การฝึกจิต เริ่มต้นต้องฝึกที่กาย นำกายมาทำความดี นำกายนี้มาเสียสละ เมื่อเราทำความดีมาก ๆ ทำความดีบ่อย ๆ ทำความดีจนเคยชิน ทำความดีจนเป็นนิสัย เมื่อเราไปในที่ไหน ๆ ร่างกายและจิตใจก็ย่อมคุ้นชินกับการทำความดี
เช่นเดียวกับเมื่อวานนี้ที่พาทีมงานไปเดินป่า พอลงรถปุ๊บ ข้าพเจ้าก็เห็นทีมงานเดินไปทางหลังรถ แล้วร่วมมือกันขวนขวายในการเก็บขยะ
ไม่ต้องถามว่าขยะของใคร แต่นี่แหละ คือ โชค คือ โอกาสในการทำความดี
เมื่อเราเห็นขยะทิ้งเกลื่อน การที่เราไปบ่นว่าเขาย่อมทำให้จิตใจของเราเศร้าหมอง
ให้เรามองขยะเหล่านั้นเป็นทองคำอันล้ำค่า ซึ่งจะใช้นำมาเพื่อพัฒนาจิตใจให้ได้ทำความดี
ฉะนี้เอง... การสร้างสัมมาทิฏฐิ ความเห็นถูกต้อง ความเข้าใจถูกต้อง เป็นสิ่งที่สำคัญอันจะนำมาซึ่งการประพฤติปฏิบัติที่ถูกต้อง...
การปฏิบัติธรรมนั้นมิใช่เพียงแค่การเดินจงกรม นั่งสมาธิ แต่การปฏิบัติธรรมนั้น ทำได้ทุกอิริยาบถ
คำว่าปล่อยวาง มิใช่จะมาอยู่สงบ ๆ อยู่เฉย ๆ ไม่ทำอะไร... แต่ถ้าเราเข้าใจเข้าถูกต้องนั้น จะเป็นการทำอะไรทุกอย่างด้วยการปล่อยวาง
ปล่อยวางอัตตาตัวตน... คนทิ้งขยะไว้จะยากดีมีจน เราไม่ต้องสนใจ การทำความดีจนเคยชิน ทำบ่อย ๆ จะทำให้เราปล่อยวางความยึดถือในจิตใจ ว่าเราเป็นหัวหน้า มีตำแหน่ง มีทรัพย์สินเงินตรามากมาย เห็นขยะที่กองอยู่มากมาย ความคิดแว๊บแรกเลยคือ "ฉันต้องเก็บ..."
คนมีอัตตาตัวตนมากจะคิดเยอะ... ใครมาทิ้ง แล้วก็บ่น ๆ ๆ ๆ จากนั้นก็ปล่อยวาง คือ ปล่อยมันไว้นั่นแหละ ไม่ใช่ธุระของชั้น คนรวย คนมีฐานะหน้าที่การงานสูงอย่างชั้น ทำไมจะต้องมาเก็บขยะให้พวกมัน..!
การปล่อยวางที่แท้จริงนั้นจึงเป็นความสุขอย่างยิ่ง... คือ ความสุขที่เราได้อัตตาตัวตนอันเป็นของหนักที่เรายึดถือไว้ภายในจิตใจ เมื่อวางของหนักลงเสียได้ มือไม้ของเราก็เบาสบาย ความทุกข์ทั้งหลายก็ไม่สามารถเข้ามากล้ำกราย เพราะพญามารทั้งหลายหาเราไม่เจอ
เมื่อไม่มีเรา แล้วเขาจะหาเราเจอได้อย่างไร
เมื่อไม่มีตัวไม่มีตน พญามารจะหาเราเจอจากที่ไหน
เมื่อเราทุกคนมีความคิด ความเห็น มีความเข้าใจ อุปสรรคปัญหาต่าง ๆ นั้นไซร้ย่อมแปรเปลี่ยนเป็นโอกาสในการพัฒนาจิตใจให้เดินตามทางที่ประเสริฐได้อย่างแท้จริง...
ไม่มีความเห็น