อ่านหนังสือเรื่อง “วิธีต้านอนุมูลอิสระในตัวคุณ” ของสำนักพิมพ์สุขภาพใจ แล้วเกิดความรู้ใหม่ เกิดความเข้าใจระบบการก่อเกิดโรคในร่างกายมากขึ้น แต่ในบางประเด็นเป็นความรู้ใหม่ที่ขัดแย้งกับความเก่าที่เราเคยได้บริโภคมา
อย่างกรณี “ออกซิเจน”
เขาบอกว่ายิ่งร่างกายของเรารับเข้าไปมากและเร็วเท่าใด
ก็ยิ่งทำให้เกิดอนุมูลอิสระในร่างกายของเรามากขึ้น
การที่สิ่งมีชีวิตเคลื่อนไหวเร็วก็จะทำให้เกิดอนุมูลอิสระในร่างกายมากขึ้น
(ซึ่งถ้าในคนปกติก็จะมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่แล้วหากบกพร่องก็จะทำให้เกิดอนุมูลระมากขึ้น)
เช่น เขาเปรียบเทียบหนูกับช้าง ว่า ช้างมีอายุขัยเฉลี่ย 70 ปี
ส่วนหนูมีหลายพันธุ์แต่ส่วนมากมีอายุขัยประมาณ 1 ปี
จะเห็นว่าแม้เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเหมือนกัน
แต่มีอายุขัยโดยเฉลี่ยต่างกันมาก อีกทั้งมีข้อมูลว่าทั้งช้างและหนู
มีชีพจรการเต้นรวมตลอดชีวิตประมาณ 8 ร้อยล้านครั้งพอๆ กัน
แสดงว่าหัวใจของหนูเต้นเร็วกว่าช้างประมาณ 70 เท่า
แต่ปริมาณการใช้ออกซิเจนใน 1 ช่วงอายุขัยต่อเซลล์หรือระบบต่างๆ 1 กรับ
ทั้งหนูและช้างมีปริมาณพอๆ กัน
จึงคำนวนได้ว่าหนูใช้ออกซิเจนเร็ซกว่าช้าง 70 เท่า เพราะ
“ปริมาณการใช้ออกซิเจน เป็นตัวกำหนดความยืนยาวของอายุขัย”
อ่านถึงตรงนี้แล้วก็ทำท่าจะค่อยอยากหายใจเอาออกซิเจนเข้าไปแล้วล่ะค่ะ
แล้วก็ทำให้ชักไม่แน่ใจแล้วว่าการออกกำลังกายจะดีหรือเปล่า
ควรเดินช้าๆ เนิบนาบ หรือ Active ดี แล้วความรู้ที่เคยบริโภคมาว่า
หากเราควบคุมการหายใจ หายใจให้ลึกเอาออกซิเจนเข้าไปให้ลึกสุดปอด
แล้วหายใจออกให้ท้องแฝ้บได้อย่างน้อยวันละ 10
นาทีจะทำให้ระบบไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น ขับพิษ มันงง ๆๆๆๆมาก
แล้วหยุดหายไปวันละ 1 นาทีดีมั้ยเนี่ย