วันนี้ฝนตกแต่เช้า แต่ก็ยังไม่เช้าทันเท่าที่แม่จะลงไปดูเจ้าดอกเห็ด
ฝนทำท่าครึ้มมาตั้งแต่บ่ายวันวาน เราก็นั่งรอแล้วรอเล่า จะรดน้ำต้นไม้ดีไหมน๊อ แล้วสุดท้ายฝนก็ไม่ตก
แต่เช้านี้พอสว่างขึ้นมาก็ครึ้มเชียว ตอนแรกก็นึกว่าจะไม่ตก แต่ที่ไหนได้พอแปดโมงกว่า ๆ ฝนก็เทลงมา เทลงมา เทลงมา...
-------------------
คนเรานี้แดดออกก็ไปว่าให้แดด ฝนตกก็ไปว่าให้ฝน เวลาร้อนก็อยากให้อากาศหนาว เวลาหนาวก็อยากให้อุ่นขึ้น ทุกอย่างอยู่ที่ใจซึ่งไร้ "ความพอดี..."
ถ้าใจไม่มีปัญหา ทุกอย่างก็ไม่มีปัญหา ดังนั้นเหตุปัจจัยของปัญหาจึงอยู่ที่ "ใจ"
การมาปฏิบัติธรรมคือการมาแก้ไขที่จิตที่ใจ ดังนั้นเราจึงปฏิบัติได้ในทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าจะเจอคนหรือสิ่งแวดล้อมใด ๆ ให้เราย้อนกลับมาดูที่ใจของตัวเอง...
ใจของเราทุกข์ไหม ไปยินดียินร้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาไหม อยากให้สิ่งนั้นสิ่งนี้เป็นไปตามที่เราต้องการไหม ถ้ามันเป็นหรือไม่เป็นเราทุกข์หรือไม่ ทุกอย่างจึงต้องกลับกลับมาดูและแก้ไขที่จิตใจของตัวเอง...
-------------------
หลาย ๆ คนมักบอกว่า "ไม่มีเวลาปฏิบัติธรรม" ครูบาอาจารย์ท่านจึงถามว่า เธอมีเวลาหายใจไหม..? ถ้ามีเวลาหายใจ นั่นแหละคือเวลาแห่งการปฏิบัติธรรม...
เมื่อทุกข์ เมื่ออยาก เมื่อเครียด เมื่อคาด เมื่อหวัง ให้กลับมาดูที่ลมหายใจ ลมหายใจของเราเป็นอย่างไร หายใจสั้นไหม หายใจทันไหม..?
เมื่อตื่นเต้น เมื่อดีใจ เมื่อหัวเราะ เมื่อได้สิ่งใด ๆ ที่เหนือความคาดหวัง ลมหายใจของเราเป็นอย่างไร หายใจสั้นไหม หายใจทันไหม..?
เราจึงเห็นหลาย ๆ คนเมื่อเสียใจก็เป็นลม
เราจึงเห็นหลาย ๆ คนเมื่อดีใจมาก ๆ ก็เป็นลม
ทำไมถึงเป็นลม..? ก็เพราะว่าลมหายใจมันไม่พอ
-----------------
คำว่าเป็นลมนี้ โบราณท่านช่างแยบยลเสียจริง ๆ ...
เมื่อคนหมดสติ ท่านจึงให้อุบายว่า ต้องเป็นลมนะ ถือหายใจเอาลมเข้าไปในร่างกายนะ
ถ้าเราสังเกตุดี ๆ ตอนเราดีใจ เสียใจ ลมหายใจของเราสั้น ทำให้ระบบร่างกายของเรานั้นแปรปรวน ระบบสูบฉีดโลหิตผิดพลาด เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ สุดท้ายก็จำเป็นต้อง "เป็นลม"
เมื่อเป็นลมคนก็เอายาดมยัดจมูกเรา...
เคยสงสัยนะ ว่าทำไมต้องเอายาดมยัดจมูก
ยิ่งสงสัยมากกว่า ถ้ามีหน่วยปฐมพยาบาลก็จะเอาไม้พันสำลีแล้วจุ่มอะไรในขวดแก้วสีน้ำตาล ๆ ให้เราดม... เมื่อดมแล้วต้องรีบฟื้น เพราะกลิ่นช่างรุนแรงจริง ๆ ...
เคยถามนะว่าทำไมต้องให้ดมเจ้าแอมโมเนียด้วย ก็ได้คำตอบเบื้องต้นว่า เจ้าสารชนิดนี้ไปกระตุ้นอวัยวะในระบบทางเดินหายใจ โดยไปทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุของโพรงจมูก ทำให้เราต้องรีบหายใจ หายใจ และหายใจ
เมื่อหายใจมาก ลมก็เข้าไปมาก จากร่างกายที่เย็น มือเท้าที่เย็น ก็เริ่มมีธาตุไฟเข้าไปมากขึ้น
เพราะเมื่อใดที่มีลม เมื่อนั้นไฟก็จะโหมกระพือขึ้น
ทุกอย่างเป็นเหตุ เป็นปัจจัยซึ่งกันและกัน
ธรรมะนั้นก็คือธรรมชาติ... ธรรมชาติแห่งดิน น้ำ ลม ไฟ ที่ผสมผสมความลงตัวซึ่งกันและกัน
------------------
ทำไมฝนตก ก็เพราะธรรมชาติปรับความสมดุล...
ที่ไหนฝนเคยตก ก็ตกอยู่ที่นั่น เพราะที่นัั้น "สมดุล"
ที่ไหนฝนไม่เคยตก ไม่ค่อยตก ถ้าตกขึ้นมาล่ะก็กลายเป็นพายุฤดูร้อนเลยทีเดียว
เมื่อขาดมากก็ต้องหนักหน่อย เมื่อร้อนมากลมก็มาแรง (ไม่หน่อย)
ที่ใดคลายความร้อนช้า ลมก็พัดเข้ามา พัดเข้ามา
ธรรมชาติเขานำความเย็นมาดับร้อนอยู่เป็นปกติ แต่ที่มันหนักถึงขั้นเป็นพายุนั้นก็เพราะว่ามันร้อนผิดปกตินั่นเอง
จิตใจเราก็เหมือนกัน ถ้าร้อนมาก ๆ เวลาลมอะไรมันเข้ามามันก็จะสามารถทำความเสียหายให้เราได้มากเช่นเดียวกัน
ดังนั้น จึงควรทำจิตใจของเราให้มีความเย็นร้อนอ่อนแข็งให้ได้สมดุล จะหนักไปร้อนบ้าง เย็นบ้างก็ได้ แต่อย่าให้เอนเอียงไปข้างหนึ่งมากเกินไป เพราะเวลาที่จิตใจเขาปรับความสมดุล จะทำให้เราเสียศูนย์ เสียหลัก ถูกกระหน่ำแทบไม่มีเวลาพัก จนกระทั่งทุกสิ่งทุกอย่างจะกลับคืนสู่ความ "สมดุล..."
ไม่มีความเห็น