ดิฉันเป็นนักศึกษาคณะกายภาพบำบัด สาขากิจกรรมบำบัดชั้นปีที่2 ได้ศึกษาเกี่ยวกับCommunity survivors and Learning skills ซึ่งจะเกี่ยวเนื่องถึงทักษะการใช้ชีวิต การเอาตัวรอดในชุมชนสังคมที่ตัวเองอยู่ ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าแต่ละคนมีสภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ต่างกันรวมถึงได้เผชิญกับปัญหาที่ต่างกันด้วย ไม่ว่าจะเป็นทางด้านร่างกายหรือจิตใจที่จะส่งผลต่อความเป็นอยู่ของตัวเอง
ดิฉันจึงได้มีโอกาสเข้าไปสัมภาษณ์ หญิงวัยผู้ใหญ่ตอนปลาย อายุ 53ปี ประกอบอาชีพเป็นข้าราชการ ปัจจุบันทำงานนอกบ้านและต้องรับผิดชอบงานในบ้านไปด้วย
1. ปัญหาหรือความบกพร่องทางด้านร่างกายหรือจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ในอดีตหรือกำลังเกิดในปัจจุบัน ที่ส่งผลต่อการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน และส่งผลอย่างไร
‘ข้อไหล่ด้านซ้ายติด’ ไม่สามารถยก ขยับ หมุน ได้สุดช่วงของการเคลื่อนไหว และจะมีอาการเจ็บหรือปวดมาก หากใช้งานมากหรือเกินช่วงที่สามารถขยับได้ ส่งผลต่อการทำกิจวัตรประตำวันในหลายๆด้าน ได้แก่
- การใส่เสื้อผ้า ไม่สามารถใส่เสื้อผ้าแบบสวมที่ต้องยกแขนขึ้นสูงได้ ใส่ได้แค่เสื้อติดกระดุม/รูดซิป , ติดตะขอเสื้อในทางด้านหลังไม่ได้
- การออกกำลังกาย ปกติจะทำทุกๆวันตอนเช้า พอข้อติดจึงไม่สามารถออกกำลังกายที่ขยับแขนเยอะๆได้
- การขับรถ ไม่สามารถขับรถไปในระยะทางไกลได้
- การทำงานบ้าน ทำได้แค่งานที่ใช้มือขวา งานบ้านที่ต้องใช้2มือจะไม่สามาถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ตากผ้า ล้างจาน
- การทำงาน มีอาการเจ็บเมื่อต้องเอื้อมมือไปหยิบอุปกรณ์ในการทำงาน
- การนอน ไม่สามารถนอนท่าตะแคงได้ นอนได้แค่ท่าหงาย
2. เมื่อเกิดปัญหาที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันแล้วสามารถเรียนรู้ ช่วยเหลือตัวเองให้ผ่านเหตุการณ์นั้นมาได้อย่างไร
-ไปปรึกษาหมอเกี่ยวกับอาการ เพื่อดูว่าสาเหตุของข้อติดเกิดจากอะไร และสามารถแก้ไขอย่างไรได้บ้างเพื่อให้กลับมาเป็นปกติ หมอจึงส่งให้ไปบำบัดกับนักกายภาพและแพทย์แผนไทย จึงได้ไปบำบัด หมั่นฝึกฝนทุกครั้งที่มีนัด มีการนำท่าออกกำลังกายมาฝึกที่บ้านเพื่อช่วยลดอาการข้อติด เลี่ยงการทำท่าทางผาดโผนเพื่อป้องกินการอักเสบของข้อ
ในปัจจุบันอาการข้อติดของไหล่ได้หายเป็นปกติแล้ว สามารถกลับมาทำกิจกรรมที่ตัวเองอยากทำได้อย่างเต็มที่ เป็นเพราะมีความพยายามในการบำบัดและฝึกทำกิจกรรมที่จะช่วยบรรเทาอาการข้อติดของตนได้ และมีความเชื่อว่าตัวเองจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติอย่างที่เคยเป็นมา
ไม่มีความเห็น