พระไตรปิฎกอ่านง่าย เล่มที่ ๑๒ (พระสูตร เล่มที่ ๔) เรื่องที่ ๒๔ รถวินีตสูตร เรื่องราชรถ ๗ ผลัด


๒๔ รถวินีตสูตร เรื่องราชรถ ๗ ผลัด


ภิกษุยกย่องพระปุณณมันตานีบุตร

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเวฬุวัน กลันทกนิวาปสถาน เขตกรุงราชคฤห์ ครั้งนั้น ภิกษุผู้มีถิ่นกำเนิดเดียวกันจำนวนมาก จำพรรษาในท้องถิ่น(ของตน)แล้ว ได้มาเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายอภิวาทแล้วนั่งอยู่ ณ ที่สมควร พระผู้มีพระภาคตรัสถามภิกษุเหล่านั้นว่า

“ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุรูปไหนที่ภิกษุเพื่อนพรหมจารีในท้องถิ่นยกย่องอย่างนี้ว่า

‘ตนเองเป็นผู้มักน้อย และกล่าวอัปปิจฉกถาความมักน้อยแก่ภิกษุทั้งหลาย

ตนเองเป็นผู้สันโดษ และกล่าวสันตุฏฐิกถาความสันโดษแก่ภิกษุทั้งหลาย

ตนเองเป็นผู้สงัด และกล่าวปวิเวกกถาความสงัดแก่ภิกษุทั้งหลาย

ตนเองเป็นผู้ไม่คลุกคลี และกล่าวอสังสัคคกถาความไม่คลุกคลีแก่ภิกษุทั้งหลาย

ตนเองเป็นผู้ปรารภความเพียร และกล่าววิริยารัมภกถาการปรารภความเพียรแก่ภิกษุทั้งหลาย

ตนเองเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยศีล และกล่าวสีลสัมปทากถาความสมบูรณ์ด้วยศีลแก่ภิกษุทั้งหลาย

ตนเองเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยสมาธิ และกล่าวสมาธิสัมปทากถาความสมบูรณ์ด้วยสมาธิแก่ภิกษุทั้งหลาย

ตนเองเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยปัญญา และกล่าวปัญญาสัมปทากถาความสมบูรณ์ด้วยปัญญาแก่ภิกษุทั้งหลาย

ตนเองเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยวิมุตติ และกล่าววิมุตติสัมปทากถาความสมบูรณ์ด้วยวิมุตติแก่ภิกษุทั้งหลาย

ตนเองเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยวิมุตติญาณทัสสนะ และกล่าววิมุตติญานทัสสนสัมปทากถา(เรื่องความสมบูรณ์ด้วยวิมุตติญาณทัสสนะ) แก่ภิกษุทั้งหลาย

เป็นผู้ให้โอวาท แนะนำ ชี้แจงให้เพื่อนพรหมจารีทั้งหลายเห็นชัด ชวนใจให้อยากรับเอาไปปฏิบัติ เร้าใจให้อาจหาญแกล้วกล้า ปลอบชโลมใจให้สดชื่นร่าเริง”

ภิกษุท้องถิ่นเหล่านั้นกราบทูลว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ท่านพระปุณณมันตานีบุตรเป็นประพฤติเช่นนั้น และเป็นผู้ที่พวกภิกษุเพื่อนพรหมจารีท้องถิ่นยกย่องอย่างนั้น

ขณะนั้น ท่านพระสารีบุตรได้นั่งเฝ้าพระผู้มีพระภาคอยู่ ณ ที่ใกล้ได้มีความคิดว่า “เป็นลาภของท่านพระปุณณมันตานีบุตร ท่านพระปุณณมันตานีบุตรประเสริฐแล้ว ที่พวกภิกษุเพื่อนพรหมจารีผู้เป็นวิญญูชนเลือกเฟ้น กล่าวยกย่องพรรณนาคุณเฉพาะพระพักตร์ของพระศาสดา และพระศาสดาก็ทรงอนุโมทนาการกระทำนั้น บางทีเราคงได้พบกับท่านพระปุณณมันตานีบุตรแล้ว สนทนาปราศรัยกันสักครั้งหนึ่ง”

ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่กรุงราชคฤห์ตามพระอัธยาศัยแล้วจึงเสด็จจาริกไปโดยลำดับจนถึงกรุงสาวัตถี ประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี ท่านพระปุณณมันตานีบุตรทราบข่าวว่าการเสด็จมาของพระผู้มีพระภาคแล้ว

