นาวาชีวิต.​


#ชีวิตนี้ดุจนาวากลางมหาสมุทร 

...ชีวิตดั่งเรือน้อยล่องลอยอยู่

ต้องต่อสู้แรงลมประสมคลื่น

ต้องอดทนหวานสู้อมขมสู้กลืน

ต้องสดชื่นยิ้มได้แม้ภัยมา

#ประพันธ์โดย พลตรีหลวงวิจิตรวาทการ

#นาวาชีวิต

หากเราเปรียบชีวิตเหมือนเรือหรือนาวา นั่นก็หมายความว่า พวกเราทุกชีวิตกำลังลอยคออยู่ในมหาสมุทรใหญ่ที่สุดในโลก นั่นคือ มหาสมุทรแห่งการเวียนว่ายตายเกิด (ที่ภาษาพระท่านเรียกว่า วัฏฏะสงสาร) หรือ ถ้าจะมองให้แคบมาหน่อย ชีวิตของพวกเราทุกชีวิตกำลังลอยอยู่ในห้วงน้ำ คือ โลกที่เต็มไปด้วยคลื่น ๘ คลื่น ได้แก่

?๑. คลื่น คือ ความอยากได้ อยากมี อยากเป็น ความสมหวัง หรือลาภ

?๒. คลื่น คือ การไม่ได้ ไม่มี ไม่เป็น ความผิดหวัง หรือ เสื่อมลาภ

?๓. คลื่น คือ การได้อำนาจ มีชื่อเสียง ได้ตำแหน่งเป็นที่นับหน้าถือตา มีบริวารแวดล้อมมากมาย หรือ ยศ

?๔. คลื่น คือ การหมดอำนาจ เสื่อมเสียชื่อเสียง ไม่มีตำแหน่ง ไร้บริวารแวดล้อม หรือ เสื่อมยศ

?๕. คลื่น คือ การได้รับคำสรรเสริญเยินยอ การพูดยกย่องจากบุคคลอื่น หรือ สรรเสริญ

?๖. คลื่น คือ การไม่ได้รับคำสรรเสริญใดๆ จากใครเลย มีแต่คนเหยียดหยามดูหมิ่น ด่าว่า หรือ นินทา

?๗. คลื่น คือ ความสุข ความสบาย ไร้กังวลทางจิตใจ

?๘. คลื่นคือ ความทุกข์ใจ โศกเศร้าเสียใจ

คลื่นทั้ง ๘ คลื่นดังกล่าว ในภาษาพระท่านเรียกว่า "โลกธรรม" หมายถึง สิ่งที่มีอยู่ หรือธรรมที่อยู่ประจำคู่กับโลกใบนี้ ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหนก็ตาม คลื่นทั้งแปดนั้นก็ยังมีอยู่ตลอดกาล และพวกเราต้องได้ประสบพบเจอแน่นอน ไม่ช่วงใดก็ช่วงหนึ่งของการเดินทางในทะเลแห่งวัฏฏะนี้หรือในโลกนี้ตลอดระยะเวลาแห่งอายุขัยของเรา

สำหรับคนที่เตรียมพร้อมอย่างดีกับการเดินทาง และเตรียมทำใจล่วงหน้า พกพาอุปกรณ์แก้ไขสถานการณ์ไว้อย่างดี ย่อมสามารถรับมือกับคลื่นทุกอย่างได้ และนำพาชีวิตไปถึงฝั่งได้โดยสวัสดิภาพ แต่สำหรับคนที่ไม่ได้เตรียมการไว้ เมื่อถูกคลื่นมาตีกระหนาบหรือกระทบเข้ากับเรือคือชีวิต ชีวิตย่อมซวนเซจะล่มมิล่มแหล่ หรือบางทีก็ล่มจมไปเลยก็มี

นอกจากคลื่นทั้ง ๘ แล้ว ก็ยังมีเหตุปัจจัยอีก ๒ ประการที่มีอิทธิพลทำให้นาวาชีวิตอาจแตกกระจายหรือจมลงสู่เหวแห่งมหาสมุทรได้ คือ

