๑๒๕ บทเรียนชีวิต (๗) อย่าเสียดาย


" เพราะความอ่อนด้อยและขาดการพัฒนามิใช่หรือ ที่ทำให้ภาครัฐ คิดการใหญ่ในการที่จะยุบควบรวม ผู้บริหารโรงเรียนเล็กมากมาย ที่ยังไม่รู้ตัวเลยว่า ถ้าโควิดคลี่คลายเขาจะขยับขยายโครงการโรงเรียนคุณภาพของชุมชน หากยังทำงานกันแบบเดิมๆ โอกาสที่โรงเรียนเล็กๆจะรอดนั้น ยากมาก"

            เมื่อพ่อแม่ไม่ได้ทิ้งที่ดินและสิ่งก่อสร้างไว้ให้ จึงเป็นธรรมดาอยู่เอง ที่ลูกหลานต้องเสาะแสวงหาด้วยลำแข้ง ด้วยสมองและสองมือ เริ่มจากการสร้างรากฐานให้แข็งแกร่ง ต่อเติมด้วยคุณธรรมนำชีวิต ในรูปแบบของการใช้ชีวิตที่ไม่ประมาท พออยู่พอกินพอดีและพองาม ไม่ฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมตามอย่างใคร

            ผมได้มรดกทางปัญญาจากพ่อแม่ คิดว่าล้ำค่าแล้ว แต่หากพูดถึงทรัพย์สมบัติถือว่าต้นทุนต่ำมาก จึงใช้เงินเดือนอย่างระมัดระวัง ผ่านไป ๓๐ ปี ชีวิตดีขึ้น..มีพร้อมทุกอย่าง แม้จะไม่มากมายแต่ก็สร้างความอบอุ่นใจมิใช่น้อย เพราะเมื่อเราต้องจากโลกนี้ไป..จะไม่รู้สึกเสียดาย เพราะได้สร้างสรรค์ความมั่นคงให้แก่ลูกหลานเป็นที่เรียบร้อย ส่วนความมั่งคั่งต่อไปในกาลข้างหน้า ก็แล้วแต่พวกเขา

          ในช่วงท้ายของชีวิตราชการ มีโอกาสซื้อที่ดิน บางคนถามว่าทำไมไม่เก็บเงินไว้ใช้ตอนแก่..ก็บอกว่าถ้าแก่ตัว..คงไม่ได้ใช้เงินหรอก ซื้อที่ดินยังได้ทำโคกหนองนา ปลูกป่าให้แผ่นดินและทำเกษตรอินทรีย์ ทำให้ชีวิตมีกิจกรรม ช่วยเสริมกำลังกายกำลังใจ เก็บเงินไว้..ตายไปก็เอาไปไม่ได้

         หลายคนสงสัย ทำอะไรนักหนาในโรงเรียนเล็กๆ พัฒนาไม่หยุดหย่อนเสียที ไม่เหนื่อยบ้างหรือไร บ่อยครั้งที่ผมต้องตอบข้อสงสัยของมวลสมาชิกในเพจของเฟสบุ๊ค เกี่ยวกับความรักความผูกพันที่ผมมีต่อโรงเรียน และเขาคิดว่าผมคงทำใจยาก หากต้องเกษียณและลาจากโรงเรียนนี้ไป

        ความจริงอย่างหนึ่งก็คือ..ทุกคนย่อมคิดไม่เหมือนกัน และผมก็ไม่ต้องคิดเหมือนใคร ผมเป็นคนที่ปากกับใจตรงกัน คิดอย่างไรทำอย่างนั้น มีเหตุผลและข้อมูลหลักฐานเพียงพอ ที่ช่วยประกอบเป็นปัจจัยว่าทำไมผมต้องคิดอย่างนั้น

        ใช่แล้ว…สร้างไว้ก็เอาไปไม่ได้ ไม่มีสิทธิครอบครอง แต่แนวคิด วิธีการบริหารจัดการ มันจะอยู่กับโรงเรียนนี้ตลอดไป ว่าเราได้ทำไว้ด้วยรูปลักษณ์แบบนี้ แม้คนรุ่นต่อไปจะปรับเปลี่ยน แต่ถึงอย่างไรชุมชนและสังคมก็รับรู้ได้ด้วยความรู้สึก หากสิ่งที่เราทำได้สร้างความเจริญก้าวหน้า..จะไม่มีสิ่งใดเป็นตราบาปติดตัวเราไปอย่างแน่นอน

       อาคารสถานที่ แหล่งเรียนรู้และสิ่งแวดล้อมยิ่งชัดเจน บทเรียนที่เราไม่เคยพบ ไม่เคยมี เคยตั้งอยู่บนความยากลำบากและขาดแคลน เราจำเป็นจะส่งต่อสิ่งเหล่่านี้ไปให้คนรุ่นต่อไปด้วยหรือ? ในเมื่อเรามีโอกาสที่ดีกว่า…

