เนื้อหา HOW TO MIND: Mentalist In New Destination
Mentalist นักอ่านใจให้ฝึกอย่างไร
In ภายในให้สุขฝึกอย่างไร
New Destination มีเป้าหมายใหม่ให้ชีวิตคิดดีพูดดีทำดี
เนื้อหาวิชาการแบบ Interactive Learning in Realistic Life (Cooperative to Collaborative Lifelong Learning)
แผนที่สมองภายในใจ
Brain Mapping Performance In Mind
งานวิจัยในปี 2020 Francesca[1] จาก University of Bari, Italy ได้พิสูจน์ทฤษฎีระยะห่างทางสังคม (social distancing) ปฏิสัมพันธ์การช่วยเหลือหรือความมีน้ำใจระหว่างกลุ่ม (intergrop helping) ผ่านการวัดคลื่นสมองขณะใช้ภาพเสมือนจริง พบว่า ตัวชี้วัดความเอาใจใส่ (Empathic interest index) ในแบบสอบถาม[2]จะมีความสัมพันธ์กับระดับการคาดหวังต่อสังคม ซึ่งวัดได้จากตัวชี้วัดความสุขสงบ (calmness index) หรือกับตัวชี้วัดการเข้าร่วม (engagement index) จากคลื่นสมองที่มีความถี่แตกต่างกัน ขณะที่ตัวชี้วัดความตื่นตัว (aleartness index) จากคลื่นสมองที่มีความถี่แตกต่างกัน จะมีความสัมพันธ์กับ ตัวชี้วัดภาวะตึงเครียดรายบุคคล (personal distress) ในนักศึกษาผิวขาวมหาวิทยาลัยหนึ่งในประเทศอิตาลีจำนวน 40 คน โดยจะเกิดจากอารมณ์วิตกกังวลเมื่อมองเห็นปฎิสัมพันธ์ระหว่างคนแปลกหน้า (intergroup anxiety) ที่มีผิวสีและการแต่งกายตามชนชั้นทางสังคมทั้งผู้ให้กับผู้ขอความช่วยเหลือ[3] จากงานวิจัยนี้จะนำมาประยุกต์สู่การบริหารจัดการคนเก่งในองค์กร (talent management, TM) ซึ่งในปีเดียวกัน Dinçer[4] จาก Uskudar University, Turkey แนะนำให้ใช้ตัวชี้วัดด้านปฎิสัมพันธ์ที่เข้ากันได้ระหว่างคนเก่งในองค์กรกับผู้เชี่ยวชาญในการวัดคลื่นสมอง เรียกว่า Neuro Talent Management หรือ NTM ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมเพื่อการดึงศักยภาพของคนเก่งรายบุคคลได้อย่างเป็นรูปธรรม และกำลังเสริมกระบวนการทำงานด้านการบริหารและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์โดยไม่เน้นการวัดคลื่นสมองที่มุ่งวิเคราะห์ระดับปัญหาจากการทำงานมากจนเกินพอดี แต่เน้นกระตุ้นภาวะผู้นำตามธรรมชาติที่ซ่อนอยู่ถึง 95% ด้วยความคิดบนพื้นฐานอารมณ์วิตกกังวล เพราะขาดปฏิสัมพันธ์ในที่ทำงานที่สนับสนุนให้เอื้อต่อการแสดงศักยภาพสูงสุดของคนดีมีน้ำใจได้คิดนอกกรอบเพื่อเรียนรู้ในการเข้าร่วมพัฒนาตนเองและช่วยเหลือทีมงานตามพันธกิจขององค์กรอย่างตื่นตัวและมีวิสัยทัศน์ต่อองค์กรอย่างรู้แจ้งเพื่อตัดสินใจแก้ไขปัญหาอันซับซ้อนได้อย่างรวดเร็วด้วยอารมณ์แห่งความสุขสงบ โดยมีการตรวจวัดคลื่นสมองที่มีความถี่แตกต่างกันและการมีระบบพี่เลี้ยงคอยติดตามศักยภาพสูงสุดที่คนทำงานแต่ละรายบุคคลได้ดึงออกมาใช้ในหน้างาน พร้อมได้รับรางวัลหรือสวัสดิการพิเศษด้วยการมีระบบที่ปรึกษาคอยให้โปรแกรมแนะนำถึงการพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่องและหลากหลายตามตำแหน่งต่าง ๆ ของสมอง โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยในการทำงาน (neuroergonomy) ความเข้าใจในบุคลิกภาพของคนทำงาน (personality neuroscience) ความเชื่อมั่นกับเที่ยงตรงต่อการประเมินคนเก่งและดีจริง (talent assessment) และความสามารถในการวิจัยระบบ NTM ข้างต้นอย่างยั่งยืน