?๑. "รูรั่ว" รูรั่วในชีวิตของคนเรามีอยู่ด้วยกันหลายประการ เป็นต้นว่า เครื่องดื่มของมึนเมา,เพื่อนชั่ว,การชอบเที่ยวยามราตรี,ชอบดูการแสดงที่นั่นที่นี่,การพนัน และความเกียจคร้านในการทำมาหากิน รูรั่วดังกล่าวนั้น ถ้าเราไม่อุดหรือซ่อมตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น ปล่อยไว้นาน แม้จะรั่วเพียงนิดหน่อย แต่เมื่อนานวันเข้า น้ำก็จะเต็มนาวาได้ และเมื่อใดที่น้ำเต็ม เรือก็จะจมลงเมื่อนั้น

?๒. "ลม" ลมที่มาพัดให้นาวาคือชีวิตแล่นออกนอกเส้นทางไปสู่ฝั่งที่ตั้งใจไว้ก็คือ "ลมคือแรงแห่งกรรมชั่วหรือการกระทำที่ไม่ดี" ลมประเภทนี้ เป็นลมที่เราไม่ต้องการแต่ก็หลีกเลี่ยงยาก เพราะชีวิตคนธรรมดาอย่างเราๆ ท่านๆ นั้น ยังมีนายผู้ทารุณบงการอยู่เบื้องหลัง นายที่ว่า ก็คือ "ตัณหา" ความอยากที่ไร้ขีดจำกัด ตัณหานี่แหละที่ทำให้พวกเรา เผลอไผล เข้าใจผิดคิดว่า สิ่งที่ตนเองทำนั้นถูกต้องหมดแล้ว ดีแล้ว ทั้งที่ในความเป็นจริง การกระทำบางอย่างอาจไม่ใช่ความดีงามถูกต้องตรงตามธรรมชาติก็ได้ และแล้วผลจากการกระทำที่ไม่ดีงามนั้นก็สะสมพลังไว้ รอโอกาสพัดชีวิตของเราไปตามแรงและทิศทางที่มันต้องการให้ไป

ดังนั้น ในการนำพานาวาชีวิตให้ไปสู่ฝั่งอย่างปลอดภัย คนเราจำต้องศึกษาเรียนรู้เพื่อเตรียมรับมือกับ "คลื่นยักษ์" ทั้งแปด พร้อมทั้งป้องกันไม่ให้เกิด "รูรั่ว" ขึ้นภายในเรือลำนี้ แต่ถ้าหากเกิดรูรั่วขึ้นโดยประมาทพลาดพลั้งลืมยั้งคิด ก็ต้องตั้งสติรีบอุดรูรั่วนั้นเสียทันที ไม่ปล่อยทิ้งไว้จนสายเกินแก้ นอกจากนี้ก็ต้องกางใบให้ดีเพื่อจัดการกับ "ลม" สิบทิศ (บวกทิศเบื้องบนและทิศเบื้องล่างด้วย) ที่เราคาดการณ์ล่วงหน้าไม่ได้ว่าจะมาจากทิศไหนก่อนและมาอย่างไร แรงหรือเบา เป็นลมแห่งความหวังดีหรือลมแห่งความโชคร้าย

___การบังคับนาวาชีวิตด้วยหางเสือเรือคือ "สติและปัญญา" จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำตลอดเวลาและทำอย่างเข้มแข็งที่สุดในขณะที่นาวาชีวิตกำลังแล่นไปสู่จุดหมายปลายทางที่เราตั้งไว้ ไม่เช่นนั้นแล้ว นาวาชีวิตของพวกเรา อาจล่มและจมลงสู่ก้นมหาสมุทรอย่างไม่ต้องสงสัย....... 


.... 

หมายเลขบันทึก: 688472เขียนเมื่อ 19 มกราคม 2021 18:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มกราคม 2021 18:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท