ตามหาพระจันทร์


ชีวิตก็เหมือนบทเพลง ต่างลีลา ต่างจังหวะ มีทั้งโศกเศร้าเหงาซึ้ง ทั้งสุขสนุกเริงร่า และแน่นอนว่าคละเคล้ากันไป ยามทุกข์ คงไม่มีอะไรดีกว่าอดทนและรอให้ทุกอย่างผ่านไปในที่สุด ยามสุข ก็คงไม่หลงลืมว่าวันข้างหน้าอาจมีสิ่งเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้

ชื่อเรื่อง : ความสุขของกะทิ ตอน ตามหาพระจันทร์
ผู้แต่ง : งามพรรณ เวชชาชีวะ
จำนวนหน้า ๒๐๑ หน้า

เรื่องย่อ
โลกของกะทิหลังจากที่ต้องสูญเสียแม่ไป ก็มีเสียงจากธรรมชาติริมคลองคอยขับกล่อม และรายล้อมไปด้วยคนที่รักกะทิ แต่กะทิก็ยังคงต้องการความรักและอ้อมกอดจากแม่ กะทิยังคิดถึงแม่และฝันถึงแม่อยู่เนือง ๆ กะทิฝันเห็นแม่วิ่งตามพระจันทร์ที่มีรูปกระต่าย กะทิคิดว่าแม่คงต้องการบอกอะไรบางอย่าง
ในช่วงปิดเทอม น้าฎากับน้ากันต์พากะทิไปที่บ้านกลางเมือง กะทิเอากุญแจรูปพระจันทร์ที่มีกระต่ายอยู่ตรงกลางติดตัวไปด้วย กะทิได้ไปเที่ยวและได้เรียนร้องเพลง นอกจากนี้กะทิกับน้ากันต์ช่วยกันค้นหาสิ่งที่แม่ของกะทิอยากให้กะทิได้รับรู้ จนเจอเทปบันทึกเสียงในกล่อง เป็นเทปที่แม่ต้องการจะพูดกับกะทิ แม่เล่าเรื่องเกี่ยวกับเรื่องราวของแม่และพ่อของกะทิ รวมไปถึงเพื่อนเก่าของแม่ ที่ชื่อ วสันต์ เขาเคยขอแม่แต่งงานหลังจากที่แม่เลิกกับพ่อ แต่แม่ไม่เคยตอบรับเลยจึงเป็นสิ่งที่ค้างคาใจแม่มาตลอด แม่ขอให้กะทิเอาจดหมายและเทปม้วนที่สองมอบให้กับลุงวสันต์
กะทิเอาเทปบันทึกเสียงของแม่ไปฝากไว้กับพี่สาวของลุงวสันต์เพราะช่วงนั้นเขาไปทำงานที่ต่างประเทศ กะทิได้แต่หวังว่าเขาจะจำแม่ได้
กะทิกลับมาที่บ้านริมคลอง ตอนนี้โรงเรียนเปิดเทอมแล้ว ครูให้การบ้านไปคิดโครงการ
เอสเอ็มอีกลุ่มละหนึ่งเรื่อง กลุ่มของกะทิทำซุ้มเกม โดยมีรางวัลใหญ่เป็นปลาตะเพียนสาน งานวันนี้จบลงด้วยดี เย็นวันนั้นกะทิกลับมาถึงบ้านและพบว่าลุงวสันต์มารอกะทิอยู่ที่ท่าน้ำ ทั้งสองได้พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องแม่ของกะทิ และก่อนที่ลุงวสันต์จะกลับ เมื่อเขาจูบกะทิที่หน้าผากของกะทิ กะทิก็รู้สึกได้ทันทีว่า ได้คืนพระจันทร์ที่แม่ทำหายไปให้แม่ได้แล้ว ตอนนี้แม่คงไม่มีสิ่งที่ค้างคาใจกับลุงวสันต์อีกแล้ว

แนวคิด
- เมื่อเรามีอะไรที่ค้างคาใจหรือยังไม่ได้ทำ ควรรีบสะสาง เพราะเราอาจไม่มีโอกาสได้ทำมันอีก
- ความรักและความอบอุ่นจากครอบครัวเปรียบเสมือน ยาใจ ที่ทำให้ผ่านความเศร้าไปได้

แสดงความคิดเห็น
เป็นเรื่องที่เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย เพราะอ่านง่าย เข้าใจง่าย เป็นหนังสือภาคต่อที่ลงตัว และยังให้ข้อคิดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นข้อคิดที่ตากับยายสอนกะทิ หรือข้อคิดที่รู้ได้เองจากเหตุการณ์ในเรื่อง และในเล่มนี้ยังมีการสอดแทรกเรื่องของข้าวของเครื่องใช้โบราณ และขนมไทยต่าง ๆ มากมาย ที่ทำให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จักอีกด้วย

ประโยคประทับใจ
" ชีวิตก็เหมือนบทเพลง ต่างลีลา ต่างจังหวะ มีทั้งโศกเศร้าเหงาซึ้ง ทั้งสุขสนุกเริงร่า และแน่นอนว่าคละเคล้ากันไป ยามทุกข์ คงไม่มีอะไรดีกว่าอดทนและรอให้ทุกอย่างผ่านไปในที่สุด ยามสุข ก็คงไม่หลงลืมว่าวันข้างหน้าอาจมีสิ่งเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ " เพราะ ในชีวิตจริงของคนเราก็มีทั้งสุขและทุกข์ปะปนกันไป ชีวิตของคนเราก็มีทั้งสุขและทุกข์ไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่ควรจะทำคือ เมื่อมีความทุกข์ก็ควรจะอดทน แล้วทุกอย่างก็จะผ่านพ้นไป และเมื่อมีความสุข ก็ให้เตรียมใจว่าวันข้างหน้าอาจจะไม่สุขแบบนี้ เพียงเท่านี้เราก็จะใช้ชีวิตอย่างรู้เท่าทันและมีความสุขกับมัน

หมายเลขบันทึก: 687771เขียนเมื่อ 18 ธันวาคม 2020 10:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 ธันวาคม 2020 10:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท