วัฒนธรรมการทำงานที่โรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นครูหรือผู้บริหาร เน้นทำตามนโยบาย/โครงการ(มากมาย)จากเบื้องบนหรือเฉพาะที่ตนเองมีโอกาสจะได้จะเสียเท่านั้น การรายงานผลก็แค่ทำให้ถูกอกถูกใจเจ้าของโครงการ โดยไม่อินังขังขอบว่าจะขัดแย้งกับข้อเท็จจริงหรือไม่
ผู้ปฏิบัติตัวจริงเสียงจริง โดยเฉพาะครู หลายคนจึงไม่ค่อยเห็นคุณค่างานที่ตัวเองทำ มักรู้สึกว่าที่ทำๆจนโงหัวไม่ขึ้น(เอกสาร) แต่ละอย่างประโยชน์น้อยถึงน้อยมาก ก็แค่ทำไปอย่างนั้น พอให้มี..ไม่ให้ถูกตำหนิเอาได้
ครูผู้คลุกวงในอยู่กับปัญหาอุปสรรค อดคิดไม่ได้อยู่บ่อย "อีกหลายๆอย่างที่ควรทำเสียยิ่งกว่า ซึ่งควรเน้นทำก่อน" ตัวอย่างชัดๆ คุณภาพการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียนของครู
อาจเพราะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยในสายตาผู้บริหาร เป็นเรื่องที่อย่างไรก็ต้องทำทุกวันอยู่แล้วก็ได้ ไม่อย่างนั้นก็อาจคิดว่า หากมัวไปเน้นเรื่องสอนที่อย่างไรก็ต้องทำอยู่แล้ว งานนโยบาย/โครงการที่ต้องรายงานอย่างเร่งด่วนเสมอๆ จะเสร็จส่งเขาทันได้อย่างไร?
ทิศทางการทำงานที่โรงเรียนหลายปีหลังๆ ที่ผ่านมา จึงเป็นไปในแนวนี้ งานครูมีมากมาย แต่ประโยชน์เกิดกับเด็กๆน้อย
การศึกษาบ้านเราหลายคนจึงวิพากษ์ ว่าตกอยู่ในสภาพยักแย่ยักยัน จากการได้เห็นผลสัมฤทธิ์ด้านต่างๆจากสื่อ โดยเฉพาะเมื่อมีผู้ศึกษาเปรียบเทียบความสัมพันธ์ของประสิทธิภาพที่เกิดกับงบประมาณที่ทุ่มทุนลงไป อย่างไม่น้อยหน้าชาติอื่นใดในโลกหล้าแล้ว
เอวังการศึกษาบ้านเรา จึงมีด้วยประการ ฉะนี้!
มีแต่สั่งทำโน้นทำนี่ ตลอด แต่เกิดกับนักเรียนน้อยครับ
สวัสดีค่ะอาจารย์มาอ่านบันทึกทุกครั้งจะโดนใจตัวเองเช่นกันค่ะ..ไม่มีคำอธิบายเห็นตามนี้จริงๆ…ค่ะ
ขอบคุณอาจารย์ขจิตมากครับ
ขอบคุณkrutoomมากครับ