พระปุณณมันตานีบุตรเข้าเฝ้าพระพุทธองค์

ครั้งนั้น ท่านพระปุณณมันตานีบุตรจึงเก็บงำเสนาสนะ ถือบาตรและจีวรจาริกไปโดยลำดับตามทางที่จะไปยังกรุงสาวัตถีถึงพระเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถีแล้ว จึงเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับถวายอภิวาทแล้วนั่งอยู่ ณ ที่สมควร ครั้นนั่งเรียบร้อยแล้ว พระผู้มีพระภาคจึงทรงชี้แจงพระปุณณมันตานีบุตรให้เห็นชัด ชวนใจให้อยากรับเอาไปปฏิบัติ เร้าใจให้อาจหาญแกล้วกล้า ปลอบชโลมใจให้สดชื่นร่าเริงด้วยธรรมีกถา ลำดับนั้นท่านพระปุณณมันตานีบุตร ได้ชื่นชม ยินดีพระภาษิตของพระผู้มีพระภาค ลุกจากอาสนะถวายอภิวาท กระทำประทักษิณ แล้วเข้าไปสู่ป่าอันธวัน เพื่อพักผ่อนในเวลากลางวัน

ครั้งนั้น ภิกษุรูปหนึ่งเข้าไปหาท่านพระสารีบุตรถึงที่อยู่แล้วกล่าวว่า“ท่านพระสารีบุตร พระปุณณมันตานีบุตรที่ท่านสรรเสริญอยู่เนือง ๆ นั้น บัดนี้พระผู้มีพระภาคทรงชี้แจงให้เห็นชัด ชวนใจให้อยากรับเอาไปปฏิบัติ เร้าใจให้อาจหาญแกล้วกล้า ปลอบชโลมใจให้สดชื่นร่าเริงด้วยธรรมกถาแล้ว ท่านก็ชื่นชม ยินดีพระภาษิตของพระผู้มีพระภาค ลุกจากอาสนะถวายอภิวาท กระทำประทักษิณ แล้วหลีกไปสู่ป่าอันธวันเพื่อพักผ่อนในเวลากลางวัน”

ลำดับนั้น ท่านพระสารีบุตรรีบถือผ้ารองนั่ง แล้วติดตามท่านพระปุณณมันตานีบุตรไปข้างหลัง พอที่จะแลเห็นศีรษะกัน ครั้งนั้น ท่านพระปุณณมันตานีบุตร เข้าไปในป่าอันธวัน แล้วนั่งพักผ่อนในเวลากลางวันอยู่ที่โคนไม้แห่งหนึ่ง แม้ท่านพระสารีบุตรเข้าไปสู่ป่าอันธวัน แล้วก็นั่งพักผ่อนในเวลากลางวันอยู่ที่โคนไม้แห่งหนึ่งเหมือนกัน

เป้าหมายแห่งพรหมจรรย์ตามลำดับวิสุทธิ ๗

ครั้นในเวลาเย็น ท่านพระสารีบุตรออกจากฌาน แล้วเข้าไปหาท่านพระปุณณมันตานีบุตรถึงที่อยู่ ได้สนทนาปราศรัยพอเป็นที่บันเทิงใจ พอเป็นที่ระลึกถึงกันแล้วจึงนั่ง ณ ที่สมควร ได้ถามท่านพระปุณณมันตานีบุตรว่า ท่านประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคของเราหรือ พระปุณณมันตานีบุตรตอบว่าใช่

ท่านพระสารีบุตรถามตำถามต่าง ๆ ว่า “ท่านประพฤติพรหมจรรย์เพื่อความหมดจดแห่งศีลหรือ, ท่านประพฤติพรหมจรรย์เพื่อความหมดจดแห่งจิตหรือ,  ท่านประพฤติพรหมจรรย์เพื่อความหมดจดแห่งทิฏฐิ หรือ” ท่านประพฤติพรหมจรรย์เพื่อความหมดจดแห่งญาณเป็นเครื่องข้ามพ้นความสงสัย หรือ” “ท่านประพฤติพรหมจรรย์เพื่อความหมดจดแห่งญาณที่รู้เห็นว่าเป็นทางหรือมิใช่ทางหรือ” “ท่านประพฤติพรหมจรรย์เพื่อความหมดจดแห่งญาณที่รู้เห็นทางดำเนินหรือ” ท่านประพฤติพรหมจรรย์เพื่อความหมดจดแห่งญาณทัสสนะหรือ, ท่านประพฤติพรหมจรรย์เพื่อสีลวิสุทธิหรือ’ ‘ท่านประพฤติพรหมจรรย์เพื่อจิตตวิสุทธิหรือ’  ท่านประพฤติพรหมจรรย์เพื่อทิฏฐิวิสุทธิหรือ’ ‘ท่านประพฤติพรหมจรรย์เพื่อกังขาวิตรณวิสุทธิหรือ’  ‘ท่านประพฤติพรหมจรรย์เพื่อมัคคามัคคญาณทัสสนวิสุทธิหรือ’  ‘ท่านประพฤติพรหมจรรย์เพื่อปฏิปทาญาณทัสสนวิสุทธิหรือ, ‘ท่านประพฤติพรหมจรรย์เพื่อญาณ-ทัสสนวิสุทธิหรือ’ พระปุณณมันตานีบุตรตอบว่าไม่ใช่ทั้งหมด

พระสารีบุตรถามว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคเพื่ออะไรกันเล่า”

พระปุณณมันตานีบุตรตอบว่า “ท่านผู้มีอายุ ข้าพเจ้าประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคเพื่ออนุปาทาปรินิพพาน”

พระสารีบุตรถามว่า “สีลวิสุทธิ เป็นอนุปาทาปรินิพพานหรือ” “จิตตวิสุทธิ เป็นอนุปาทาปรินิพพานหรือ” “ทิฏฐิวิสุทธิ เป็นอนุปาทาปรินิพพานหรือ” “กังขาวิตรณวิสุทธิ เป็นอนุปาทาปรินิพพานหรือ” “มัคคามัคคญาณทัสสนวิสุทธิ เป็นอนุปาทาปรินิพพานหรือ” “ปฏิปทาญาณทัสสนวิสุทธิ เป็นอนุปาทาปรินิพพานหรือ”  “ญาณทัสสนวิสุทธิ เป็นอนุปาทาปรินิพพานหรือ” “ธรรมนอกจากธรรมเหล่านี้ เป็นอนุปาทาปรินิพพานหรือ”

พระปุณณมันตานีบุตรตอบพระสารีบุตรทุกข้อว่า “ไม่ใช่ ท่านผู้มีอายุ”

พระสารีบุตรจึงกล่าวว่า ถ้าเช่นนั้น จะพึงเข้าใจคำที่ท่านกล่าวแล้วนี้ได้อย่างไร”

ท่านพระปุณณมันตานีบุตรกล่าวว่า “ท่านผู้มีอายุ ถ้าพระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติสีลวิสุทธิว่าเป็นอนุปาทาปรินิพพาน ก็ชื่อว่าพึงบัญญัติธรรมที่ยังมีอุปาทานว่าเป็นอนุปาทาปรินิพพาน จิตตวิสุทธิ ทิฏฐิวิสุทธิ กังขาวิตรณวิสุทธิ มัคคามัคคญาณทัสนวิสุทธิ ปฏิปทาญาณทัสสนวิสุทธิ ญาณทัสสนวิสุทธิ ก็เช่นเดียวกัน ถ้าทรงบัญญัติว่าเป็นอนุปาทาปรินิพพาน ก็ชื่อว่าพึงบัญญัติธรรมที่ยังมีอุปาทานว่าเป็นอนุปาทาปรินิพพาน

ท่านผู้มีอายุ ถ้าธรรมนอกจากธรรมเหล่านี้ จักเป็นอนุปาทาปรินิพพานแล้ว ปุถุชนก็จะพึงปรินิพพาน เพราะว่าปุถุชนเว้นจากธรรมเหล่านี้

 เปรียบเทียบวิสุทธิด้วยรถ ๗ ผลัด

ท่านผู้มีอายุ เปรียบเหมือนพระเจ้าปเสนทิโกศลกำลังประทับอยู่ที่กรุงสาวัตถี มีพระราชกรณียกิจด่วนบางประการเกิดขึ้นที่เมืองสาเกต และในระหว่างกรุงสาวัตถีกับเมืองสาเกตนั้นจะต้องต่อรถถึงเจ็ดผลัด

ครั้งนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จออกจากกรุงสาวัตถี ทรงรถพระที่นั่งคันที่หนึ่ง ที่ประตูพระราชวัง เมื่อเสด็จไปถึงรถพระที่นั่งคันที่สอง ทรงสละรถพระที่นั่งคันที่หนึ่ง เมื่อเสด็จไปถึงรถพระที่นั่งคันที่สาม ก็ทรงรถพระที่นั่งคันที่สอง เมื่อเสด็จไปถึงรถพระที่นั่งคันที่สี่ ก็ทรงรถพระที่นั่งคันที่สาม เมื่อเสด็จไปถึงรถพระที่นั่งคันที่ห้า ก็ทรงรถพระที่นั่งคันที่สี่ เมื่อเสด็จไปถึงรถพระที่นั่งคันที่หก ก็ทรงรถพระที่นั่งคันที่ห้า เมื่อเสด็จไปถึงรถพระที่นั่งคันที่เจ็ด ก็ทรงรถพระที่นั่งคันที่หก  เสด็จไปถึงประตูเมืองสาเกตด้วยรถพระที่นั่งผลัดที่เจ็ด

ถ้าพวกอำมาตย์หรือพระบรมวงศานุวงศ์จะพึงทูลถามพระองค์ว่า ‘ขอเดชะมหาราชเจ้า พระองค์เสด็จจากกรุงสาวัตถีถึงประตูเมืองสาเกตด้วยรถพระที่นั่งผลัดนี้ผลัดเดียวหรือ’

ท่านผู้มีอายุ พระเจ้าปเสนทิโกศลจะตรัสตอบอย่างไร จึงจะจัดว่าตรัสตอบอย่างถูกต้อง”

ท่านพระสารีบุตรกล่าวว่า “ท่านผู้มีอายุ พระเจ้าปเสนทิโกศลจะต้องตรัสตอบอย่างนี้ จึงจัดว่าตรัสตอบอย่างถูกต้อง คือตรัสว่า ‘เมื่อฉันกำลังอยู่ในกรุงสาวัตถีนั้น มีกรณียกิจด่วนบางประการเกิดขึ้นในเมืองสาเกต ระหว่างกรุงสาวัตถีกับเมืองสาเกตนั้น จะต้องใช้รถถึงเจ็ดผลัด

ท่านผู้มีอายุ พระเจ้าปเสนทิโกศลจะต้องตรัสตอบอย่างนี้แล จึงจัดว่าตรัสตอบอย่างถูกต้อง”

ท่านพระปุณณมันตานีบุตรกล่าวว่า “ท่านผู้มีอายุ ข้อนี้ก็ฉันนั้นเหมือนกันสีลวิสุทธิมีจิตตวิสุทธิเป็นเป้าหมาย จิตตวิสุทธิมีทิฏฐิวิสุทธิเป็นเป้าหมาย ทิฏฐิวิสุทธิมีกังขาวิตรณวิสุทธิเป็นเป้าหมาย กังขาวิตรณวิสุทธิมีมัคคามัคคญาณทัสสนวิสุทธิเป็นเป้าหมาย มัคคามัคคญาณทัสสนวิสุทธิมีปฏิปทาญาณทัสสนวิสุทธิเป็นเป้าหมาย ปฏิปทาญาณทัสสนวิสุทธิมีญาณทัสสนวิสุทธิเป็นเป้าหมาย ญาณทัสสนวิสุทธิมีอนุปาทาปรินิพพานเป็นเป้าหมาย

ท่านผู้มีอายุ ข้าพเจ้าประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคเพื่ออนุปาทาปรินิพพานโดยแท้”

พระเถระทั้ง ๒ รูปกล่าวสรรเสริญคุณของกันและกัน

เมื่อท่านพระปุณณมันตานีบุตรกล่าวอย่างนี้แล้ว ท่านพระสารีบุตรจึงถามว่า “ท่านผู้มีอายุ ท่านชื่ออะไร และเพื่อนพรหมจารีรู้จักท่านว่าอย่างไร”

ท่านพระปุณณมันตานีบุตรตอบว่า “ท่านผู้มีอายุ ข้าพเจ้าชื่อว่าปุณณะ แต่เพื่อนพรหมจารีทั้งหลายรู้จักข้าพเจ้าว่า มันตานีบุตร”

