[review] รีวิว The Omen (2006) อาถรรพณ์กำเนิดซาตานล้างโลก


[review] รีวิว The Omen (2006) อาถรรพณ์กำเนิดซาตานล้างโลก เรื่องราวของซาตาน ไม่ว่าจะสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้วกี่ครั้ง ก็ยังมีเสน่ห์ชวนหลงไหลอยู่เสมอ โดยเฉพาะผู้ที่หลงไหลเรื่องราวของปีศาจวิทยา เรื่องราวเหนือธรรมชาติ รวมถึงโชคลาง ความเลวร้ายทั้งหลายที่ไม่สามารถหาเหตุผลมาอธิบายได้ได้ เราก็มักจะโยงไปถึง อำนาจของปีศาจเสมอ ซึ่งใน The Omen ก็สามารถสร้างความสะพรึงกลัวให้กับเราได้อย่างไม่น้อย เรื่องราวจะเป็นอย่างไรเชิญติดตามรับชมรับฟังได้เลยครับ

ดูคลิปรีวิวฉบับเต็มได้ที่นี่

The Omen เปิดเครื่องมาด้วยนักบวชในศาสนาคริสต์ ได้ส่องกล้องดูดาวขึ้นไปในอวกาศ จะเห็นดาวหางสามดวงเขาก็รู้ทันทีว่านั่นคือหนึ่งในรางร้ายที่อยู่ในพระคัมภีร์ จึงรีบไปแจ้งให้กับนักบวชผู้มีสมณศักดิ์สูงกว่าให้รับรู้

ในคืนวันหนึ่งแคเทอรีน ได้ให้กำเนิดบุตรชายในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในอิตาลี แต่เด็กชายก็ได้ตายในทันที เมื่อ โรเบิร์ต ธอร์น เจ้าหน้าที่ทางการทูตฝสามีของเธอมาถึง ก็ได้รับคำแนะนำจากพระรูปหนึ่ง ว่าภรรยาของเขานั้น ยังไม่รู้การตาย ของลูกชาย แต่กลับโชคดีมากที่มีคนไข้อีกรายคลอดลูกแล้วเธอได้ตายลง พระจึงแนะนำให้โรเบิร์ตนำเด็กคนนี้ไปเลี้ยงแทน โรเบิร์ต ก็เก็บเรื่องนี้เป็นความลับไม่บอกแม้แต่ภรรยา เขาตั้งชื่อให้ลูกชายว่าเดเมี่ยน

ชีวิตของเด็กชายคนนี้ในวัยเด็ก ไม่เคยป่วยเลยสักครั้ง ไม่ค่อยพูดค่อยจา และมีสายตาที่ค่อนข้างแข็งกร้าว

วันหนึ่งเอกอัครราชทูตที่กำลังจะไปประจำที่ลอนดอนเกิดเสียชีวิตจากอุบัติเหตุกะทันหัน ทำให้โรเบิร์ตได้เลื่อนตำแหน่งเป็นเอกอัครราชทูตแทน โรเบิร์ต แคเทอรีน และเดเมี่ยนจึงย้ายไปอยู่ที่อังกฤษ

จากนั้นก็เกิดเรื่องราวเหนือธรรมชาติขึ้น ไม่ว่าใครก็ตามที่เป็นคนใกล้ตัวของตระกูลนี้ก็ต้องมีอันเป็นไปอย่างผิดธรรมชาติเช่น พี่เลี้ยงของแคเทอรีนผูกคอตายต่อหน้าสาธารณะชน ซึ่งแน่นอนว่านั่นคืออำนาจของปีศาจร้าย และมีความเป็นไปได้ว่าอัครราชทูตคนเดิมนั้นน่าจะตายด้วยอำนาจนี้ด้วย

เรื่องราวเลวร้ายก็เกิดขึ้นเป็นทวีคูณ ไม่ว่าใครจะตามมายุ่ง หรือมาเตือนโรเบิร์ต จะต้องมีอันเป็นไปทุกราย แม้แต่คนรอบข้างก็ต้องมาตายไปซะหมด แต่โรเบิร์ตก็ดันไม่เชื่อว่าเรื่องราวเลวร้ายนั้นเกิดขึ้นจากอำนาจของปีศาจหรือซาตานตามคำเตือนซะด้วย แล้วตัวเขาก็ไม่ได้เชื่อเรื่องของพระเจ้าด้วย แต่เมื่อเหตุการณ์ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น จนไม่สามารถยับยั้งได้ เขาจึงจำเป็นต้องหาทางหยุดยั้ง อำนาจของซาตานในตัวเด็กชายนี้ให้ได้ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรท่านสามารถติดตามชมได้เองจาก netflix เลยครับ

The Omen เวอร์ชั่นนี้เป็นฉบับรีเมค ซึ่งมีการทำมาแล้วครั้งแรกในปี 1976 เป็นการเล่าเรื่องราวของการกำเนิดบุตรของซาตาน ที่มาพร้อมกับคำทำนายในพระคัมภีร์ ซึ่งสร้างความสะพรึงกลัวให้กับผู้ที่รับรู้เรื่องราวคำทำนายเหล่านี้