       เพราะความอ่อนด้อยและขาดการพัฒนามิใช่หรือ ที่ทำให้ภาครัฐ คิดการใหญ่ในการที่จะยุบควบรวม ผู้บริหารโรงเรียนเล็กมากมาย ที่ยังไม่รู้ตัวเลยว่า ถ้าโควิดคลี่คลายเขาจะขยับขยายโครงการโรงเรียนคุณภาพของชุมชน หากยังทำงานกันแบบเดิมๆ โอกาสที่โรงเรียนเล็กๆจะรอดนั้น ยากมาก

       ผมไม่ได้ห่วงกังวลหรือยึดติด แต่ความมั่นคงและยั่งยืนสร้างได้ตั้งแต่ตอนนี้ ทำวิกฤตให้เป็นโอกาส.. ผมถามความต้องการของชุมชนผู้ปกครอง(ลูกค้า)ว่าเขาต้องการอะไร…สำรวจปัญหาขั้นพื้นฐาน .ทำไมเขาถึงไม่ส่งลูกหลานมาเรียน ล้วนแล้วแต่เกิดจากครูไม่ครบชั้น อาคารไม่เพียงพอ..การบริหารจัดการในแบบที่ปล่อยปละละเลย

      ในสิ่งที่ขาดแม้จะยากเย็นแสนเข็ญ เราเป็นผู้บริหารมีหน้าที่ต้องแก้ปัญหา เพราะมันเป็นความต้องการจำเป็นทางการศึกษา และเราเลือกแล้วที่จะอยู่โรงเรียนเล็ก ไม่มีสิทธิบ่นหรือท้อถอย สุดท้ายสิ่งที่ได้รับคือความศรัทธาและไว้วางใจ ส่งลูกมาเรียนอย่างมากมาย ไกลแค่ไหนก็อยากย้ายลูกมาเรียน

      โรงเรียนเพิ่มความสง่างามด้านสิ่งแวดล้อมเข้าไปอีก ให้สะอาด ร่มรื่น เป็นระเบียบเรียบร้อย ก็เท่ากับได้สร้างมูลค่าเพิ่มเติมเต็มให้โรงเรียน เมื่อโรงเรียนน่าอยู่น่าเรียน ก็มีอำนาจต่อรอง มิให้ภาครัฐมาข่มเหงโรงเรียนเล็กได้ง่ายๆ

      ทุกวันนี้ ห้องสมุด โรงอาหารและบ้านพักครู พร้อมให้นักเรียนและครูแลกเปลี่ยนเรียนรู้และอยู่อาศัย น่าจะเป็นตัวเลือกระดับต้นๆของครูและผู้บริหารรุ่นใหม่…เป็นความคาดหวังที่ผมอยากให้เกิดขึ้น เมื่อผมต้องเกษียณอายุราชการ และผมก็ไม่กลัวความผิดหวังด้วย เพราะผมคิดว่าได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด คนที่อยู่ก็ต้องสานต่อหรือแก้ปัญหากันไป..

      ผมไม่เคยคิดต่อว่า..บุคลากรรุ่นแรกๆ ..ทำไมไม่คิดสร้างอะไรไว้บ้าง เช่นเดียวกัน ผมก็ไม่เคยคิดจะเอาบุญเอาคุณกับใคร นอกจากการตอบแทนคุณของโรงเรียน เพราะโรงเรียนนี้ให้ชีวิตแก่ผม เหมือนได้เกิดใหม่ เคยป่วยเกือบตายก็หายป่วย ช่วยให้ผมได้เรียนรู้ศาสตร์พระราชา ทำให้ผมระลึกถึงและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของรัชกาลที่ ๙ และรัชกาลที่ ๑๐ ทำให้เป็นข้าราชการทำงานรับใช้แผ่นดิน มีเงินเดือนไว้กินใช้อย่างสบายและส่งลูกเรียนจนจบ

      คงไม่มีอะไรให้ต้องเสียใจหรือต้องผูกพัน เพราะผมเฝ้ารอนาทีแรกของวันเกษียณ..เพื่อที่จะเดินทางสู่สวนเกษตรแบบไร่นาสวนผสม และหาเวลาเที่ยวชมธรรมชาติกับคนที่รู้ใจ…ต้องรีบไปก่อนที่จะขับรถไม่ไหว…

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๒๖  ตุลาคม  ๒๕๖๔  

หมายเลขบันทึก: 692999เขียนเมื่อ 26 ตุลาคม 2021 20:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 ตุลาคม 2021 20:23 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

โรงเรียนสวยน่าอยู่มากค่ะ สมศักดิ์ศรีของความเป็นครู เราทำวันนี้ให้ดีแล้ว วันข้างหน้าขอให้ภาคภูมิใจค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท