การทวงถามหนี้
ในการทำธุรกิจถ้ามีการติดต่อ ซื้อ-ขาย แล้วลูกค้าไม่ชำระค่าสินค้าหรือบริการแล้วผ่อนผันไปเรื่อยๆจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของธุรกิจเนื่องจากขาดสภาพคล่องในการดำเนินกิจการและส่งผลกระทบต่อแผนงานที่วางไว้คือไม่เป็นไปตามแผนและบางกรณีอาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของบริษัทถึงขนาดทำให้สูญเสียลูกค้าได้ และบางครั้งอาจรุนแรงถึงขั้นทำให้กิจการหยุดชะงัก
ดังนั้นการเร่งรัดหนี้สินจึงถือเป็นเรื่องสำคัญในการประกอบธุรกิจและเป็นการป้องกันความเสี่ยงให้กับกิจการด้วย
ในที่นี้จะกล่าวถึงกรณีการ เช่า-ซื้อ สินค้า ของสถาบันการเงิน จำพวก บริษัท อิออน เฟสช็อย และบริษัทรับจัดไฟแนนต่างๆ โดยเริ่มแรกทางสถาบันการเงินได้ลดความเสี่ยงในการปล่อยสินค้าดังนี้
1 ดูฐานรายได้และความสามารถในการชำระสินค้า ว่าลูกค้าจะต้องมี Debt ไม่เกิน 95% ของรายได้
2 ดูแหล่งที่อยู่อาศัยของลูกค้าว่าสามารถติดต่อได้
3 ดูความแน่นอนของรายได้และแหล่งที่มาของรายได้
4 ต้องมีบุคคลค้ำประกันด้วย
เมื่อสถาบันการเงินสามารถลดความเสี่ยงในการปล่อยสินค้ากับลูกค้าแต่ละรายแล้วคือลูกค้าที่มาซื้อสินค้าและต้องการ เช่า-ซื้อ หรือผ่อนสินค้า จะต้องผ่านขั้นตอนข้างต้นได้แล้วทางบริษัทจึงจะทำการเซ็นสัญญา เช่า-ซื้อให้ และสัญญาเช่าซื้อตามกฎหมายแพ่ง ม. 572 คือเช่าซื้อเป็นการตกลงเอาทรัพย์มาและจ่ายเป็นงวด ๆ ไป ม.572 ระบุไว้ชัดว่ากรรมสิทธิ์โอนงวดสุดท้าย ในสัญญาซื้อขายผ่อนส่งเป็นงวด ๆ ไป
ถึงแม้ว่าบริษัทจะมีการป้องกันไว้แล้วแต่ก็ยังมีลูกค้า บางรายที่หนีหนี้ ดังนั้นการทวงถามหนี้ เมื่อลูกค้าผิดสัญญา เช่าซื้อ เช่าทรัพย์ หนี้เงินกู้ จำนอง จำนำ เช่า เช่าซื้อ ละเมิด ตั๋วเงิน เช็ค และอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ที่ดิน บ้าน คอนโด รถยนต์ ค่าสินค้า และอื่นๆ เมื่อผิดสัญญาแล้วไม่ว่าจะเป็นสัญญาของเอกชนคนทั่วไป หรือของรัฐ ปัญหาที่ตามมาคือถูกทวงหนี้
การทางหนี้จะมีอยู่ ๒ ประเภท คือ ทวงหนี้ที่ถูกกฎหมาย กับทวงหนี้ที่ผิดกฎหมาย
ทวงหนี้ที่ถูกกฏหมาย พวกเจ้าหนี้มักจะต้องติดตามให้ลูกหนี้ชำระหนี้ หรือคืนทรัพย์สิน หรือให้ส่งมอบทรัพย์ ที่ลูกหนี้
