น เราอาจจะเหนื่อย เราอาจจะพบกับความลำบากอยู่บ้าง ซึ่งก็เป็นธรรมดาของการออกแรง เพราะคนออกแรงอย่างเต็มที่ย่อมเหนื่อยกว่า คนที่ออกแรงที่น้อยกว่า
แล้วจะทำอย่างไร ถึงจะดึงพลังแห่งตนออกมา คำตอบก็คือ จงสร้างสถานการณ์ขึ้นมา ตัวอย่างเช่น ถ้าบ้านเราเกิดไฟไหม้ เราจำเป็นจะต้องขนของภายในบ้านออกมาให้ได้มากที่สุด เร็วที่สุด ดังนั้น เราต้องดึงพลังแห่งตนหรือพละกำลังทั้งหมดเพื่อใช้ในการขนของ เราคงได้ยินข่าว หรือ มีการเล่ากัน ว่า บางคนบ้านไฟไหม้ สามารถยกตู้เย็นหลังใหญ่ออกมาได้ทั้งหลัง แต่พอไฟดับ ใช้คนสามคนยกยังไม่สามารถเอากลับเข้าที่ได้
ถ้าให้พวกเราสัก 4 คน ยกรถยนต์กระบะขึ้น โดยให้ล้อลอยอยู่เหนือพื้น หลายคนบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้า ลูกคุณ หลานคุณ หรือคนที่คุณรัก ถูกล้อรถยนต์กระบะ ทับตัว พวกเรา 4 คน จะใช้พลังแห่งตนหรือพลังที่มีอยู่ภายในอย่างไร คำตอบก็คือ ถ้าให้ยกล้อรถยนต์กระบะ ขึ้น เราจะใช้พลังไม่เต็มที่ แต่ถ้า ลูกคุณ หลานคุณ หรือคนที่คุณรัก ถูกล้อรถยนต์กระบะ ทับตัว พวกเราก็จะใช้พลังที่มีอยู่ภายในอย่างเต็มที่มากกว่า หรือ ดึงพลังที่มีอยู่ภายในออกมาใช้อย่างสุดชีวิต
สำหรับการสร้างสถานการณ์ในการนำพลังแห่งตนออกมาใช้ในการทำงานหรือชีวิต มีหลายวิธี คือ การตั้งเป้าหมายที่ต้องการ , การใช้พลังแห่งจินตนาการ , การใช้พลังแห่งคำพูด(พูดให้กำลังใจตนเองอย่างสม่ำเสมอ) , พลังแห่งอุปนิสัย(ทำอะไรให้เป็นนิสัยจนเคยชินกับมัน) , พลังแห่งการคิดบวก เป็นต้น
ดังนั้นในทุกๆวัน คุณต้องฝึกเขียน เป้าหมายที่ต้องการ จงนั่งแล้วเอากระดาษ ปากกา ขึ้นมา แล้วลองเขียนมันออกมา ท่านต้องการอะไรในชีวิต และอะไรที่ท่านต้องการจริงๆในชีวิตของท่าน
จงใช้พลังแห่งจินตนาการและการใช้พลังแห่งการคิดบวก โดยล้มตัวลงนอนด้วยความรู้สึก คิดและจินตนาการในทางที่เป็นบวก จงฝึกคิดบวก บ่อยๆ จนการคิดบวกมันสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ จนไม่มีที่ว่างให้ความทรงจำหรือความคิดที่เป็นลบหรือการคิดลบแทรกตัวเข้าไปได้
จงอย่าลืมบอกกับตัวเองซ้ำๆ อยู่เสมอตลอดวันว่า
"ชีวิตของฉันเปี่ยมพลัง , ชีวิตของฉันมีพลัง และฉันเต็มที่กับการใช้ชีวิต "
ไม่มีความเห็น