อภิปรัชญาตะวันตก 3
8.อภิปรัชญาของพาร์มินิเดส B.C. 500 ( ต่อจากตอนที่แล้ว )
เขาว่า ภาวะ ( Being )เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลง.
Becoming ความเปลี่ยนแปลง
เขาว่า สิ่งที่เป็นจริงขั้นสูงสุดต้องมีลักษณะเป็นนิจจัง.
9.อภิปรัชญาของเซโน แห่งเอเลีย
Zeno of Elea B.C. 490-430
ลูกศิษย์ของพาร์มินิเดส กล่าวยืนยันว่า การยิงลูกธนูออกไป. ถ้ามันเคลื่อนไปจริง.เราไม่สามารถคว้าจับมันได้ ณ จุดใดจุดหนึ่ง แต่เราคว้าจับมันได้ แสดงว่า ลูกธนู ณ จุดที่เราจับได้. มันไม่เคลื่อนไหวแต่อย่างใด.
10.อภิปรัชญาของเอมพิโดเคลส
Empedocles B.C. 495-435
เขาว่า ธาตุ 4 คือ ดิน – น้ำ – ลม – ไฟ เป็นพื้นฐานของสิ่งทั้งปวงและแยกลงอีกไม่ได้.
11.อภิปรัชญาของเดโมคริตุส
Democritus B. C. 460-360
เขาว่า ไม่มีอะไรเกิดโดยบังเอิญ. ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดอย่างมีกฎเกณฑ์ เป็นการใช้อำนาจบังคับที่หลีกเลี่ยงไม่ได้.
12. อภิปรัชญากลุ่มโซฟิสต์ B. C. 500
มี 2 คน คือ
1.โปรตากอรัส Protagoras เขาว่า คนเป็นผู้วัดทุกสิ่ง. Man is the measure of all thinges
เขาว่า คำว่าถูกคือสิ่งที่พาเราไปสู่ความสำเร็จ. คำว่าผิดคือสิ่งที่เป็นอุปสรรค. คำว่า ยุติธรรม คือ สิ่งทำให้เราพอใจ. สุขและทุกข์เท่านั้นเป็นจริง.
2.กอร์เกียส Gorgias เขาว่า สัจธรรมไม่มี. ถ้าสัจธรรมมี.เรารู้ไม่ได้.ถ้าเรารู้ได้ก็สื่อความหมายไม่ได้.
Nothing exists, and if it did no one could know it, and if they know it they could not communicate it.
13.โสคราตีส Socrates B. C. 470-399
จากผลงานของพลาโต้.เราได้รู้แนวคิดของโสคราตีส. พลาโต้คือลูกศิษย์ของโสคราตีส.โสคราตีสไม่เขียนอะไรไว้เลย.
เขาว่า เขาสอนให้คนรู้ความจริง.
เขาเชื่อว่า ปัญญาคืออำนาจ.
ปัญญานำคนเข้าสู่สัจธรรม.
เขาว่า สิ่งมีคุณค่าคือKnowledge.
Knowledge นำไปสู่โลกแห่งความจริง.
หลักจริยธรรมของโสคราตีสได้แก่ วิชชาคือคุณธรรม.
Virtue is Knowledge. เขาว่าความชั่วเป็นเรื่องอวิชชา.
เขาว่า ชีวิตที่ไม่มีการตรวจสอบก็ไม่คุ้มที่จะอยู่.
An unexamined life is not worth livng.
เขาว่า ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่เป็นอยู่ด้วยปัญญา.
14.พลาโต้ Plato B. C. 427-347
อภิปรัชญาของพลาโต้
เขาเป็นนักปรัชญาฝ่ายจิตนิยม Idealist พลาโต้แบ่งโลกเป็น 2 ชนิด
1.โลกทางประสาทสัมผัส The world of sense-perceptions
2.โลกแห่งความคิด The Transcendent world of ideas or form.
เขาว่า โลกที่เห็นทางประสาทสัมผัสคือโลกปรากฎตามแนวคิดของคนเห็น.
กระต่ายตัวใหญ่เพราะเทียบกับมด. กระต่ายตัวเล็กเพราะเทียบกับช้าง.น้ำเย็นเพราะคนผ่านความร้อนมา.น้ำร้อนเพราะคนผ่านพายุหิมะมา.สิ่งต่าง ๆ ย่อมแกว่งไปแก่วงมา.สิ่งต่าง ๆ ไม่อยู่นิ่ง.
เขาว่า โลกอยู่เหนือประสาทสัมผัสคือโลกที่แท้จริง.
ดวงจันทร์มีแสงเพราะได้รับแสงจากดวงอาทิตย์.
โลกทางประสาทสัมผัสเพราะมาจากโลกเหนือประสาทสัมผัส.
เขาว่า Everything is under the sway of time.
How will is be known..?
15.อภิปรัชญาของอริสโตเติล B. C. 385
อริสโตเติลเป็นนักสัจจนิยม.
เขาชอบศึกษาชีววิทยา.เขาว่า โลกแห่งแบบ. แบบของสสาร. เม็ดมะม่วงกลายเป็นต้นมะม่วงเสมอ.เขาตั้งทฤษฎีชื่อ Theory of the First cause.
เขาว่าสิ่งอยู่เบื้องหลังทุกสิ่งที่เคลื่อนไหวมีอยู่.
...................................................
