สัก๑๐ปีมาแล้วที่๓จชต.มีครอบครัวชาวพุทธ ๔คนพ่อแม่ลูกน้อย ถูกฆ่าแบบอังกิดเรียกว่า execution style คือให้คุกเข่า/หมอบลงกับพื้น/หน้าผากแตะพื้น แล้วก็ยิงท้ายทอยทีละคน อย่างเลือดเย็น แหล่งข่าวแจ้งว่า การฆ่าหมู่ครั้งนี้เพื่อบอกว่า เป็นพื้นที่ของมุสลิม ห้ามชาวพุทธมาอยู่
อีกสัก ๓เดือนที่ผ่านมานี้ก็มีการฆ่าทำนองนี้อีก ก็เพื่อขับไล่ชาวพุทธออกไป
.
ผข.รู้สึกประหลาดใจมากที่ข่าวทั้งสองนี้ไม่เป็นข่าวใหญ่ในรอบปี แต่กลับเป็นข่าวเล็กๆ ที่ซ่อนๆออกมาตีพิมพ์อย่างเสียมิได้ ชาวมุสลิมผู้รักสันติก็เงียบ ไม่ออกมาด่าว่าพวกเดียวกันเอง พวกชาวพุทธก็ควว่า “ไม่เป็นไร”พร้อมยิ้มรับการสูญเสีย
.
หากกลับกัน โดยเอามุสลิมเป็นเหยี่อในสังคมพุทธบ้าง เช่นที่หนอกจอก คุณว่าอะไรจะเกิดขึ้น กลียุคแน่นอน ชาติมุสลิมทั่วโลกจะรุมประนามป.สยำ อาจเลิกขายน้ำมันให้ไปเลยก็เป็นได้
.
ความเมินเฉยของชาวพุทธในเรื่องแบบนี้นี่เองกระมังที่ทำให้ศ.พุทธหายไปจากอินเดีย ก็ด้วยการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยมุสลิมโดยเฉพาะที่มหาวิทยาลัยนาลันทาว่ากันว่าพระตายไปหลายพัน พอหมดพระแล้ว โยมหมดที่พึ่งก็ค่อยเปลี่ยนศาสนาไปเป็นอื่นเสียหมดจนถึงวันนี้
ใน๑๕ไม่๑๕จง ของหลักธรรมศาสน์ จึงกำหนดว่าเราเอียงแก้มให้สามครั้งเท่านั้นนะ จากนั้นเราจะปกป้องชีวิตตนเอง แม้ด้วยตีน
ไม่มีความเห็น