การที่เราคิดไม่เหมือนเขา มิใช่ว่าเขาจะผิดแต่ประการใด ด้วยเหตุและผล และความรู้สึกของเรา..ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติ..เราคิดว่ามันไม่ใช่..ไม่เกี่ยวกับความถูกต้องหรือถูกใจ ทุกอย่างต้องดูกันที่ข้อมูลและสถานการณ์ด้วย
วันนี้..เขตพื้นที่การศึกษาฯให้ผมร่วมเป็นคณะกรรมการฯพิจารณาโรงเรียนขนาดเล็ก ที่สมควรได้รับงบประมาณจัดซื้อคอมพิวเตอร์..เป็นงบปี ๒๕๖๓ ของสพฐ. แต่เป็นนโยบายของรมว.ศธ.ซึ่งเป็นแผนเฉพาะกิจและงานเร่งด่วนมาก...
ประชุมวันนี้..ให้ส่งผลการประชุมภายในวันนี้..พิจารณาโรงเรียนที่มีนักเรียน ๖๑ – ๑๒๐ คน ข้อมูลโรงเรียนมี ๒๗ โรงเรียน สพฐ.มิได้บอกว่าจะให้เขตละกี่โรง ให้จัดอันดับความต้องการขึ้นไป..ถ้าได้รับพิจารณา งบประมาณจะอยู่ที่โรงละ..สองแสนสี่หมื่นบาท
การประชุมเสร็จสิ้นไปเป็นที่เรียบร้อย ท่านผอ.เขตตั้งข้อสังเกตผม ที่พยายามอภิปรายให้โรงเรียนต่างๆได้รับประโยชน์..ผมขอเป็นโรงเรียนสุดท้าย
เพราะผมถูกฝึกมาให้รู้จักคำว่า “พอเพียง”และ ผมทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการฯควรหรือที่จะใช้ตำแหน่งเพื่อกอบโกยเข้าโรงเรียนตัวเอง..แต่ต้องยึดธรรมเนียมที่ควรปฏิบัติ..
หน้าที่ของเขตฯคือต้องรายงานข้อมูล จะได้รับจัดสรรหรือไม่..เป็นหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการ..ดูเหมือนว่า..กระทรวงฯจะห่วงใยโรงเรียนขนาดเล็กเสียเหลือเกิน
ทั้งที่ในความเป็นจริง โรงเรียนขนาดเล็ก ก็เคยได้รับจัดสรรครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์มาบ้างแล้ว..และหลังสุด..รัฐทุ่มงบมากมายมหาศาลเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ DLTV
ครูทุกคน ทุกโรงเรียนทราบดีว่า “คอมพิวเตอร์”มิได้เป็นทุกสิ่งทุกอย่างอีกต่อไปแล้ว ความสำคัญอยู่ที่ “ครู”และการบริหารจัดการ DLTV ที่จะนำพาโรงเรียนสู่ทางรอด..ไม่โดนยุบ
“หัวใจ”ของเรื่องนี้น่าจะอยู่ที่โรงเรียนหลัก..ที่จะนำโรงเรียนเล็กมากๆมารวม อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับจัดสรรคอมพิวเตอร์ นี่คือการบีบรัดและกดดัน ให้การยุบควบรวมโรงเรียน บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมเร็วขึ้น
สวนทางกับความต้องการจำเป็นของโรงเรียนหลายร้อยโรงทั่วประเทศ ที่ถูกตัดงบประมาณค่าครุภัณฑ์ที่ดินสิ่งก่อสร้าง..เพราะสถานการณ์โควิด ๑๙..เดือดร้อนกันไปทุกหย่อมหญ้า..
คนละเรื่องกันเลยกับการเรียนการสอน “ออนไลน์”ที่บ้านผู้ปกครอง ซึ่งยังไม่รู้ทิศทางว่าเป็นอย่างไร? และจะมีชะตากรรมเป็นเช่นไร...
ตรงกันข้ามกับคนยากคนจนที่หิวโหยทั่วประเทศ ไปรอคิวอย่างปวดร้าว เพื่อเงินห้าพันบาท..รวมทั้งงานสาธารณสุขไทยที่ต้องใช้เงินอย่างมากมาย..ซึ่งยังไม่นับรวม..อสม.ที่ต้องทำงานเสี่ยงภัยและยากลำบาก
ขณะนี้ สพฐ.ใช้งบประมาณเพื่อพัฒนาโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล..มิใช่น้อย..มีแผนและโครงการฯรองรับชัดเจน..เพื่อเป็นต้นแบบและส่งผลให้การยุบโรงเรียนเล็กนั้นทำได้ง่ายขึ้น
แต่ไม่เคยรู้ปัญหา..หรือแกล้งไม่รู้..ว่าแท้จริงนั้นโรงเรียนเล็กๆบางโรงที่ยุบเขาไม่ได้ เขาต้องการอะไร?..และแทบจะไม่ได้ดูแลโรงเรียนขนาดกลางที่มีเด็กมากกว่า ๑๒๐ คน
ผมจึงขอเรียนท่านผู้อ่าน..ท่านผู้ปกครองตรงนี้เลยว่า..งานนี้..เป็นการใช้เงินงบประมาณที่ไม่สอดคล้องกับการเรียนการสอนที่แท้จริง..กล่าวคือ..
โรงเรียนขนาดเล็กและโรงเรียนขนาดกลาง(บางโรง)ที่เรียนทางไกล..ทาง DLTV. เขาใช้แบบเรียน ที่เรียกว่า..”สื่อ ๖๐ พรรษาสมเด็จพระเทพฯ”
สพฐ.ให้โรงเรียนซื้อหนังสือเรียน ๑๐๐ % แต่หลายปีมาแล้ว ที่ซื้อมาแล้วก็ใช้ได้เพียง ๕๐ % ที่เหลือแทบจะไม่ได้ใช้ประโยชน์เลย...แต่ก็ต้องซื้อให้ครบทุกคน..ทุกชั้น
สพฐ.ก็รู้..เพราะเป็นคนแจกสื่อแบบเรียนสมเด็จพระเทพฯ โดยให้ต้นฉบับห้องละ ๑ เล่ม/สาระวิชา หากครูจะให้เด็กมีครบกันทุกคน ต้องไปถ่ายเอกสารกันเอง...
และการที่นักวิชาการ..มาพูดออกสื่อ ให้ผู้ปกครองเป็นผู้ช่วยครูสอนที่บ้าน..ด้วย DLTV ถ้าเขารู้ว่า..ต้องใช้แบบเรียนเฉพาะทาง..มันก็น่าจะไม่ง่ายอย่างที่หลายคนคิด..
ผมจึงรู้สึกแปลกๆ ในยามที่ยากลำบากกันทั่วประเทศเช่นนี้ การศึกษา..มาคิดเรื่องแจกคอมพิวเตอร์ให้โรงเรียน... ทั้งที่ทุกห้องเรียนมีทีวีและสมาร์ทโฟน..และที่สำคัญที่สุด..
สื่อแบบเรียนของสมเด็จพระเทพฯดังกล่าว..เป็นที่ทราบกันดีว่า “ดีเยี่ยม”เป็นที่ยอมรับกันทั่วประเทศ..ใช้งบประมาณน้อยกว่าเยอะ..และตรงตามวัตถุประสงค์ของการเรียนการสอนเพื่อมุ่งสู่คุณภาพ..ของโรงเรียนขนาดเล็ก..อย่างแท้จริง
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๕ พฤษภาคม ๒๕๖๓
ท่าน ผอ. นี่แหละ กล้าคิดกล้าพูด ตัวจริง
ขอแสดงความชื่นชมครับ ;)…
เบื่อครับ…กับนโยบายกระจอกและปัญญาอ่อน..ของรัฐมนตรี…