หนังได้ทำให้เราเห็นถึงพิษภัยของบุตรซาตาน การตายของแต่ละคนที่เกี่ยวข้องนั้น ก็ล้วนแต่ผิดธรรมชาติ เช่นเอกอัครราชทูตเสียชีวิตจากการถูกไฟคลอกตายในรถยนต์ นักบวชท่านหนึ่งที่เสียชีวิตด้วยถูกยอดแหลมของวิหารเสียบทะลุอกเสียชีวิตในท่ายืนเป็นต้น และรวมถึงเหตุและลางร้ายที่คุกคามชีวิตของผู้คนที่จะเข้ามายุ่งกับเดเมี่ยนและครอบครัวด้วย ให้ความสะพรึงตัวเหล่านี้ในฐานะที่เราเป็นคนดูเราก็สามารถรับรู้ถึงมันได้ จึงจัดได้ว่าเป็นหนังที่มีความน่ากลัวได้ดีมาก แม้จะไม่ใช่หนังผีที่ออกมาหลอกหลอนก็ตาม

โดยส่วนตัวแล้วชอบวิธีการเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้มาก เป็นไปตามสูตรสำเร็จล่ะที่ข้าง ๆ เข้าทางผมเองคือ เกิดเหตุร้ายกับคนใกล้ตัวและครอบครัว ตัวเอกของเรื่องก็ต้องเข้าแก้ไขสถานการณ์ สืบหาจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง มีการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ หลายประเทศ หลายเมืองเพื่อสืบหาเบาะแส สืบหาแนวทางแก้ไข แล้วเมื่อถึงการแก้ไข เขาต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ยาก และในท้ายที่สุดหนังก็จบแบบที่คนดูต้องเหวอ

แต่จุดที่ทำให้ผมชอบเรื่อง The Omen มากที่สุดก็คือการนำเรื่องราวคติความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับซาตาน มาเป็นตัวละครเอกของหนังต่างหาก มีการเล่าเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับคำทำนายในพระคัมภีร์ เราถึงเรื่องราวของปีศาจหรือซาตาน เล่าถึงผู้ที่หลงไหลและบูชาซาตาน ผู้ที่จะกระทำทุกอย่างแม้แต่ยอมสละชีวิตของตนเอง เพื่อรับใช้ซาตาน การใช้สัญลักษณ์ของซาตานหรือการต่อต้านอำนาจพระเจ้าอย่างหมายเลข 666 หมายเลขของสัตว์ร้าย ที่มาจากคัมภีร์วิวรณ์ หนังสือเล่มที่ 27 ไบเบิลพันธสัญญาใหม่ ในบทที่ 13 ถึง 18 กล่าวว่าสัตว์ร้ายหลายตนที่หมิ่นพระเจ้า สามารถเขียนชื่อได้ตรงกับตัวเลข 666 หรือแม้แต่ชื่อของตัวละครอย่าง เดเมี่ยน ที่มาจากคำว่า demon ที่แปลว่าปีศาจ ซึ่งหนังแนะนำเสนอประเด็นเหล่านี้ออกมาได้ดีมาก ประทับใจมาก

การใช้สีของหนังก็ทำได้ดี เป็นสีโทนมืดและหมองหม่น สื่อว่าบรรยากาศของหนังทั้งหมดนั้นถูกคุกคามจากอำนาจของซาตาน และยังใช้เวลาอยู่ในช่วงกลางคืนหรืออยู่ในที่มืดมากกว่ากลางวันหรือที่สว่าง บรรยากาศของหนังมันแทบจะไม่ได้ให้ความหวังเลย เรากลับว่าทุกสิ่งทุกอย่างถูกปกคลุมด้วยอำนาจของซาตาน

ส่วนเด็กที่มารับบทเดเมี่ยนก็เล่นได้ดี แม้จะไม่ค่อยได้พูดหรือสนทนามากนัก แต่เด็กคนนี้กลับสื่อออกมาทางสายตาได้ดีมาก การกระทำบางอย่างของเด็กในเรื่องนั้นจะทำให้เราจนขนลุก โดยเฉพาะสายตาของเด็กในช่วงท้ายของเรื่องนั้นน่ากลัวกว่าสายตาของผู้ใหญ่หลายครั้ง สมควรแล้วที่จะเรียกเดเมี่ยนว่าเป็นเด็กนรกได้อย่างเต็มปากเต็มคำ

ส่วนบทสรุปของเรื่องนั้นผมชอบมาก วิธีการที่จะนำไปสู่จุดจบของเรื่องนั้นชอบมาก ยิ่งภาพตอนจบของเรื่องก็ยิ่งชอบใหญ่ เพราะเหมือนว่าเป็นการส่งสัญญาณมาให้คนดูอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตามโดยส่วนตัวแล้วผมมองว่า หนังก็ยังมีข้อบกพร่องอยู่หลายจุกเช่น บางจุดการเดินเรื่องที่ช้าเกินไป มีความน่าเบื่อบ้าง และถ้าเพิ่มดีกรีของอำนาจซาตาน ที่ส่งผลต่อสถานการณ์ หรือบุคคลต่าง ๆ ได้มากขึ้น จะดีมากกว่านี้ มันอาจจะเพิ่มความน่าสะพรึงกลัวให้กับคนดูได้มากขึ้นอีกก็ได้ครับ

8/10

@วาทิน ศานติ์ สันติ

#SuperReviewChannel #TheOmen2006

#อาถรรพณ์กำเนิดซาตานล้างโลก

#หนังระทึกขวัญ #หนังเกี่ยวกับซาตาน

#Netflix

หมายเลขบันทึก: 688577เขียนเมื่อ 26 มกราคม 2021 13:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 มกราคม 2021 13:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท