ผู้มีอำนาจ


แต่วันรุ่งขึ้นเท่านั้น ตัวเลขจัดสรรงบเปลี่ยนทันที โดยเฉพาะการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ จากห้าพันเป็นห้าหมื่น จากหัวละสิบเปลี่ยนเป็นหัวละร้อย

สิ้นเดือนถึงต้นเดือนหน้าสภาจะอภิปรายงบประมาณของรัฐอีกแล้ว การจัดสรรงบแทบทุกครั้งมักถูกครหาจากฝ่ายค้านคล้ายๆกันนี้ "ใยงบกลาโหมสูงกว่าสาธารณสุข" ทั้งที่เหตุการณ์ปัจจุบันจำเป็นต้องใช้เงินมากกว่า 

ยิ่งเป็นรัฐบาลสืบเนื่องมาจากการรัฐประหาร และเป็นช่วงที่โรคโควิด-๑๙ กำลังเล่นงานพี่น้องประชาชนคนไทยอย่างหนัก

หวนถึงการจัดสรรงบที่โรงเรียนเมื่อครั้งยังทำงาน ตัวเองชอบบทบาทหมาเฝ้าบ้าน ปากก็ปีจอ(ฮา) แทนที่จะเงียบเข้าไว้ วิพากษ์ให้เขาเกลียดทำไม เพื่อประโยชน์ ขั้นเงินเดือน หรือความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน อย่างนั้นไม่เคยทำ..

ถ้าฉลาดสักนิดควรเลือกอยู่ข้างฝ่ายบริหารอยู่แล้ว(ฮา) แต่ในมุมตัวเองความเป็นครูนั้นสูงส่ง เหตุไฉนจะทำให้ด้อยค่าเป็นแค่สุนัขรับใช้เพราะความตะกละตะกลาม

ช่วงนั้นได้ข่าว ซึ่งเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์แล้ว ว่าโรงเรียนจะซื้อเครื่องตอกบัตรมาใช้แทนการลงนามด้วยมืออย่างที่เคยทำ ถ้าเงินโรงเรียนเหลือเฟือก็ไปอย่าง คงไม่รู้สึกอะไรกัน 

แต่นี่ตามแผนปฏิบัติการที่ไม่ค่อยอยากจะเปิดเผยนัก รูปเล่มก็ไม่มีให้ตรวจสอบ เห็นว่าจัดสรรงบทั้งปีให้สาระวิทยาศาสตร์ทั้งกลุ่มเพียง ๕,๐๐๐ บาท

จากนักเรียนทั้งโรงมากกว่า ๕๐๐ คน หารคร่าวๆหมายถึงอนุมัติให้กลุ่มสาระวิทย์ใช้เงินจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ทั้งปี สิบบาทต่อนักเรียนหนึ่งคน จำได้ไม่ชัดว่าเงินรายหัวที่ ศธ.จัดสรรช่วงนั้นหัวละเท่าไหร่ อย่างไรไม่ต่ำกว่าพันแน่ สำหรับชั้น ม.ต้น และ ม.ปลาย

โดยสรุปคือรัฐจ่ายมาให้โรงเรียนใช้จัดการเรียนการสอนหัวละพันกว่า แต่โรงเรียนแบ่งให้ครูไปใช้สอนวิทยาศาสตร์แค่หัวละสิบบาทเท่านั้น

เรื่องราวสำคัญถ้าจำไม่ผิดเป็นกิจกรรมขึ้นปีใหม่ของครู ผู้บริหารเรียกครูที่ลงชื่อไม่เข้าร่วมเจ็ดแปดคนเข้าพบในห้องส่วนตัว 

ก่อนนั้นออกแบบสอบถามคณะครูว่าประสงค์เข้าร่วมกิจกรรมหรือไม่ ซึ่งเป็นงานเลี้ยงช่วงค่ำที่ร้านอาหาร คงต้องการจะปรามด้วยการอบรมให้สำนึกอย่าได้หืออย่าได้อือ โรงเรียนว่าไงก็ควรจะตามนั้น

ปะเหมาะเคราะห์ดีเลย “ไม่ต้องมาบอกมาแนะดอก เรื่องส่วนตัว แค่นี้จัดการได้” ตัวเองเปิดประเด็นหลังรับฟังจนจบ 

ต่อด้วยความคุกรุ่นอยู่ก่อนจากเรื่องเครื่องตอกบัตรและงบกลุ่มสาระวิทย์ “เอาอย่างนี้ดีไหมที่ว่าจะซื้อเครื่องตอกบัตรสองสามหมื่นอะไรน่ะ แบ่งให้แต่ละกลุ่มสาระใช้ดีกว่า ห้าพันบาทกับเด็กๆทั้งโรงนะหรือ”

วันนั้นเถียงไม่ได้อยู่อย่าง "มีหน้าที่สอนก็สอนไป หน้าที่บริหารเป็นของเขา"(ฮา) แต่ยังอุตส่าห์เถียงในใจ "นี่โรงเรียนผมเหมือนกัน"

แต่วันรุ่งขึ้นเท่านั้น ตัวเลขจัดสรรงบเปลี่ยนทันที โดยเฉพาะการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ จากห้าพันเป็นห้าหมื่น จากหัวละสิบเปลี่ยนเป็นหัวละร้อย โชคดี! นับเป็นบุญของเด็กๆ ตั้งแต่ตั้งโรงเรียนมาไม่เคยได้ถึงห้าหมื่นสักครั้ง(ฮา) 

ดังนั้นจากประสบการณ์แล้ว การจัดสรรงบบ้านเราที่ขึ้นชื่อเรื่องคอร์รัปชั่น จะให้ตรงเผงตามความจำเป็นท่าจะยาก แม้แต่หน่วยงานเล็กๆระดับล่างสุด ซึ่งเห็นได้ง่ายก็ยังบิดเบี้ยว ขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจโดยแท้

หมายเลขบันทึก: 690716เขียนเมื่อ 20 พฤษภาคม 2021 16:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม 2021 13:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท