ข้อเสียของการนอนไม่เพียงพอ! +แชร์ประสบการณ์การปรับเวลานอนที่ทำได้ง่ายๆสำหรับคนนอนไม่หลับ


การนอนหลับและพักผ่อนให้เพียงพอนั้น ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญต่อการใช้ชีวิต เพราะถ้าหากว่าคนเรานั้นนอนหลับและพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็จะส่งผลเสียตามมาอย่างมากมาย โดยผมนั้นก็ได้รวบรวมข้อมูลและผลเสียต่างๆจากการนอนไม่เพียงพอและประสบการณ์การปรับเวลานอนสำหรับคนที่นอนไม่หลับที่ทำได้ง่ายๆและมีประสิทธิภาพของตัวผมเอง มาแชร์ให้เพื่อนๆได้อ่านกันครับ..


ผลเสียของการนอนไม่พอ

- ทำให้สมองทำงานช้า 

เพราะเมื่อคุณนอนน้อย สิ่งที่จะตามมาหลังจากตื่นนอนก็คือ อาการมึนงง เบลอ เนื่องจากสมองนั้นทำงานช้า ซึ่งจะทำให้ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะดูช้าไปหมด แถมประสิทธิภาพในการทำงานของสมองก็ยังด้อยลงด้วย

- ร่างกายอ่อนเพลีย

เพราะการที่คุณนอนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ ก็จะทำให้ร่างกายนั้นรู้สึกอ่อนล้า อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ทำให้ใช้ชีวิตได้ลำบาก ซึ่งไม่ดีเอาซะเลย หากรู้ว่าจำเป็นจะต้องจะใช้แรงหรือร่างกาย ก็ควรจะพักผ่อนให้เพียงพอไว้จะดีกว่า

- ความจำแย่ลง

เนื่องจากสมองของคนเรานั้นต้องการการพักผ่อนที่เพียงพอ เพื่อที่จะทำให้สามารถจดจำสิ่งต่างๆได้ดี แต่ถ้าหากว่าคุณนอนน้อยมากๆ ก็จะทำให้สมองในส่วนของความจำนั้นทำงานแย่ลง และอาจมีอาการหลงๆ ลืมๆ ตามมา และในอนาคตหากมีอายุมากขึ้นก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอัลไซเมอร์อีกด้วย

- สายตาแย่ลง

การนอนน้อยเกินไป นอกจากจะส่งผลให้สมองทำงานช้าลงแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสายตาอีกด้วย ซึ่งจะทำให้ดวงตานั้นอ่อนล้า อีกทั้งประสิทธิภาพในการมองเห็นก็จะแย่ลง โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานอยู่กับคอมพิวเตอร์และต้องจ้องมองเป็นเวลานานๆ ถ้าหากพักผ่อนไม่เพียงพอก็จะทำให้ดวงตาเสื่อมไวด้วยเช่นกัน

- น้ำหนักขึ้น

เนื่องจากระบบการเผาผลาญต้องใช้เวลาเพื่อการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ หากคุณนอนน้อยยังไม่พอ หากคุณนอนดึกหรือมีปาร์ตี้ ก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกหากน้ำหนักของคุณจะไม่ขึ้น เพราะตามปกติคนเราควรจะกินข้าวก่อนนอนอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงเพื่อให้ร่างกายย่อยอาหารเพื่อไปใช้กับร่างกายตอนคุณนอน หากแต่การกินเยอะๆแล้วนอนทันทีทำให้ร่างกายเผาผลาญไม่ทัน ดังนั้นไขมันจึงไปสะสมต่างส่วนของร่างกายแทนนั่นเอง

- สิวขึ้น

เมื่อคุณนอนน้อยร่างกายก็จะได้รับการซ่อมแซมน้อยลง ประกอบกับถ้าหากมีความเครียดสะสม ก็จะทำให้เป็นสิวบ่อยๆได้ ซึ่งคนที่นอนน้อยเป็นประจำจะสังเกตได้เลยว่ามีสิวขึ้นบ่อยมากอีกด้วย


ความต้องการในการนอนหลับของคนเรานั้นมีไม่เท่ากันเนื่องจากขึ้นอยู่กับอายุ โดยทารกต้องนอนละวันละ 16 ชั่วโมง วัยรุ่นต้องการวันละ 9 ชั่วโมง และผู้ใหญ่ต้องการวันละ 7-8 ชั่วโมง แต่วงจรการใช้ชีวิตในปัจจุบันของเรานั้นเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ผู้คนมีวิถีชีวิตที่แตกต่างจากอดีต จนนำมาสู่การเกิด “โรคนอนไม่หลับ” หรือ Insomnia ซึ่งมีรูปแบบของอาการมากมาย เช่น การนอนไม่หลับ การนอนหลับไม่สนิท การหลับๆ ตื่นๆตลอดทั้งคืน การตื่นขึ้นมากลางดึก การตื่นเช้าผิดปกติ และการตื่นมาแล้วไม่สดชื่น เป็นต้น


สาเหตุของการนอนไม่หลับ

- ปัญหาสิ่งแวดล้อม เสียงดังรบกวน สว่างเกินไป หรือคับแคบเกินไป ทำให้นอนหลับยาก

- อาการเจ็บป่วย เช่น ปวดท้อง ปวดตามเนื้อตัว เป็นโรคเกี่ยวกับการนอนหลับ มีปัญหาเรื่องระบบการหายใจ มีอาการไอ

- ความเครียด อาการวิตกกังวล แรงกดดัน หรือมีอาการซึมเศร้าและท้อแท้ หมดกำลังใจ หมดหวังในการใช้ชีวิต คิดว่าตัวเองไร้ค่า ยึดติดและอยู่กับตัวเองมากเกินไป

- แอลกอฮอล์ คาเฟอีนในกาแฟ บุหรี่ หรือการใช้ยาบางชนิดนั้นอาจส่งผลเกี่ยวกับการนอนหลับ

- ท้องว่าง ทำให้เกิดอาการอึดอัด หิวขึ้นมาในช่วงดึก หรืออิ่มมากเกินไป จนทำให้มีอาการแน่นท้องกลางดึก จนนอนไม่หลับ

- ภาวะการนอนหลับ เช่น การนอนละเมอ ฝันร้าย หรือนอนไม่หลับจนติดเป็นนิสัย

- หน้าที่การงานที่ต้องเปลี่ยนเวลาการนอนอยู่สม่ำเสมอ เช่น พยาบาล ยาม


ทั้งนี้หากเราอดนอน หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ จะส่งผลเสียกับร่างกายทำให้ระบบร่างกายทำงานติดขัด จะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดความดันโลหิตสูง และปัญหาด้านระบบหลอดเลือดหัวใจ ระบบภูมิคุ้มกันทำงานโดยมีประสิทธิภาพลดลง หายจากโรคต่างๆ ได้ช้าลง มีผลต่อการเจริญเติบโต มีการซ่อมแซมเนื้อเยื่อส่วนที่สึกหรอได้ลดลง ฟื้นตัวจากโรคได้ช้า ร่างกายมีภาวะอ่อนเพลีย ส่งผลต่อระบบเผาผลาญ ร่างกายต้องการอาหารมากขึ้น มีอาการป่วย เช่น คลื่นใส้ ปวดศีรษะ ท้องผูกหรือท้องเสีย กล้ามเนื้อทำงานได้ไม่เต็มที่ กล้ามเนื้อทำงานได้ลดลง หรืออ่อนแรง อ่อนเพลีย มีผลทางด้านจิตใจและอารมณ์ เช่น โกรธง่าย มีอารมณ์แปรปรวน ไม่คงที่ ซึมเศร้า และมีอาการเฉื่อยชา ไม่อยากทำอะไรเลย เพราะฉะนั้นจึงต้องดูแลร่างกายให้ดี การพักผ่อนนอนหลับนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญ ไม่แพ้เรื่องการบริโภคหรือการออกกำลังกายเลย..


แชร์ประสบการณ์การปรับเวลานอนที่ทำได้ง่ายๆและมีประสิทธิภาพสำหรับคนนอนไม่หลับ+++

ต้องขอเกริ่นก่อนเลยนะครับว่า ส่วนตัวแล้วเนี่ยผมเป็นคนที่นอนค่อนข้างดึกเป็นประจำเลยครับ เนื่องจากผมชอบใช้เวลาไปกับการดูหนัง ฟังเพลง และก็ดูบอลบ้าง อะไรประมาณนี้ครับ ซึ่งก็มีอยู่หลายครั้งเลยล่ะครับที่อยู่โต้รุ่งจนถึงเช้า อีกทั้งตัวผมเองยังเป็นคนที่หลับได้ค่อนข้างยากมากๆอีกด้วย ซึ่งเป็นปัญหาอย่างมากเลยครับในการที่จะปรับเวลานอน ซึ่งถ้าหากว่าเป็นช่วงปิดเทอมก็ว่าไปอย่าง เพราะไม่ต้องมานั่งกังวลว่าจะตื่นสายหรือเปล่า ไม่ว่าจะสายหรือบ่ายแค่ไหนก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะไม่ได้มีเหตุการณ์สำคัญหรือมีความจำเป็นใดๆที่จะต้องตื่นเช้าใช่ไหมล่ะครับ ฮ่าๆๆ แต่เมื่อถึงช่วงเวลาที่จะเปิดเทอมซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องตื่นเช้าไปเรียนหรือติดภารกิจที่จะต้องไปทำอะไรสักอย่าง ที่มีความจำเป็นจะต้องตื่นเวลาเช้าๆเนี่ย ก็มักจะกลายเป็นเรื่องยากสำหรับผมไปเสียทุกทีเลยครับ จนผมนั้นได้ศึกษาและหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตและได้นำวิธีเหล่านั้นมาทดลองใช้กับตนเองดูว่ามีวิธีไหนบ้างที่เวิร์คหรือไม่เวิร์คอย่างไร ซึ่งวันนี้ผมก็ทำการสรุปเทคนิคที่ผมใช้ในการปรับเวลานอนแบบง่ายๆมาแชร์ให้กับเพื่อนๆได้นำไปทดลองใช้กันครับผม..

วิธีปรับพฤติกรรมการนอนสำหรับคนที่นอนไม่หลับ
1. ไม่ควรใช้เวลาอยู่บนเตียงนานๆ โดยที่ไม่หลับด้วยความคิดที่ว่าอยากจะชดเชยการนอนให้มากที่สุด เพราะการกระทำลักษณะนี้จะยิ่งทำให้คุณภาพการนอนยิ่งแย่ลง และเกิดความไม่ต่อเนื่องของการหลับได้มากขึ้น
2. ถ้าเกิดจะงีบหลับในช่วงบ่าย อาจจัดเวลางีบหลับให้เป็นประจำสม่ำเสมอ โดยไม่ควรเกิน 1-2 ชม. และไม่ควรงีบหลับหลัง 15.00 นาฬิกา เพราะอาจมีผลต่อการนอนหลับในคืนนั้น
3. หาเวลาออกกำลังกายให้เหมาะสมกับสุขภาพร่างกายเป็นประจำสม่ำเสมอเป็นเรื่องสำคัญ เพราะว่าการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะทำให้ร่างกายเนี่ย มีการใช้พลังงาน ซึ่งจะทำให้เรานั้นรู้สึกง่วงและหลับได้ดีในตอนกลางคืน (โดยส่วนตัวผมว่าวิธีนี้ค่อนข้างเวิร์คที่สุดเลยครับ)
4. และเมื่อเพื่อนๆเริ่มนอนเป็นเวลามากขึ้นและตื่นนอนในตอนเช้าได้บ้างแล้ว ก็ควรตื่นนอนในตอนเช้าให้เป็นเวลาทุกวันสม่ำเสมอ

โดยสุดท้ายนี้นะครับ การที่เราจะปรับตัวให้นอนหลับและตื่นนอนให้ได้ตามที่เราต้องการเนี่ย ก็จะจำเป็นที่จะต้องมีวินัยกับมันและต้องใช้เวลาพอสมควรเลยล่ะครับถึงจะเห็นผลครับผม..










      หมายเลขบันทึก: 689987เขียนเมื่อ 12 เมษายน 2021 00:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 เมษายน 2021 19:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


      ความเห็น (0)

      ไม่มีความเห็น

      พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
      ClassStart
      ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
      ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
      ClassStart Books
      โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท