ลูอิส กลักค์ (Louise Glück) ชีวิตที่ต้องสู้ กับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมปี 2020
ในประเทศที่เขาเจริญแล้ว เขาไม่ได้ยกย่องผู้คนที่ปริญญา หรือยกย่องผู้คนที่เป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ หรือศาสตราจารย์มากไปกว่าผู้คนที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทาง และหลายคนที่ไม่ได้เรียนจบปริญญาก็สามารถเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยได้ บางคนได้รับการแต่งตั้งเป็นถึงศาสตราจารย์พิเศษก็มี
ลูอิส กลักค์ (Louise Glück) เธอเป็นคนมีที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งในสายกวีนิพนธ์ของสหรัฐอเมริกา มีผลงานตีพิมพ์มากกว่า 12 เล่ม ส่วนใหญ่จะเป็นงานกวีนิพนธ์ งานของเธอจะได้รับอิทธิพลจากตำนาน เทพปกรณัม นิทานปรัมปรา เทววิทยา ซึ่งนำมาเชื่อมโยงกับประสบการณ์ชีวิตและมุมมองต่อสังคม สื่อสารออกมาในเชิงอุปมา อุปมัย ในรูปของความฝันเชิงจินตนาการ (imagination) เช่น กวีนิพนธ์เรื่อง ชัยชนะของอคริลิส (The Rriumph of Achilles - 1985) กล่าวถึงสงครามกรุงทรอยในเชิงโศกนาฏกรรมและการสูญเสีย นับว่าเป็นผลงานที่ได้รับความชื่นชมและมีความโด่งดังเป็นอย่างมาก เชื่อว่าแรงบันดาลใจในการเขียนมาจากที่บ้านของเธอถูกไฟไหม้ซึ่งเกิดขึ้นก่อนหน้าที่เธอจะเขียนในปีเดียวกันนั้นเอง หรือ The Wild Iris (1992) กล่าวถึงการสนทนาระหว่างชาวสวนกับเทพเกี่ยวธรรมชาติของชีวิต หรือในกวีนิพนธ์เรื่อง Celestial Music เธอได้เขียนถึงเรื่องราวเกี่ยวกับความรักที่มีต่อธรรมชาติมีใจความสำคัญว่า "when you love the world you hear celestial music" (เมื่อคุณรักโลก จะได้ยินเสียงดนตรีจากท้องฟ้า)
ลักษณะกวีนิพนธ์ของเธอจะออกมาในบรรยากาศที่เกี่ยวกับความตาย ความเหงา ความสูญเสีย ความทุกข์ทรมาน ความสัมพันธ์ที่ล้มเหลว การสำรวจความบอบช้ำทางจิตใจ และการพยายามรักษาฟื้นฟูจิตใจและอารมณ์จากสิ่งเหล่านั้น
ชีวิตในวัยรุ่นของลูอิสประสบปัญหากับสุขภาพ เธอเป็นโรคกลัวความอ้วน หรือ คลั่งผอม (Anarexia Nervosa) อย่างรุนแรง มันรุนแรงในขนาดที่ว่าไม่สามารถเรียนต่อในระดับชั้นมัธยมจนจบได้ แต่เนื่องจากมีนิสัยรักการอ่าน และมีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักเขียนบทกวีมาก เธอจึงสมัครเรียนในหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับการเขียนบทกวี ที่วิทยาลัยซาร่าห์ ลอเรนซ์ (Sarah Lawrence College) และมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย (Columbia University) ซึ่งเป็นหลักสูตรพิเศษไม่มีใบปริญญา
จากนั้นลูอิสก็อุทิตชีวิตทั้งหมดให้กับการเขียนบทกวี และด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจทั้งหมด กับผลงานที่มีคุณภาพ ก็ทำให้เธอได้รับการยอมรับว่าเป็นกวีคนสำคัญของสหรัฐอเมริกา มีรางวัลหลายรางวัลพ่วงท้าย เช่น Pulitzer Prize for Poetry (1993), Bollingen Prize (2001), US Poet Laureate (2003–2004), National Book Award (2014), National Humanities Medal (2015) แล้วท้ายที่สุดเธอก็ได้รับรางวัลโนเบลสาขางานวรรณกรรมในปี 2563 (Nobel Prize in Literature (2020) ได้รับเงินรางวัล 1 ล้านโครนสวีเดน หรือประมาณ 3.6 ล้านบาท
แต่สิ่งที่น่าสนใจมากยิ่งกว่าก็คือ ก่อนที่เธอจะได้รับรางวัลโนเบล เธอได้ถูกรับเชิญให้เป็นศาสตราจารย์พิเศษ สอนการเขียนบทกวีในสถาบันการศึกษาหลายแห่งเช่น วิทยาลัยวิลเลียมส์ในแมสซาชูเซตส์ในฐานะอาจารย์อาวุโสในภาควิชาภาษาอังกฤษ นอกจากนี้เธอยังได้รับการประกาศเกียรติคุณจากหลายองค์กรและหลายสมาคมทั้งภายในประเทศและนอกประเทศอีกด้วย
ลูอิส กลักค์ ตัวอย่างของความมุ่งมั่นและความตั้งใจจริงในการที่จะทำอะไรสักอย่างที่รักให้ประสบความสำเร็จ ผลงานของเธอได้รับการยอมรับจากคนในประเทศและผู้คนทั้งโลก และถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีปริญญามาการันตีคุณวุฒิ แต่ก็มีผลงานที่ยอดเยี่ยมนั่นแหละที่ส่งผลให้เธอได้รับการยอมรับนับถือ ผลงานของเธอนั้นมีคุณค่าทางจิตใจของผู้คน และองค์ความรู้ของเธอนั้นมีคุณค่ายิ่งต่อแวดวงการศึกษาและงานวรรณกรรมโลก
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น