The Dragon Garrett ผู้พิทักษ์มังกร review

            

             สวัสดีค่ะ วันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสมารีวิวหนังสือที่ชอบสักเรื่อง โดยปกติเป็นคนที่ชื่นชอบหนังสือเป็นเล่มรักการอ่านหนังสือประเภทนิยายและวรรณกรรมมาก ถึงแม้บางทีจะไม่ค่อยมีเวลาหยิบเรื่องที่ดอง ๆ ไว้มาอ่านแต่ถ้าให้เลือกของสะสมที่หวงแหนเท่าชีวิตก็ต้องเป็นหนังสือนี่แหละค่ะ ใครยืมไปต้องรักษาเท่าชีวิตเลยนะคะ5555 

เรื่องที่จะนำมารีวิววันนี้เป็นนิยายแฟนตาซีเก่าเรื่องหนึ่งจากแจ่มใส Magic café สำนักพิมพ์ขึ้นที่ชื่อมีนิยายดังเยอะมาก เรื่องเก่า ๆ สนุก ๆ ที่อยากได้มาเก็บไว้ก็มีเยอะมากเช่นกันค่ะ แต่บางเรื่องก็หาไม่ได้แล้วมือสองเองก็ขายออกเร็วมาก ถ้าใครอยากได้เก็บไว้ก็อย่าลังเลกันคะ สำหรับชื่อเรื่องหนังสือเล่มนี้ มีชื่อว่า The Dragon Garrett ผู้พิทักษ์มังกร เขียนโดย เชิงอรรถ จำนวน 2 เล่มจบค่ะ

เรื่องย่อหลังปก

เล่ม 1 นานมาแล้วที่พันธสัญญาระหว่างมนุษย์และมังกรถูกบัญญัติขึ้น ฐานะของมังกรเฉกเช่นราชา ขณะที่มนุษย์น้อมรับหน้าที่องครักษ์ คอยปกป้องคุ้มครอง แม้พลีกายถวายชีวิตก็ยินดี เมื่อใดก็ตามที่มังกรวางไข่หนึ่งใบ เมื่อนั้นจะมีผู้พิทักษ์ถือกำเนิดหนึ่งคน ระหว่างมังกรกับผู้พิทักษ์จึงผูกพันกันด้วยโชคชะตาแต่นานมาแล้วอีกเช่นกันที่ไม่เคยมีมังกรได้ลืมตาดูโลก ประชากรมังกรใกล้สูญพันธุ์ ที่เหลืออยู่ก็ล้วนถูกผู้พิทักษ์ที่ทรยศต่อข้อสัญญาไล่ล่าสังหาร เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจอันมิควร ดังนั้นเมื่อสัญญาณบ่งชี้ว่ามีมังกรฟักออกจากไข่สำเร็จ...มังกรตัวสุดท้าย การออกตามหามันจึงเริ่มต้นขึ้น ทั้งจากกลุ่มที่ต้องการปกป้อง และกลุ่มที่หมายจะกำจัดมันให้สิ้น เช่นเดียวกันกับผู้พิทักษ์ที่ถือกำเนิดพร้อมกันกับมังกรของตน...แพนเดอรอน การ์เร็ท...โชคชะตาได้ขีดเส้นทางสายใหม่ให้เขาต้องก้าวเดินแล้ว

เล่ม 2 โลกของผู้พิทักษ์กำลังเผชิญกับยุคมืด แสงสว่างแห่งความหวังเพียงหนึ่งเดียวที่ต้องไขว่คว้าและปกป้องก็คือมังกรตัวสุดท้ายที่อยู่ ณ อีกโลก... โลกซึ่งแพนเดอรอน การ์เร็ทจากมา  เพื่อไปให้ทันก่อนมังกรของเขาจะตกสู่มือนักล่า แพนเดอรอนจึงตัดสินใจมุ่งหน้าสู่เส้นทางลัดที่เชื่อมต่อระหว่างโลกทั้งสอง นั่นคือ ‘ประตูมรณะ’ ที่ที่ไม่เคยมีผู้ใดผ่านเข้าไปแล้วรอดชีวิตกลับมา  หากการจะไปให้ถึงยังที่ตั้งของมันก็สิ้นหวังพอกัน เมื่อมันสถิตอยู่ยังหุบเขาตาเดียว ดินแดนของนักเล่นกล สถานที่ซึ่งไม่อนุญาตให้ผู้พิทักษ์ล่วงล้ำโดยเด็ดขาด! นักเล่นกลชิงชังผู้พิทักษ์ การแฝงตัวเข้าไปอยู่ท่ามกลางพวกเขาจึงอันตรายยิ่ง แต่ร้ายที่สุดคือแผนการของเบรสลิน เล่ห์ลวงหลอกอันยากจะรับมือ  คืนวันพระจันทร์สีเงินกระชั้นเข้ามาทุกขณะ เมื่อมันมาถึง นั่นหมายถึงการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่แห่งมหาเวทมนตร์ ความดีงามจะยืนหยัดมีชัยหรือว่าจะถูกความชั่วร้ายกลืนกิน ฝ่ายที่เหลือรอดจะเป็นผู้เขียนประวัติศาสตร์ และกำหนดยุคสมัยใหม่ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด      

