ชื่อบันทึกนี้ผุดขึ้นมาระหว่างอ่านจดหมายข่าวของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ทำให้ระลึกชาติกลับไปสมัยทำงานอยู่ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เห็นข่าวและเอกสารประชาสัมพันธ์แล้วผมขัดใจ ว่าทำไมมันตื้นเขินนัก มหาวิทยาลัยเป็นสถานชุมนุมของผู้มีปัญญาไม่ใช่หรือ แล้วทำไมผู้มีปัญญาจึงปล่อยให้ข่าวตื้นๆ ออกไปสู่สังคม ออกไปสร้างสังคมแห่งความตื้นเขิน
ผมรู้สึกว่า ข่าวแสดงผลงานเด่นที่ไม่แยกแยะระดับความเด่น เป็นการสร้างความตื้นเขินของฝ่ายมหาวิทยาลัยเอง ทำกันจนเคยชิน จนในที่สุดเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยเองก็ไม่เข้าใจความลึกตื้นของผลงานวิชาการ รวมทั้งมีการเขียนข่าวผลงานแบบเกินจริง โดยไม่รู้ตัว
ในสายตาของผม ข่าวประชาสัมพันธ์องค์กร ต้องมีเป้าหมายแบบ “วัดครึ่งกรรมการครึ่ง” คือองค์กรเจ้าของข่าวได้ประชาสัมพันธ์ผลงาน และผู้อ่านก็ได้ประโยชน์ คือได้ความรู้ แต่ข่าวประชาสัมพันธ์ที่เผยแพร่กันโดยทั่วไปมันตื้นเขิน คือบอกเพียงว่าได้รับรางวัล มีคนมาดูงาน ได้รับยกย่อง ไปไม่ถึงข้อมูลเชิงลึก ว่าผลงานนั้นๆ มีคุณค่าอย่างไร ได้ก่อผลกระทบอย่างไรบ้างแล้ว หรือคาดว่าจะก่อผลกระทบอะไร คือเป็นข่าวที่บอก what ไปไม่ถึง how และ why
ปัญหาสำคัญอยู่ที่เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ไม่มีความรู้เชิงเนื้อหาสาระในระดับลึก แต่ผมว่าปัญหาสำคัญกว่าคือ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ไม่ได้รับการฝึกให้รู้วิธีหาข่าว และเขียนข่าวเชิงลึก
ผมเป็นคนขวางโลกเช่นนี้เอง
วิจารณ์ พานิช
๗ ส.ค. ๖๓
ไม่มีความเห็น