ท่านพระสารีบุตรกล่าวว่า “ท่านผู้มีอายุ น่าอัศจรรย์จริง ไม่เคยปรากฏปัญหาอันลึกซึ้งที่ท่านพระปุณณมันตานีบุตรเลือกเฟ้น นำมากล่าวแก้ด้วยปัญญาอันลึกซึ้งตามเยี่ยงอย่างพระสาวกผู้ได้สดับแล้ว รู้ทั่วถึงคำสอนของพระศาสดาโดยถ่องแท้ จะพึงกล่าวแก้ฉะนั้น เป็นลาภอย่างมากของเพื่อนพรหมจารีทั้งหลาย เพื่อนพรหมจารีทั้งหลายยินดีแล้ว ที่ได้พบเห็น ได้นั่งใกล้ท่านปุณณมันตานีบุตร แม้หากเพื่อนพรหมจารีทั้งหลายจะเทิดทูนท่านปุณณมันตานีบุตรไว้บนศีรษะเหมือนเทริดผ้า จึงจะได้พบเห็น ได้นั่งใกล้ แม้ข้อนั้นก็นับว่าเป็นลาภมากของท่านเหล่านั้น ท่านเหล่านั้นยินดีแล้ว อนึ่ง นับว่าเป็นลาภอย่างมากของข้าพเจ้าด้วย ข้าพเจ้ายินดีแล้วด้วย ที่ได้พบเห็นได้นั่งใกล้ท่านปุณณมันตานีบุตร”

เมื่อท่านพระสารีบุตรกล่าวอย่างนี้แล้ว ท่านพระปุณณมันตานีบุตรจึงถามว่า “ท่านผู้มีอายุ ท่านชื่ออะไร และเพื่อนพรหมจารีทั้งหลายรู้จักท่านว่าอย่างไร”

ท่านพระสารีบุตรตอบว่า “ท่านผู้มีอายุ ข้าพเจ้าชื่อว่าอุปติสสะ แต่เพื่อนพรหมจารีทั้งหลายรู้จักข้าพเจ้าว่า ‘สารีบุตร”

ท่านพระปุณณมันตานีบุตรกล่าวว่า “ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้ากำลังพูดอยู่กับท่านผู้เป็นสาวก ผู้ทรงคุณคล้ายกับพระบรมศาสดา มิได้ทราบเลยว่า ‘ท่านชื่อว่าสารีบุตร’ ถ้าข้าพเจ้าทราบว่า ‘ท่านชื่อสารีบุตร’ คำเปรียบเทียบเท่านี้ คงไม่จำเป็นสำหรับข้าพเจ้า น่าอัศจรรย์จริง ไม่เคยปรากฏ ปัญหาอันลึกซึ้งที่ท่านสารีบุตรเลือกเฟ้นมาถามแล้วด้วยปัญญาอันลึกซึ้งตามอย่างพระสาวกผู้ได้สดับแล้ว รู้ทั่วถึงคำสอนของพระบรมศาสดาโดยถ่องแท้จะพึงถามฉะนั้น เป็นลาภอย่างมากของเพื่อนพรหมจารีทั้งหลาย เพื่อนพรหมจารีทั้งหลายยินดีแล้วที่ได้พบเห็น ได้นั่งใกล้ท่านพระสารีบุตร แม้หากเพื่อนพรหมจารีทั้งหลายจะเทิดทูนท่านพระสารีบุตรไว้บนศีรษะเหมือนเทริดผ้า จึงจะได้พบเห็น ได้นั่งใกล้ แม้ข้อนั้นก็เป็นลาภอย่างมากของท่านเหล่านั้น ท่านเหล่านั้นยินดีแล้ว อนึ่ง นับว่าเป็นลาภอย่างมากของข้าพเจ้าด้วย ข้าพเจ้ายินดีแล้วด้วย ที่ได้พบเห็น ได้นั่งใกล้ท่านสารีบุตร”

พระมหานาคทั้ง ๒ รูปนั้นต่างชื่นชมภาษิตของกันและกัน ดังนี้

เรียบเรียงโดย ดร.ศักดิ์ ประสานดี

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๔ มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เรื่องที่ ๔ รถวินีตสูตร ว่าด้วยราชรถ ๗ ผลัด ข้อที่ ๒๕๒ - ๒๖๐

หมายเลขบันทึก: 677520เขียนเมื่อ 18 พฤษภาคม 2020 23:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม 2020 23:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท