ปลูกกล้วยน้ำว้าเยอะ ถึงเวลาออกเครือพร้อมกันไม่รู้เอาไปไว้ไหน กินเองก็กินไม่ทัน จะทำกล้วยตากหน้าฝนก็ทำไม่ได้ อบก็เปลืองค่าไฟไม่น่าคุ้ม จะขายให้คนซื้อมาตัดก็ไม่มากพอเสียอีก ที่ผ่านมาจึงเน้นแจกญาติสนิทมิตรสหาย สุดท้ายจำเป็นต้องตัดกล้วยออกเกือบหมด เหลือไว้กินบ้างเล็กๆน้อยๆ
ยังจะหัวปลีอีก ขนาดเหลือกล้วยไม่กี่กอ วานก่อนตัดมาต้มยำมื้อกลางวัน มื้อเช้าไม่กินข้าวมานานแล้ว ซึ่งไม่ค่อยถูกต้องนัก ทางการแพทย์บอกสมองส่วนความจำอาจเสื่อมเร็ว สงสัยตัวเองเรื่องนี้มากๆ(ฮา) มื้อเย็นหากินอย่างอื่นไปเรื่อยเปื่อย ขนม ผลไม้ ฯลฯ โดยงดกินข้าวมาเป็นระยะๆ ตามน้ำหนักตัวและปัญหาสุขภาพ "ไม่เห็นโลงศพมิหลั่งน้ำตา"กระนั้น(ฮา)
ต้มยำลักษณะนี้ ส่วนใหญ่ใช้ความเปรี้ยวจากมะขามเปียกด้วยกันทั้งนั้น นึกดูถ้าเปลี่ยนเป็นมะนาวคงไม่ค่อยเข้ากันจริงๆหรือแค่ความรู้สึกติดยึดของบรรดาอนุรักษ์นิยม(ฮา) เปรี้ยวมะขามแม้ไม่จี๊ดเท่า แต่ความกลมกล่อมแล้วละมุนกว่าชัดเจน
กะทิกล่องอีกอย่างปัจจุบันสะดวก ไม่ต้องมาขูดมาคั้นเหมือนสมัยเด็กๆ ทั้งที่รู้ไม่ดีต่อร่างกาย แต่ต้มสไตล์โบราณๆอย่างนี้ ไม่ใส่กะทิจะอร่อยได้ยังไง(ฮา) ก่อนปิดฝาหม้อปลงลงจากเตา แต่งหน้าแต่งกลิ่นด้วยใบมะกรูดฉีก ผักชีใบเลื่อย รวมถึงพริกแห้งที่คั่วจนหอมเป็นลำดับท้ายสุด เป็นอันเสร็จพิธี(ฮา)
บางครั้งรู้อยู่เต็มอก อะไรดี อะไรไม่ดี อะไรประโยชน์ อะไรโทษ แน่นอนว่า "กินเพื่ออยู่ ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน" ทว่าพูดง่ายทำยาก ยิ่งผู้มีกิเลสหนา ประสาคนชอบกิน(ฮา)
ไม่มีความเห็น