เย็นวันอาทิตย์สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ เดินทางไปร่วมกิจกรรม ตลาดนัดสาวะถี สู่วิถีสะอาด “นุ่งสิ่น ถือกะต่า มาตลาด เด้อพี่น้อง” โดยภาคีเครือข่ายชุมชนสาวะถี ร่วมกับโครงการ Spark U ภายใต้แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส. ที่โรงเรียนบ้านสาวะถี ตำบลสาวะถี อำเภอเมืองขอนแก่น
ก่อนไปร่วมกิจกรรมจึงมีเป้าหมายว่าจะไปกราบพระขอพร ออนซอนฮูบแต้มสิมอีสานที่วัดไชยศรี บ้านสาวะถี ที่อยู่คนละคุ้มกับโรงเรียน สถานที่จัดงานตลาดนัด ชวนคุณนที เด็กหนุ่มจากสระแก้วที่หอ 12 กับแอปเปิ้ล ผู้คักแนด้านภูมิวัฒนธรรมและคติธรรมวิทยา ร่วมเดินทางไปด้วย คุณนทียังไม่เคยไปดูฮูบแต้ม จึงชวนไปเรียนรู้ “ชุมชน”
ไปถึงสาวะถีก็เข้าวัดก่อนไปโรงเรียน ขึ้น “สิม” ไปกราบพระขอพร และชมสิมและฮูบแต้มแบบผิวเผิน จังหวะของการจะเดินลงจากสิม มองเห็นหน้าต่างช่องผนัง จึงกดชัตเตอร์เก็บภาพไว้ มองไป เห็นปัจจุบันมาเติมเต็มช่องว่างของอดีต เรื่องราวของยุคสมัยที่แตกต่างกัน จึงเติมเต็มกันและกัน การเรียนรู้ “อดีต” ผ่านสถาปัตยกรรมและฮูบแต้มของชุมชนสาวัตถี ท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยมรดกและภูมิปัญญาอันมีค่ามหาศาล ก็จำเป็นต้องเรียนรู้อดีตเพื่อเติมเต็มปัจจุบัน และเรียนรู้ปัจจุบันเพื่อมองย้อนกลับไปอดีต....เพื่อให้เกิด “อนาคต” ที่ยั่งยืน แม้ในทางพระศาสนาจะพยายามปลูกฝังเรื่อง อนิจจา อนิจจัง ความไม่ยั่งยืนคงทน ไม่จีรังยั่งยืน ทุกสิ่งอย่างย่อมเสื่อมสลายหายไปตามกาลก็ตามที แต่ในวิถีของ “ชุมชน” ก็ยังจำเป็นต้องเรียนรู้อดีตเพื่อเป็นต้นทุนสำหรับปัจจุบัน และน่าจะมีผลกับอนาคตไม่มากก็น้อย... จึงมองอดีตเพื่อเรียนรู้ปัจจุบัน และมองปัจจุบันเพื่อเรียนรู้อดีต
28 กุมภาพันธ์ 2564
ไม่มีความเห็น