ดังนั้นนวัตกรรมการวัดแผนที่สมอง หรือ Brain Mapping Performance (BMP) ของทีม In Mind จึงเกิดขึ้นด้วยการวิจัยและพัฒนาการประเมินคนเก่งและดีจริง พร้อมให้คำปรึกษา Life Balance แก่คนทำงานแต่ละรายบุคคล ประกอบเป็น 3 โปรแกรมได้แก่
1. การวัดความคิดบวกและคำชี้นำความคิดผิดพลาด อ้างอิงจากระบบประสาทจิตใต้สำนึก[5] ผ่านแอปพลิเคชัน 4voices
2. การวัดคลื่นสมองขณะเขียนชื่อ-เซ็นชื่อ-เขียนชื่อย้อนกลับ เพื่อคำนวณตัวชี้วัดอัตตาหรือความเห็นแก่ตัวที่มีสุขภาพดี เรียก Egocentric Index (healthy selfishness) ได้แก่ ความคิดสร้างสรรค์ คู่กับ ภาวะนอนไม่หลับ ความคิดยืดหยุ่น คู่กับ ภาวะคิดจำช้า ความเห็นอกเห็นใจ คู่กับ ภาวะย้ำคิดลบ ความเป็นผู้นำ คู่กับ ภาวะหงุดหงิดง่าย
3. การวัดคลื่นสมองขณะใช้แอปพลิเคชัน 4voices เพื่อคำนวณตัวชี้วัดการจัดการความเครียดบวก เรียก Eustress Index จากคลื่นสมอง 7 ตำแหน่งที่เกี่ยวข้องความเห็นอกเห็นใจในอารมณ์ที่มั่นคง หรือ Emotional Empathy
4. การวัดคลื่นสมอง 6 ตำแหน่งของ Mirror Neuron Morality ระหว่างการชมคลิปตัวอักษรกับคลิปเงียบขาวดำด้านการจัดการขยะ เพื่อคำนวณตัวชี้วัดจริยธรรม เรียก Ethical Index เป็นผลลัพธ์ของตัวชี้วัดการมีส่วนร่วม[1]กับ Eustress Index ในข้อ 3 ซึ่งสะท้อนถึงคนทำงานมีส่วนร่วมอย่างมีศักยภาพ (talened employee engagement) ทำให้องค์กรนั้นวางแผนพัฒนาภาวะผู้นำในองค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ (leadership in corporate social responsibility, LCSR)
เอกสารอ้างอิง
[1] D’Errico F, Leone G, Schmid M, D’Anna C. Prosocial virtual reality, empathy, and EEG measures: a pilot study aimed at monitoring emotional processes in intergroup helping behaviors. Appl. Sci. 2020, 10, 1196. https://doi.org/10.3390/app10041196
[2] Batson CD, Fultz J, Schoenrade PA. Distress and empathy: two qualitatively distinct vicarious emotions with different motivational consequences. J. Personal 1987, 55, 19–39.
[3] Stephan WG, Stephan CW. Intergroup anxiety. J. Soc. Issues 1985; 41: 157–75 cited in Stephan WG. Intergroup anxiety: theory, research, and practice. Pers Soc Psychol. Rev 2014;18(3):239-55. DOI:10.1177/1088868314530518
[4] Atli D. Analyzing the strategic role of neuromarketing and consumer neuroscience. Hershey, PA: IGI Global; 2020. Retrieved from DOI: 10.4018/978-1-7998-3126-6
[5] ศุภลักษณ์ เข็มทอง, บรานนี วี. การบูรณาการกิจกรรมบำบัดและการสั่งจิตใต้สำนึกสำหรับคนไทยผู้มีประสบการณ์สุขภาพจิต. วารสารเทคนิคการแพทย์เชียงใหม่ 2559; 49(1): 10-6. DOI: 10.14456/jams.2016.14
ไม่มีความเห็น