วันนี้ผมมาโรงเรียนตามปกติ เพื่อช่วยงานธุรการของโรงเรียน รับ-ส่ง หนังสือราชการและดูแลงานอื่นๆช่วยงานผู้บริหาร คณะครู แต่วันนี้ผมมีอุปกรณ์ใหม่ที่ตั้งใจและคิดไว้นานหลายวันแล้วว่าจะทำงานทดลองเล็กๆสักชิ้น ผมได้เมล็ดพันธุ์ข้าว กข83 หรือมะลิดำหนองคาย จากเพื่อนประมาณ 1 กิโลกรัม ผมเก็บไว้เอง 100 กรัม ที่เหลือนำไปให้ผู้บริหารรุ่นพี่ เพื่อปลูกลงแปลงนาสาธิตของโรงเรียน ผมจัดการหยอดเมล็ดข้าวลงกระถางพลาสติก จำนวน 19 กระถาง เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2564 และวันนี้ข้าวมีอายุ 30 วันแล้ว เริ่มแตกกอครั้งที่ 1 สังเกตว่าข้าวเจริญเติบโตดีตามลำดับ และพบว่าถาดรองก้นกระถางคงจะกักเก็บน้ำไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของต้นข้าว ผมจึงเปลี่ยนเป็นถังน้ำพลาสติกแทน ตลอดเวลา 1 เดือนที่ผ่านมี ครู ผู้ปกครอง แวะเวียนมาชมและซักถามแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องการปลูกข้าว กล่าวถึงการบริหารจัดการแปลงนา พื้นที่เพาะปลูก การดูแลต้นข้าว นอกจากนี้มีนักเรียนบางกลุ่มที่มาส่งงานคุณครูได้เข้าชมและให้ความสนใจข้าวกระถางที่ตั้งเรียงแถวสวยงามหน้าอาคารอำนวยการ คุณครูชั้นอนุบาลบอกกับผมว่า เสียดายที่นักเรียนไม่ได้มาเรียนแบบ On site ไม่ได้นำนักเรียนมาเปิดประสบการณ์และจัดกิจกรรมกลางแจ้งเรื่องการปลูกข้าว เพราะปีการศึกษาที่ผ่านมานั้น ก่อนที่ผมจะมาร่วมงานที่นี่ครูเคยพานักเรียนปลูกข้าวแต่ปรากฎว่าข้าวตายก่อนจะได้เห็นการออกรวง ด้วยสภาพทั่วไปของโรงเรียนไม่มีแหล่งน้ำ ไม่มีบ่อน้ำ ไม่มีเรือนเพาะชำ แปลงผักที่มีก้ไม่ได้ลงมือทำกิจกรรมเต็มที่เท่าที่ควร ผมจึงนำแนวคิดห้องเรียนเกษตรพื้นที่น้อยมาปรับใช้ให้เข้ากับสถานการณ์เมื่อแหล่งเรียนรู้การเกษตรมีจำกัด เราก็สร้างแหล่งเรียนรู้ สื่อการสอนที่สามารถดัดแปลงให้เข้ากับยุคสมัยจึงเป็นที่มาของ “ห้องเรียนเกษตรพื้นที่น้อย”
ไม่มีความเห็น