เนื้อเรื่องจะเน้นที่การผจญภัยของตัวละครเอกอย่าง แพนเดอรอน และการเติบโตทางด้านความคิดผ่านประสบการณ์ที่พบเจอจากเหตุการณ์ต่าง ๆ เรื่องของมิตรภาพของเพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่ มีตัวละครหญิงที่มีบทเด่นมีฉากกุ๊กกิ๊กนิดหน่อยแต่ไม่ได้เน้นเรื่องความรัก ตัวละครค่อนข้างเยอะ บทบรรยายค่อนข้างละเอียด

ในส่วนของความคิดเห็น

สำหรับเรานิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ภาษาสวยมาก เป็นแนวแฟนตาซีที่ชอบเลยค่ะ ดำเนินเรื่องได้ไหลลื่นวางปมได้ดีระดับนึง แต่ก็ไม่ได้มีความหวือหวามากสำหรับคนที่ชอบนิยายที่ต้องลุ้นมาก ๆ อาจจะเบื่อนิดหน่อย เพราะมันค่อนข้างเรื่อย ๆ ในช่วงแรก เล่าตั้งแต่เปิดตัวตัวละครยาว ๆ ไปไม่ค่อยสลับฉากเท่าไหร่

คาร์แร็คเตอร์ตัวละครในเรื่องมีความเป็นมนุษย์ บางครั้งการกระทำอาจจะขัดใจคนอ่านนิดหน่อยแต่มันคือความเรียลค่ะ เราชอบตรงนี้เพราะมันทำให้ได้คิดอยู่บ่อย ๆ พอมันมีส่วนที่ขัดใจมันก็จะได้หยุดคิดตามทำไห้ไม่ไหลไปกับตัวละครจนเกินไป 

อย่างตัวละครเอกอย่าง “แพนเดอรอน” เป็นคนที่ค่อนข้างเอาแต่ใจ บางครั้งก็ทำนิสัยเสียบ่อย ๆ แต่ก็เข้าใจได้เพราะวางปมตัวละครไว้ค่อนข้างชัด เรื่องข้อคิดที่ได้จากเรื่องก็มีค่อนข้างเยอะ สำหรับเราที่ชัดเจนเรื่องหนึ่งคือความเป็นสีเทาของมนุษย์ จะเป็นตัวละครฝ่ายดีหรือฝ่ายร้ายต่างก็มีเหตุผลในการกระทำของตัวเอง ไม่ว่าเราจะรับเหตุผลนั้นได้หรือไม่ได้แต่ในเมื่อเราไม่ได้เป็นคนที่เผชิญกับความรู้สึกที่ยากลำบากด้วยตัวเองเราก็จะไม่มีทางเข้าใจเหตุผลนั้นได้แท้จริง

ตอนนี้เราไม่รู้ว่ายังสามารถหาซื้อหนังสือได้จากที่ไหนหรือเปล่าเพราะมันเก่ามากแล้ว ตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 2552 ถ้าใครอยากอ่านลองหามือสองจากเว็บดูนะคะ การอ่านหนังสือนอกจากจะเป็นการเพิ่มพูนความรู้แล้วยังช่วยฝึกเรื่องสมาธิด้วยนะคะ เราไม่จำเป็นต้องอ่านแค่หนังสือวิชาการหรือหนังสือเรียน จะเป็นนิยายหรือการ์ตูนก็ดีต่างก็มีประโยชน์ทั้งนั้น ดังนั้น ถ้าพอมีเวลาว่างมาอ่านหนังสือกันเถอะค่ะ