๑,๑๕๙ จงก้าวเดินจากไป..ด้วยเรื่องราวแห่งความทรงจำ


”คนที่มีความน่าเชื่อถือน่าศรัทธา ไม่ได้มาจากความพยายาม “พูด” ให้คนเข้าใจและเกิดการยอมรับ....” แต่มาจากความตั้งใจในการ “ปฎิบัติตน” อย่าน่าเชื่อถืออยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งคนเห็นประจักษ์..แล้ว จึงเชื่อมั่นจนวางใจ..”

          ผมอ่านพบข้อความจากหนังสือเล่มหนึ่ง ผู้เขียนบอกว่า..”คนที่มีความน่าเชื่อถือน่าศรัทธา ไม่ได้มาจากความพยายาม “พูด” ให้คนเข้าใจและเกิดการยอมรับ....”

      แต่มาจากความตั้งใจในการ “ปฎิบัติตน” อย่าน่าเชื่อถืออยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งคนเห็นประจักษ์..แล้ว จึงเชื่อมั่นจนวางใจ..”

          เป็นข้อคิดข้อเขียนที่น่าชื่นชมเพราะคมคายมาก สอดรับการยุคสมัยปัจจุบัน ที่ผู้คนกำลังจะเชื่อฟังคนที่พูดมากกว่าที่จะอดทน..สังเกต..ศึกษาเรียนรู้..ในสิ่งที่เห็นและเป็นอยู่จากการปฏิบัติ

          ยิ่งคนพูดดูดีมีฐานะ มีการศึกษาสูง มีหน้าที่การงานใหญ่โต..การพูดยิ่งจะมีน้ำหนักให้รู้สึกรับได้และคล้อยตาม..

          ทั้งๆที่ในความเป็นจริงนั้น การศึกษา..ฐานะและตำแหน่งการงาน มิได้เป็นเครื่องชี้วัดเพียงอย่างเดียว เกี่ยวกับคุณธรรมความดีความงามในจิตใจของคน

          ดังนั้น..อาจจะต้องรอให้เป็นและใจเย็นให้พอ ก่อนที่จะเชื่อถือหรือศรัทธาใคร อย่าใคร่ครวญแค่เพียงการพูด..แต่จงดูจากการปฏิบัติ..จนเห็นแจ้งประจักษ์ใจ

          จงนึกถึงใครสักคนก็ได้ ที่ยืนยันในหลักความจริงข้อนี้...”พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร”รัชกาลที่ ๙ แห่งราชวงศ์จักรี....

          ศาสตร์พระราชา..ตำราเล่มใหญ่..พระองค์ทรงแทบจะไม่ได้สอน ลองนึกย้อนไปกว่า ๖๐ ปีที่พระองค์ทรงปฏิบัติตนเป็นแบบอย่าง ผ่านการทรงงานในโครงการพระราชดำริ..

          ที่พสกนิกรต่างเข้าใจได้ว่า..จะทำตามคำสอนของพ่อ ในแบบที่พ่อเคยบอกว่า..พูดแต่น้อยและทำงานให้มาก..นั่นเอง

          ผมอยู่โรงเรียนขนาดเล็กมานาน จึงเข้าใจได้อย่างลึกซึ้งถึงหลักการทรงงานข้อนี้..ที่ต้องก้าวไปข้างหน้า..แบบที่ไม่เกรงกลัวปัญหา อุปสรรคและความขาดแคลน

          บุคลากรน้อย..หากมัวแต่รอแล้วเมื่อไหร่จะมีและพอดีเหมือนโรงเรียนอื่นๆ บางเรื่องราว มองไม่ออกจริงๆว่าถ้าผมไม่ลงมือทำแล้วใครจะทำ..ดังนั้น..หากจะต้องดิ้นหนีตายก็ควรจะได้ถอดหัวโขนออกเสียบ้าง..อย่าห่วงกังวลถึงศักดิ์ศรีและเกียรติยศให้มันมากเกินไป...

          เมื่อลงมือปฏิบัติ..ความเชื่อมั่นก็ตามมา และเชื่อว่ามาถูกทาง..ผมคิดเสมอว่าโรงเรียนขนาดเล็กจะอยู่ได้ด้วยนวัตกรรมการบริหารจัดการ “ด้านแหล่งเรียนรู้และสิ่งแวดล้อม”

          เพราะแหล่งเรียนรู้และสิ่งแวดล้อม คือครูนอกห้องเรียนที่ทรงคุณค่า หากได้พัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้วยแล้ว จะเป็นงานบูรณาการการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดี

          ครูและนักเรียน..จะมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ผ่านการลงมือปฏิบัติทดลอง ฝึกสมองและสองมือสร้างงานที่เรียกว่า”ทักษะชีวิต” แบบที่ไม่ต้องยึดติดตำรา..

          ผมยังมีความเชื่ออีกว่า..ศิลปวัฒนธรรมไทย ดนตรี นาฎศิลป์และการละเล่นพื้นบ้าน คือแก่นสารที่จะช่วยหล่อหลอมจิตใจนักเรียน ให้มีสติ มีสมาธิและมีระเบียบวินัย ซึ่งเป็นคุณธรรมสำคัญของการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน...

          ผมทำมาหมดแล้วตลอด ๑๔ ปี และที่สำคัญสิ่งนั้นยังอยู่ครบถ้วนสมบูรณ์ ..ผมไม่ได้ยึดติดและมิได้คาดหวังว่าผลงานที่ทำจะทรงพลังและมั่นคงตลอดไป..

          แต่ก่อนที่ผมจะก้าวเดินจากไป..ผมจะทำให้เกิดภาพและทำเป็นบันทึกในทุกเรื่องราวอยู่ในความทรงจำของผม..

          เพื่อรองรับคนรุ่นใหม่..ที่เขาพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงแน่นอน อาจจะมีเทคโนโลยีมาแทนที่ มีสื่อสำเร็จรูป มีนวัตกรรมที่สอดรับกับวัฒนธรรมทางการศึกษาที่เปลี่ยนไป...สิ่งที่ทำในยุคสมัยนี้ จึงอาจเป็นเพียงเรื่องกล่าวขาน เป็นตำนานว่าเคยมีอยู่จริงๆ

          ผมจึงบันทึกภาพนวัตกรรมแหล่งเรียนรู้ทุกแห่งในโรงเรียน ที่ทำมาตั้งแต่ต้นแต่ยังไม่จบ...จากนั้นผมจะเคลือบพลาสติกใส...ให้ดูดี คงทนและแข็งแรง

          ภาพที่เป็นตัวแทนเรื่องราวแห่งความทรงจำทั้งหลาย ผมจะนำไปจัดนิทรรศการใน “ห้องพอเพียง”ตลอดเดือนตุลาคม..แล้วจะเก็บไว้เป็นผลงานเชิงประจักษ์ตลอดกาล

          ก่อนที่ก้าวเดินจากไป...อย่างภาคภูมิใจ

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๓๐  กันยายน  ๒๕๖๓

         

หมายเลขบันทึก: 683099เขียนเมื่อ 30 กันยายน 2020 08:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 กันยายน 2020 08:54 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

โรงเรียนชื่ออะไร?อยู่ที่ไหนครับ?ขอชื่นชมการทำงานเพื่อเด็ก

..ทุกเรื่องราว ได้เรียนรู้ เพราะครูสอน..ทุกอาทร ที่ได้รับ ยิ่งนับถือ..มีความสุข จากส่วนลึก ด้วยฝึกปรือ..ความรู้คือ พลัง ดังรับพร....กราบขอบคุณครูทุกท่านด้วยหัวใจ..(ลุงรักชาติราชบุรี29/09/2562)#พาหุยุทธ์ชาวสยาม

ขอบคุณลุงรักชาติราชบุรีผมอยู่ที่บ้านหนองผือไม่ลือลั่นเป็นโรงเรียนธรรมดาแสนสามัญแต่ยึดเด็กเป็นสำคัญตลอดมา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท