สิ่งที่เป็นจริงตามมุมมองมหายานคือ ตถตา อย่างเดียว สิ่งที่เหลือล้วนของปลอมทั้งนั้นเพราะเป็นเพียงแค่ปรากฎการณ์เท่านั้น
ฝ่ายมหายานมีเป้าหมายการสอนชาวโลก 8 ข้อ คือ
1.สอนธรรมเพื่อเชิญชวนเพื่อนมนุษย์ให้ละเว้นจากความทุกข์รับความสุขสงบเย็น ( นิพพาน )
2.สอนธรรมเพื่อให้เพื่อนมนุษย์ได้เข้าใจคำสอนอย่างถูกต้องของตถาคต ( พระผู้ไปอย่างนั้น )
3.สอนธรรมเพื่อให้มีความเชื่อมั่นและดำรงมั่นไม่เสื่อมคลาย
4.สอนธรรมเพื่อส่งเสริมจิตให้แก่กล้ายิ่งขึ้น
5.สอนธรรมเพื่อรักษาจิตให้ผ่องแผ้ว
6.สอนธรรมเพื่อคอยเตือนจิตตนเมื่อเกิดญาณรู้ผิดก็แก้ไขให้เกิดความถูกต้องชอบธรรม
7.สอนธรรมเพื่อตามคุ้มครองจิตใจตนที่มีความเชื่อมั่นอยู่แล้วอย่างไม่เสื่อมคลาย ( ตามคติพุทธานุสสติกรรมฐาน )
8.สอนธรรมเพื่อชี้แนะให้เห็นอานิสงส์ต่าง ๆ และส่งเสริมให้บรรลุโพธิญาณ
คำสอนมหายานเน้นจิตหนึ่งเดียว มี 2 ทัศนะ คือ จิตที่เป็นบ่อเกิด ตถาคตครรภะ และจิตที่เป็นรูปลักษณ์ปรากฎการณ์ ซึ่งหมายถึงหมู่สัตว์เน้นคนมีเกิดมีดับอยู่ในสังสารวัฏ
การอธิบายจิตที่เป็นสภาวะเนื้อแท้หรือตถาคตครรภะนั้น ไร้เพิ่มไร้ลด เป็นเช่นนั้น แต่จิตที่เป็นรูปลักษณ์ปรากฎการณ์ มีคุณสมบัติ มีอิทธิพลทั้งในโลกนี้และโลกอื่นที่จิตเกี่ยวข้องอยู่ แต่สภาวะของจิตดังกล่าวนี้ท่านนาคารชุนกล่าวทำนองว่า ไม่มีความแตกต่างกันเลยระหว่างสังสารวัฏและนิพพานเพราะรูปลักษณ์ทั้งสองนี้ผสมกันอยู่
ด้วยธรรมชาติของจิตนั้นโดยเนื้อแท้แล้วไม่มีเกิดไม่มีดับ และไร้ภาษาอธิบายได้จึงเรียกว่า ตถตาคือเป็นเช่นนั้น และสรรพสิ่งแห่งตถตา ล้วนอยู่พ้นกำหนดของกาลเวลา เมื่อทำความเข้าใจคำว่า ตถตา มี 2 รูปลักษณ์คือ
1.เป็นสิ่งที่ว่างเปล่าอย่างแท้จริง เรียกว่า ศูนยะ
2.เป็นสิ่งที่ไม่ว่างเปล่าอย่างแท้จริง เรียกว่า อศูนยะ เพราะในตถตา ยังมีคุณสมบัติและอิทธิพลปรากฏอยู่ซึ่งยังกลมกลืนอยู่กับสัมโพธิญาณ เมื่อการหยั่งรู้ถึงจิตที่เป็นบ่อเกิดได้ นั่นคือการตรัสรู้สัมโพธิญาณขั้นสุดท้าย สำหรับพระโพธิสัตว์ผู้ได้ธรรมกายแล้วก็เป็นอิสระจากความคิดผิด.
ขอบคุณครับ คุณศุภณัฐ เจตน์ครองสุข