การเลือกตั้งคณะกรรมการดำเนินการในสหกรณ์ขั้นมัธยม (secondary cooperative = สหกรณ์ที่มีสมาชิกเป็นสหกรณ์ ) ดั่งเช่น ชุมนุมสหกรณ์ ทั้งระดับจังหวัด หรือระดับประเทศก็ตาม เมื่อ เลือกตั้งผิดวิธี ใช้ one member one vote ที่ควรใช้ในสหกรณ์ขั้นปฐม (primary cooperative = สหกรณ์ที่มีสมาชิกเป็นคน) แบบที่เป็นอยู่ ก็จะเกิด สิ่งที่ตามมาคือ ดังตัวอย่าง
สหกรณ์ ก. มีสมาชิก 10,000 คน
สหกรณ์ ข. มีสมาชิก 10,000 คน
ทั้งสองสหกรณ์มีสมาชิกเท่ากัน
ทั้งสองสมัครเข้าเป็นกรรมการชุมนุม ฯ ทั้งคู่
เมื่อเลือกแบบ one member one vote ที่ควรใช้ในสหกรณ์ขั้นปฐม (primary cooperative = สหกรณ์ที่มีสมาชิกเป็นคน) ในครั้งแรก ก็จะได้คะแนนเท่ากัน เพราะสหกรณ์สมาชิก มีสหกรณ์ละ 1 เสียงเลือกตัวเอง
การเลือกตั้งครั้งต่อมา
สหกรณ์ ข. แตกตัว แยกออกมาเป็น 10 สหกรณ์ สหกรณ์ละ 1,000 คน เป็นสหกรณ์ ข.1 ข.2 ข.3... ข.10
สหกรณ์ ก. และสหกรณ์ ข. เดิม ลงแข่งขันชิงตำแหน่งกรรมการ
สหกรณ์ ก. มี 1 vote เท่าเดิม
สหกรณ์ ข. มี 10 vote
สหกรณ์ ข. ได้เป็นกรรมการ สหกรณ์ ก. ร่วงครับ
ท่านที่อยู่ในวงการสหกรณ์มานาน จะทราบว่ามีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น
วิธีที่ถูกต้อง คือ สหกรณ์ที่มีสมาชิก 10,000 คน มี 10,000 vote
สมาชิก 1,000 คน มี 1,000 vote จึงถูกต้อง เพราะ สหกรณ์ ก. และสหกรณ์ ข. ก็จะมี 10,000 vote เท่ากัน แม้จะแตกตัวออกเป็นสหกรณ์ย่อย มากน้อยเพียงไร จะแตกออกเป้น 100 สหกรณ์ สหกรณ์ละ 10 vote ก็ 10,000 vote เท่าเดิม
และเป็น one member one vote สำหรับสหกรณ์ขั้นมัธยม (secondary cooperative = สหกรณ์ที่มีสมาชิกเป็นสหกรณ์ ) ที่ถูกต้องด้วยครับ
เมื่อการเลือกตั้งไม่คำนึงถึงจำนวนสมาชิกสหกรณ์ก็จะไม่สนใจการรับสมาชิกเพิ่ม แต่จะสนใจการตั้งสหกรณ์ใหม่ ซึ่งการตั้งสหกรณ์ใหม่จะทำให้ cost ต่อหัวในการให้บริการสมาชิกสูงขึ้นครับ
สหกรณ์นั้น สมาชิกมารวมกันเพื่อให้เกิด economies of scale จากการมาใช้บริการ ยิ่งรวมกันมาเท่าใด scale ที่ ecnomized ก็จะยิ่งสูงขึ้น ต้นทุนต่อหัวของการให้บริการสมาชิกจะลดลง ครับ
ยิ่งสหกรณ์มี scale ที่เล็กลงมากต้นทุนต่อหัวของการบริการสมาชิกก็จะมากยิ่งขึ้น
เทคโนโลยี่การสื่อสาร และการให้บริการสมาชิกสหกรณ์ ปัจจุบันทำให้แนวโน้มการควบรวมของสหกรณ์ ให้ใหญ่ขึ้นได้สะดวกขึ้น ด้วย สื่ออีเล็กทรอนิกส์ แต่การเลือกตั้งที่ผิดจากหลักการสหกรณ์สากลที่ 2 ในปัจจุบัน ทำให้สหกรณ์ต้องการแตกตัวลง
อีกสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นและเป็นอุปสรรค์ของการเลือกตั้งที่ถูกต้อง คือในปัจจุบัน รายงานผู้สอบบัญชีของผู้สอบบัญชีภาคเอกชน ส่วนหนึ่งซึ่งเป็นส่วนน้อย จะไม่รายงานจำนวนสมาชิกสหกรณ์ ณ วันสิ้นปี อันนี้ก็เป็นอุปสรรค์ด้วยเช่นกัน ครับ
ผู้เขียนไม่มีพลังพอที่จะเปลี่ยนแปลง สิ่งเหล่านี้ได้ แต่พบแล้วว่าจะมีผู้มาเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้องได้คือ ท่านโควิด 19 นี่เอง ที่จะทำให้สหกรณ์ต้องควบรวมกัน เพื่อให้ scale ที่ economized มีขนาดใหญ่ขึ้น ต้นทุนต่อหัวในการให้บริการสมาชิกสหกรณ์ ลดลง สหกรณ์ไทยจะอยู่ได้
ที่เขียนมาก็ด้วยความห่วงใยในขบวนการสหกรณ์ไทย ซึ่งผมก็เป็นสมาชิก (เจ้าของ) อยู่ด้วย ต้องการจะเปิดผู้ผูกตา ของสหกรณ์ ตามคลิป ข้างล่างนี้ครับ
https://www.facebook.com/100001821626064/videos/1648224768715402/
พีระพงศ์ วาระเสน บ๊อบบี้
นักการสหกรณ์ ด้วยหัวใจ (heart with border)
29 สิงหาคม 2564
หมายเหตุผู้เขียนเขียนถึง กรณี สหกรณ์ขั้นมัธยม(secondary cooperative = สหกรณ์ที่มีสมาชิกเป็นสหกรณ์ ) อย่าได้น้ำไปปนกันกับสหกรณ์ขั้นปฐม (primary cooperative = สหกรณ์ที่มีสมาชิกเป็นคน) นะครับ
ไม่มีความเห็น