เอาไปเจ้าหนี้สามารถที่จะทวงถามให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้ เพราะจะมีบทบัญัญัติกฎหมายให้สามารถทำได้ไม่ผิดกฏหมาย
๑ . ไปพบลูกหนี้ที่บ้านเพื่อสอบถามเรื่องหนี้สิน
๒ . ทำเป็นหนังสือทวงถามให้ลูกหนี้ชำระหนี้หรือมอบอำนาจให้ทนายความทำหนังสือทวงหนี้แทน
๓ . ยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อขอให้ศาลมีคำพิพากษาให้ลูกหนี้ชำระหนี้พร้อมดอกเบี้ยค้างชำระและดอกเบี้ยผิดนัด
๔ . เมื่อศาลพิพากษาแล้วก็บังคับคดี คือยึดทรัพย์สินของลูกหนี้มาขายทอดตลาดชำระหนี้ตามคำพิพากษา
ทวงหนี้ผิดกฎหมาย มีบางกรณีบทบัญญัติกฎหมายที่เจ้าหนี้ไม่สามารถที่จะทวงหนี้จากลูกหนี้ได้ ถ้าเจ้าหนี้กระทำหรือพยายามที่จะกระทำ หรือใช้ให้ผู้อื่นเป็นผู้กระทำ ต้องถือว่าเป็นการกระทำผิดกฏหมายอาจถึงขั้น
ต้องติดคุกและต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับลูกหนี้ ในการกระทำเองหรือใช้ให้ตัวแทนหรือมอบอำนาจให้ไปทวงหนี้แทน เช่น
๑ . ข่มขู่ , ขืนใจ , ขู่อาฆาต
๒ . ใช้กำลังทำร้าย
๓ . เอาทรัพย์สินไปเฉยๆ
๔ . เอาเจ้าพนักงานบังคับคดีหรือตำรวจมายึดทรัพย์โดยไม่ถูกต้องตามกฏหมาย
๕ . ฟ้องเท็จ คือไม่มีมูลหนี้แล้ว หรือเอาสัญญากู้มาใส่ตัวเลขที่ไม่เป็นจริง และลูกหนี้ไม่ได้ยินยอม
การกระทำ เหล่าหนี้กฏหมายถือว่าผิดเจ้าหนี้ไม่สามารถที่จะกระทำได้ และถ้าเจ้าหนี้ขืนไป
กระทำและการกระทำนั้น ทำให้ลูกหนี้
๑ . ได้รับความอับอายต่อสาธารณชน
๒ . ทำร้ายร่างกายลูกหนี้ , ทำให้เสียทรัพย์
๓ . เอาทรัพย์ของลูกหนี้ไป..โดยที่ลูกหนี้ไม่ยินยอมและยังไม่ได้ฟ้องต่อศาลจนมีคำพิพากษา ถือว่า" ชิงทรัพย์ " เจ้าหนี้อาจติดคุกตามที่กฎหมายกำหนดโทษเอาไว้สูงสุดประหารชีวิต และต้อง
ชดใช้ค่า เสียหายเป็นเงินทางแพ่ง บางครั้งเจ้าหนี้อาจสูญเสียมากกว่าที่ลูกหนี้เป็นหนี้เสียอีก แต่ถ้าเจ้าหนี้ข่มขู่ลูกหนี้ว่า " ถ้าไม่ชำระหนี้จะฟ้องศาล หรือจะเอาตำรวจมาจับไปเข้าคุก( เช็ค) ไม่ถือว่าเป็นการข่มขู่กระทำได้ไม่ผิดกฎหมาย โ
ดยส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้บริษัทสถาบันการเงินจะจ้างบริษัทที่รับทวงหนี้มาทำหน้าที่แทน
เหตุที่ใช้การทวงถามหนี้ในลักษณะนี้เพราะธุรกิจที่สนใจจะเป็นในลักษณะที่ปล่อยสินค้าผ่านบริษัทสถาบันการเงินจัดทำไฟแนนท์จำพวกบริษัทอิออน เป็นต้น
ไม่มีความเห็น